บทความนี้ขอมาเอาใจมือใหม่ที่เพิ่งถอยรถคันแรกเกี่ยวกับข้อมูลเรื่อง พ.ร.บ. รถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนใช้รถใช้ถนนจะต้องรู้และทำความเข้าใจ เพราะ พ.ร.บ.รถ ถือเป็นประกันภาคบังคับที่รถทุกคันบนท้องถนนจะต้องมี เพื่อคุ้มครองและเยียวยาในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุ เรามาดูกันดีกว่าว่า ประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง
หากเกิดอุบัติเหตุ อย่างแรกเลยก็คือคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บเป็นค่าเสียหายเบื้องต้น จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/คน
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนถึงขั้นพิการ สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ จะได้รับเงินชดเชยจำนวน 35,000 บาท/คน
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตก็จะได้รับเงินชดเชยจำนวน 35,000 บาท/คน
หากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาล แล้วต่อมาเสียชีวิตระหว่างการรักษาจะได้รับคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท/คน และเงินค่าชดเชยการเสียชีวิตจำนวน 35,000 บาท/คน รวมแล้วไม่เกิน 65,000 บาท/คน
พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง นอกจากคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งสองฝ่ายเบื้องต้นโดยไม่คำนึงฝ่ายใดผิดถูกแล้ว ต่อมาหลังจากที่ได้พิสูจน์ทราบฝ่ายถูก-ผิดของอุบัติเหตุกันแล้ว ยังชดเชยให้กับคู่กรณีหรือฝ่ายถูกเพิ่มเติมด้วย โดยฝ่ายถูกจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
ผู้ประสบเหตุหรือทายาทโดยชอบธรรมสามารถขอทำเรื่องเบิกเคลมประกันจาก พ.ร.บ.ได้โดยตรงจากบริษัทประกัน หรือจะมอบอำนาจให้ทางโรงพยาบาลเป็นผู้ดำเนินการแทนก็ได้ โดยมีหลักฐานที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบแจ้งหนี้ค่ารักษาพยาบาลหรือหนังสือรับรองการรักษาตัวเป็นผู้ป่วย ในกรณีเสียชีวิตต้องมีใบมรณบัตรและสำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสืบสวน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยว่า พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้างกันไปพอสมควร ซึ่งผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ควรมองข้าม ควรต่อ พ.ร.บ. ตามกำหนดทุกปีไม่ควรปล่อยให้ขาด เพราะเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยสามารถเลือกซื้อ ทั้ง พ.ร.บ. และประกันรถยนต์ได้ที่เว็บไซต์ของ insurverse เช็กเบี้ย พ.ร.บ. ได้ที่นี่!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
พ.ร.บ. ประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองผู้เสียหายจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยอื่น ๆ
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ของคนมีรถยนต์ทุกคน โดยเราต้องต่อภาษีประจำปีและเตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งรถแต่ละประเภท ก็จะเสียภาษีในราคาที่ต่างกันไปตามข้อกำหนด
สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่าได้กับรถยนต์ทั่วไป เหนือระดับด้วยความเป็น รถไฟฟ้า ev ประหยัดพลังงาน