ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของรถยนต์ที่ต้องการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ แม้ต้องจ่ายเบี้ยประกันราคาต่อปีเท่าไหร่ ก็ยังคงคุ้มค่าเสมอหากเกิดอุบัติเหตุเพียงครั้งเดียว หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยคุ้มครองอุบัติเหตุที่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนนที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีแล้วละก็ มาดูรายละเอียดประกันชั้น 2 ช่วยอะไรได้บ้าง? แล้วเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกินกี่ปีกันเถอะ insurverse ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาให้คุณแล้ว
ประกันชั้น 2 คือประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่ช่วยคุ้มครองรถยนต์ให้มีหลักประกันรับรองเรื่องค่าใช้จ่ายหนักๆ ที่เกิดจากคู่กรณี แล้วประกันชั้น 2 สามารถเคลมได้ไหม เคลมได้ในส่วนของรถไฟไหม้, น้ำท่วมหรือรถหาย รวมถึงกรณีเกิดเหตุรถชนรถ ซึ่งถ้าถามว่าประกันชั้น 2 ซ่อมคู่กรณีไหม? ตอบเลยว่าประกันชั้นนี้เกิดมาเพื่อซ่อมรถให้แค่เพียงคู่กรณีโดยเฉพาะ ซึ่งนั่นหมายความว่าประกันชั้นนี้ไม่ซ่อมรถผู้ทำประกัน พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 2ซ่อมเขาแต่ไม่ซ่อมเรา แต่ถ้ารถชนแบบไม่มีคู่กรณีประกันชั้น 2 ไม่คุ้มครอง อาทิ รถชนต้นไม้หรือรถชนฟุตบาท เป็นต้น
ประกันชั้น 2 เหมาะกับใคร? คุ้มค่าจริงไหม เพราะเห็นได้ชัดว่ามีข้อจำกัดหลายอย่าง ต้องบอกก่อนว่าหากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกสาเหตุ จำเป็นต้องเลือกประกันชั้น 1 ไปเลย แต่ด้วยราคาเบี้ยประกันที่แพงที่สุด ถ้าหากไม่ค่อยได้ใช้รถประกันภัยชั้น 1 อาจจะไม่เหมาะมากนัก ดังนั้นจึงมีประกันชั้น 2 ที่เหมาะสำหรับคนใช้รถน้อย, ไม่ค่อยได้ใช้งานรถบ่อยๆ , คนขับรถคล่องหรือคนที่มั่นใจว่าโอกาสในการชนที่เกิดจากตัวเองมีน้อยไม่ไปขับรถชนใครอยู่แล้ว เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่า ยังไงเจ้าของรถก็ย่อมรักรถของตัวเองกันอยู่แล้ว ถ้าอยากจะดูแลรถให้ถึงที่สุด แต่เงินในกระเป๋ายังติดลบก็อาจจะแวะมาซบประกันรถยนต์ชั้น 2 รถเก่าดูก่อนก็ได้ แต่ถ้าอยากมองหาทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่ประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็ยังมีประกันชั้นอื่นๆ ให้เลือก แต่ก่อนอื่นควรรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุรถกับการทำประกันรถกันก่อน ว่ารถไม่เกินกี่ปีจึงจะทำประกันแต่ละชั้นได้ จะได้ไม่ปล่อยไก่เวลาไปเลือกซื้อประกันนั่นเอง
ใครถอยรถใหม่หรือออกรถป้ายแดง ควรเลือกทำประกันชั้น 1 ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ 1-2 ปีแรก เพื่อเป็นตัวช่วยที่ดี หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด จะได้มีประกันชั้น 1 คุ้มครองได้อย่างครอบคลุมทุกกรณี
ประกันชั้น 2+ เหมาะสำหรับรถที่มีอายุประมาณ 3-5 ปี มาพร้อมกับราคาเบี้ยประกันที่ถูกลง ซึ่งเอาจริงๆ ความคุ้มครองอื่นๆ ก็พอจะเทียบเท่าประกันชั้น 1 ได้อยู่ แค่แตกต่างกันในส่วนของการชน จะต้องชนแบบมีคู่กรณีหรือรถชนรถเท่านั้น ถึงจะเคลมประกันได้
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เหมาะสำหรับรถที่มีอายุ 5-7 ปี แล้วประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง? คุ้มครองแค่เพียงรถคู่กรณี ส่วนรถผู้ทำประกันภัยนั้นจะได้รับความคุ้มครองเฉพาะกรณีรถหาย, รถไฟไหม้และน้ำท่วมเท่านั้น
ประกันชั้น 3+ เหมาะสำหรับรถที่มีอายุ 7-15 ปี ให้ความคุ้มครองรถเราและรถคู่กรณี ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์รถชนกันประกันก็พร้อมซ่อมรถให้ทั้งคู่ แต่ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย, น้ำท่วมหรือไฟไหม้เท่านั้น
สำหรับใครที่มีรถเก่าไม่ค่อยได้ใช้และมีอายุ เช่นรถ 15 ปี, รถ 20 ปีหรือรถเก่าที่มีอายุมากกว่านี้ เลือกทำประกันชั้น 3 เอาไว้ได้เลย จะได้รับความคุ้มครองกรณีรถชนรถ ประกันจะจ่ายค่าซ่อมรถให้กับคู่กรณี ส่วนรถเราประกันไม่ซ่อมให้ อย่างไรก็ตาม ถือว่าประกันชั้นนี้ยังคงเป็นทางเลือกที่ดี จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหนักๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นเอง
สำหรับเจ้าของรถที่มีงบประหยัดแต่อยากซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ไว้ เลือกประกันรถยนต์ชั้น 2ตอบโจทย์ทั้งเรื่องราคาและความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเลือกแบบ 2 หรือ 2+ ก็ช่วยให้เซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก แล้วควรทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ที่ไหนดี? หากยังไม่มีประกันเจ้าไหนในใจลอง คลิกดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์กับทาง insurverse ดูก่อนได้คลิกที่นี่ เป็นประกันที่มีราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋า หลักพันก็ได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุม แถมพร้อมให้ความช่วยเหลือแบบฉับไว ตลอด 24 ชม.อีกด้วย รับรองอุ่นใจในความปลอดภัยที่ได้รับแน่นอน
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง