• บทความ
• keyboard_arrow_right
• ไลฟ์สไตล์

เช็กราคาแบตเตอรี่รถยนต์ได้ที่นี่ก่อนใคร แนะนำแบตเตอรี่สำหรับรถคุณ

เมื่อใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไปประมาณ 3 – 4 ปี ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่ เพราะหากฝืนใช้แบตเตอรี่เก่า ก็มีโอกาสที่จะจ่ายไฟไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าเดิม ส่งผลให้รถยนต์เกิดปัญหา ตามมา เช่น ไฟหน้าใช้การไม่ได้ รถสตาร์ทไม่ติด ฯลฯ หากใครกำลังมองหาแบตเตอรี่ใหม่ เราเช็กราคาแบตเตอรี่รถยนต์จากค่ายดังมาให้คุณแล้วที่นี่ รับรองว่าได้แบตเตอรี่ที่ใช่แน่นอน

เช็กราคาแบตเตอรี่รถยนต์จาก 5 แบรนด์ดังค่ายต่าง ๆ

1. แบตเตอรี่รถยนต์ 3K รุ่น NS40ZL ราคา1,900 บาท

แบตเตอรี่แบบน้ำ 11 ช่องแผ่น ขนาด 12.7×19.5×22.2 เซนติเมตร กำลังไฟ 35 แอมป์ กำลังสตาร์ท (CCA) 274

2. แบตเตอรี่รถยนต์ YUASAรุ่น 50B24L-MF 2,100 บาท

แบตเตอรี่แบบแห้ง 13 ช่องแผ่น ขนาด 12.5 x 23.8 x 20.1 เซนติเมตร กำลังไฟ 45 แอมป์ กำลังสตาร์ท (CCA) 325

3. แบตเตอรี่รถยนต์ FB รุ่น 38B19L-MF (S-500) 1,800 บาท

แบตเตอรี่ประเภทกึ่งแห้ง 11 ช่องแผ่น ขนาด 12.5 x 18.4 x 22.7 เซนติเมตร กำลังไฟ 35 แอมป์ กำลังสตาร์ท(CCA) 285

4. แบตเตอรี่รถยนต์ GS รุ่น NS60R 2,200 บาท

แบตเตอรี่แบบน้ำ 13 ช่องแผ่น ขนาด 12.9 x 23.8 x 22.5 cm กำลังไฟ 45 แอมป์ กำลังสตาร์ท (CCA) 325

5. แบตเตอรี่รถยนต์ VARTA รุ่น 42B20L 2,000 บาท

แบตเตอรี่แบบแห้ง 9 ช่อง ขนาด 12.9 x 19.7 x 22.7 cm กำลังไฟ 35 แอมป์ กำลังสตาร์ท (CCA) 340

เช็กราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไปแล้ว เลือกแบตเตอรี่แบบไหนดี

1. ประเภทของแบตเตอรี่

จากการเช็กราคาแบตเตอรี่รถยนต์ของ 5 แบรนด์ จะเห็นได้ว่าแบตเตอรี่รถยนต์มีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. แบตเตอรี่แบบน้ำ ราคาถูกกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น มักเป็นแบตเตอรี่ประเภทขั้วลอย ทำให้ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษว่าน้ำกลั่นจะหมดเมื่อไหร่ หรือมีขี้เกลือติดอยู่ที่ขั้วของหัวแบตเตอรี่หรือไม่ เพราะหากรักษาไม่ดีแล้ว ก็มีโอกาสที่สายไฟของแบตเตอรี่ขาด นำไปสู่ปัญหาเครื่องยนต์ดับตามมา
2. แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ราคาแพงที่สุด เนื่องจากไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น เหมือนกับแบตเตอรี่แบบน้ำ และแบบกึ่งแห้ง แถมค่า CCA มากกว่าแบตเตอรี่กลุ่มอื่น เลยสตาร์ทรถติดได้เร็ว แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ความทนทานน้อย ทำให้อายุการใช้งานสั้นกว่า จึงควรหลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดด เพื่อยืดอายุการใช้งาน
3. แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง ราคาแพงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ ไม่จำเป็นต้องคอยเติมน้ำกลั่นสม่ำเสมอ ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าแบตเตอรี่กึ่งแห้ง เป็นเพราะแม้องค์ประกอบจะคล้ายกับแบตเตอรี่แบบแห้ง กล่าวคือ ประกอบด้วย ตะกั่ว และแคลเซียม แต่ก็ยังต้องจำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นอยู่

2. ขนาดของแบตเตอรี่

การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่ควรเลือก แบตเตอรี่ขนาดใกล้เคียงเท่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาติดตั้งแบตเตอรี่แล้วไม่สามารถเสียบเข้ากับช่องของแบตเตอรี่ได้

3. แอมป์ของแบตเตอรี่

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ไม่จำเป็นต้องเลือกขนาดแบตเตอรี่ค่าแอมป์สูง ๆ เสมอไป ควรเลือกขนาดแอมป์ให้สอดคล้องกับขนาดของเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1,200 -1,500 CC ใช้แบตเตอรี่ขนาด 45 – 60 แอมป์ก็เพียงพอแล้ว

เมื่อเช็กราคาแบตเตอรี่รถยนต์และเลือกแบตเตอรี่ที่ใช่ได้แล้ว ก็ควรหมั่นตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอว่าน้ำกลั่นน้อยเกินไป หรือมีคราบเกลือ เศษฝุ่นไปเกาะบริเวณขั้วหรือเปล่าเพื่อยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น และไม่ทำให้รถยนต์ดับกลางทางเหตุ เพราะแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม

ถึงแม้ว่าจะตรวจสอบสภาพรถยนต์ หรือแบตเตอรี่แล้ว หากกังวลว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ ก็สามารถทำเรื่องต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้เลยที่เว็บไซต์ insurverse ซึ่งมีกรมธรรม์ให้เลือกหลากหลายทั้งประกันชั้น 1 ชั้น 2 + ชั้น 3+ และประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 รับรองว่าได้ประกันที่ใช่สำหรับรถคุณ เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ที่นี่!