• บทความ
• keyboard_arrow_right
• ไลฟ์สไตล์

จิ้งจกตกใส่หัว ลางดีหรือลางร้าย? เปิดความเชื่อโบราณที่น่าสนใจ

ชีวิตนี้ไม่เคยขออะไรมาก แค่ขออยู่เงียบ ๆ ใต้เพดานบ้านตัวเองแบบปลอดภัย แต่จู่ ๆ ‘จิ้งจก’ ก็มาตกใส่หัวซะงั้น! หลายคนคงแอบคิดว่า เอ๊ะ นี่คือสัญญาณดีหรือร้ายกันแน่? วันนี้เรามาแกะคำตอบ พร้อมเปิดทุกความเชื่อที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการตกของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวจิ๋วนี้กัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าโดนจิ้งจกตกใส่หัว แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ลอง เช็คเบี้ยประกันอุบัติเหตุ จาก insurverse ดู บอกเลยว่าไม่ได้แพงอย่างที่คิด แถมยังได้ความคุ้มครองที่เหมาะสม ให้คุณสบายใจได้แม้ออกจากบ้านแล้วโดนจิ้งจกทัก

(https://www.naewna.com/likesara/600266)

จิ้งจกตกใส่หัว = ลางดีหรือไม่ดี?

ลางดี: สัญญาณของโชคลาภ

ในบางตำรา คนโบราณเชื่อว่าถ้าจิ้งจกตกใส่หัวในช่วงเวลาเช้า หรือในวันสำคัญ เช่น วันขึ้นบ้านใหม่ วันมงคลต่าง ๆ นี่ถือว่าเป็นลางดีสุด ๆ เพราะแปลว่าคุณกำลังจะได้รับโชคลาภแบบไม่คาดฝัน หรืออาจได้พบโอกาสที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะถ้าเป็นจิ้งจกที่ตกแล้วกระโดดหนีไปเร็ว ๆ นั่นแปลว่าโชคกำลังมุ่งมาหาคุณแบบไม่รีรอ

ลางร้าย: เตือนให้ระวัง

แต่ในอีกมุมหนึ่ง คนเฒ่าคนแก่หลายคนก็บอกว่า ถ้าจิ้งจกตกใส่หัวในช่วงเวลาพลบค่ำ หรือตกใส่แล้วมันไม่หนีไปไหน อาจเป็นลางเตือนให้ระวัง โดยเฉพาะเรื่องอุบัติเหตุ การเดินทาง หรือการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ ๆ ในชีวิต ต้องคิดให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นอาจเจอปัญหาที่ไม่คาดคิดได้

จิ้งจกตกใส่ตำแหน่งต่าง ๆ บนตัว หมายถึงอะไร?

ตำแหน่งที่จิ้งจกตกใส่ก็มีผลต่อความหมายในเชิงความเชื่อโบราณ มาดูตำแหน่งต่าง ๆ และความหมายกันดีกว่า

• ตกใส่หัว
  ถือว่าเป็นตำแหน่งที่คนมักพูดถึงมากที่สุด ถ้าเป็นช่วงเช้า ลางดีแน่นอน แต่ถ้าตกใส่ตอนเย็น ต้องระวังเรื่องการเดินทางและสุขภาพ
  Tip: ถ้ารู้สึกไม่ดี ให้ลองอาบน้ำสะเดาะเคราะห์หรือสวดมนต์ขอพรเพื่อเสริมพลังงานบวก
• ตกใส่ไหล่
  เชื่อกันว่าถ้าตกใส่ไหล่ซ้าย อาจต้องระวังเรื่องคนใกล้ตัว นินทา หรือมีเรื่องเข้าใจผิด แต่ถ้าตกใส่ไหล่ขวา เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่ดี เช่น ได้งานใหม่ หรือโอกาสใหม่ที่รออยู่
• ตกใส่ขา
  ถ้าตกใส่ขา คนโบราณมองว่าอาจมีเรื่องให้ต้องเดินทางไกลแบบไม่ทันตั้งตัว หรืออาจต้องเผชิญกับภาระที่หนักขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลเกินไป เพราะมักเป็นสิ่งที่คุณจะผ่านไปได้
• ตกใส่มือ
  ตกใส่มือส่วนใหญ่จะเป็นลางดี เพราะสื่อถึงการได้รับบางสิ่งที่ดี เช่น โอกาสใหม่ ๆ เงินทอง หรือข่าวดีจากคนที่อยู่ไกล
• ตกใส่หลัง
  ถ้าจิ้งจกตกใส่หลัง คนโบราณมักบอกให้ระวังเรื่องคำพูดหรือการกระทำที่อาจกลับมาทำให้เราเดือดร้อนในอนาคต

รวมความเชื่อเกี่ยวกับจิ้งจก เล่าขานตำนานสัตว์ทำนายโชค

1. จิ้งจกร้องทัก ห้ามเดินทาง

เชื่อว่าถ้าจิ้งจกร้องทักในจังหวะที่กำลังจะออกจากบ้าน ควรหยุดและตั้งสติ เพราะเสียงร้องนั้นถือเป็นการเตือนถึงอันตรายหรือสิ่งไม่ดีที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเสียงที่มาจากด้านหลัง จะยิ่งถูกมองว่าเป็น “ลางร้าย” ที่ควรระวัง อย่างน้อยก็พักการเดินทางหรือเปลี่ยนแผนก่อนเพื่อความปลอดภัย

2. จิ้งจกตกใส่ ดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับจุดที่ตก

จิ้งจกตกใส่ศีรษะมักถูกมองว่าเป็นลางที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต บางครั้งอาจหมายถึงโชคลาภ หรือโอกาสใหม่ ๆ แต่ถ้าตกใส่ส่วนอื่น เช่น ไหล่ หรือขา อาจตีความได้ว่าเป็นสัญญาณเตือนให้ระวังเรื่องสุขภาพหรือการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ดังนั้นเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ควรสังเกตตัวเองและดูแลรอบด้าน

3. จิ้งจกสองหาง สัญลักษณ์แห่งโชคลาภ

ถ้าเคยเจอจิ้งจกสองหางถือว่าโชคดีสุด ๆ ในบางตำราโบราณบอกว่าจิ้งจกที่มีสองหางคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถดึงดูดโชคลาภและพลังงานบวกเข้าบ้านได้ บางคนถึงขั้นเลี้ยงไว้เพื่อเสริมดวงการเงิน แต่ต้องดูแลแบบไม่ให้ขาดความเคารพ เพราะเชื่อว่าสัตว์ชนิดนี้มีวิญญาณคุ้มครอง

4. จิ้งจกออกหากินตอนกลางวัน สัญญาณของสิ่งผิดปกติ

จิ้งจกส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวตอนกลางคืน แต่ถ้าพบว่าออกมาหากินหรือปีนป่ายในช่วงกลางวัน เชื่อกันว่านี่อาจเป็นลางเตือนถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น เช่น เรื่องการเงิน การงาน หรือสุขภาพของคนในบ้าน วิธีแก้คือการทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อปรับสมดุลพลังงาน

5. จิ้งจกร้องในทิศต่าง ๆ

ในตำราโบราณมีการตีความเสียงร้องของจิ้งจกตามทิศทาง เช่น

• ทิศเหนือ: บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดี เช่น การเดินทางราบรื่น
• ทิศตะวันตก: เตือนให้ระวังความสูญเสียหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว
• ทิศตะวันออก: บอกถึงโอกาสใหม่ในเรื่องงานหรือความสัมพันธ์
• ทิศใต้: สื่อถึงโชคลาภและความมั่งคั่งที่กำลังมา

6. จิ้งจกในบ้าน ผู้ปกปักษ์รักษา

จิ้งจกที่อาศัยอยู่ในบ้านโดยไม่สร้างความเดือดร้อน มักถูกมองว่าเป็นผู้พิทักษ์ คอยไล่แมลงหรือสิ่งไม่ดีให้บ้านสงบสุข แต่ถ้าจู่ ๆ หายไปหรือจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว เช่น การย้ายบ้านหรือความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป

วิธีแก้เคล็ดเมื่อจิ้งจกตกใส่

บางทีจิ้งจกตกใส่หัวอาจทำให้คุณรู้สึกสะดุ้งเฮือก หรือแอบคิดว่า “เอ๊ะ ลางอะไรเปล่า?” แต่ตามความเชื่อโบราณ ถ้ามีอะไรมาสะกิดใจแบบนี้ เราสามารถแก้เคล็ดเพื่อเสริมความสบายใจได้นะ

1. ล้างหน้า ล้างตา แล้วเริ่มใหม่

จิ้งจกตกใส่หัว? ล้างหน้าสักทีเถอะ! ไม่ใช่แค่สะอาดนะ แต่ยังช่วยเปลี่ยนพลังงานลบให้เป็นบวก ล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วพูดในใจว่า “สิ่งไม่ดีผ่านไปแล้ว ขอสิ่งดีเข้ามา” แค่นี้ก็รู้สึกโล่งขึ้น

2. เดินออกจากจุดเกิดเหตุ

ความเชื่อหนึ่งบอกว่า ถ้าจิ้งจกตกใส่ตรงไหนให้เดินออกจากบริเวณนั้นก่อน เป็นการเปลี่ยนทิศทางพลังงาน แถมยังเป็นการป้องกันไม่ให้โดนซ้ำอีก

3. สวดมนต์เสริมความมั่นใจ

สายมูต้องมา! ลองสวดมนต์บทชินบัญชรหรือคาถาเรียกโชคลาภเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น “นะโมตัสสะ” 3 จบ หรือบทแผ่เมตตา เพื่อเสริมความสงบในจิตใจ

4. หาของมงคลพกติดตัว

ถ้ารู้สึกว่าต้องแก้ลาง ลองพกเครื่องรางหรือหินมงคลเสริมดวงติดตัวไว้ เช่น หินไหมทอง (เสริมโชคลาภ) หรือจี้พระประจำวันเกิด ให้รู้สึกอุ่นใจ

5. ทำบุญตักบาตรเสริมดวง

อีกวิธีที่ช่วยได้ทั้งใจและชีวิต คือการทำบุญ เช่น ถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลา หรือบริจาคสิ่งของเพื่อผู้ยากไร้ สิ่งดี ๆ เหล่านี้จะช่วยเสริมพลังบวกให้วันของคุณดีขึ้น

6. จุดธูปขอขมาเจ้าที่

ตามความเชื่อบางบ้าน หากรู้สึกว่าจิ้งจกตกใส่เป็นสัญญาณเตือนจากเจ้าที่ ลองจุดธูปไหว้เจ้าที่หน้าบ้าน 3 ดอก แล้วขอขมา พร้อมพูดขอให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น

7. เปลี่ยนมุมมองเป็นลางดี

จิ้งจกอาจไม่ได้มาเตือนเรื่องร้าย แต่เป็นการสะกิดให้ระวังตัวมากขึ้น การเปลี่ยนวิธีคิดเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ก็ถือว่าแก้เคล็ดทางใจได้ดี

สุดท้ายไม่ว่าจิ้งจกตกใส่หัวจะเป็นลางดีหรือลางร้าย สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ เพราะชีวิตจริงไม่มีจิ้งจกมาเตือนล่วงหน้า! แต่ถ้าอยากมั่นใจมากขึ้น Insurverse ประกันอุบัติเหตุช่วยดูแลคุณได้ ไม่ว่าจะตกใจแค่ไหนก็อุ่นใจตลอดเส้นทางชีวิต

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจิ้งจกตกใส่ตัว