หลายคนอาจยังความเข้าใจผิดเรียกป้ายภาษีรถยนต์กันว่าพ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งความจริงนั้นทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งเดียวกันเลย insurverse จึงได้นำข้อแตกต่างว่าพ.ร.บ.รถยนต์คืออะไร เคลมอะไรได้บ้างและเอกสารพ.ร.บ. หน้าตาเป็นอย่างไรกันมาเล่าสู่กันฟัง จะทำให้แต่ละท่านมั่นใจได้มากขึ้นว่าสองอย่างนี้มีความแตกต่างกัน
พ.ร.บ.รถยนต์คือประกันภัยรถยนต์รูปแบบหนึ่งที่เป็นฉบับภาคบังคับ ที่คนมีรถทุกคนจำเป็นต้องทำ เพราะข้อกฎหมายได้กำหนดเอาไว้ให้ต้องทำ หากใครไม่ทำก็อาจถูกปรับและเสียผลประโยชน์หลายอย่างเลยทีเดียว สำหรับคนที่จ่ายค่าพ.ร.บ.รถยนต์อยู่ทุกปีๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพ.ร.บ.รถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง ตามมาดูความคุ้มครองได้เลย ซึ่งหลักๆ แล้วจะช่วยคุ้มครองคนใช้รถ ใช้ถนนทั้งหมดตั้งแต่คนขับรถ, คนโดยสารหรือคนเดินถนนทั่วไป หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น พ.ร.บ.พร้อมจ่ายเงินชดเชยให้ทันที ไม่ว่าจะเบิกค่ารักษาพยาบาลรวมถึงเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตด้วย
พ.ร.บ.รถยนต์เป็นประกันสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่พร้อมมอบความคุ้มครองให้กับทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นมา ก็พร้อมเป็นหลักประกันรับรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับชีวิตให้กับทุกท่านรวมถึงคู่กรณีด้วย ถ้าได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุก็จะได้รับเงินชดเชยและค่าดูแลรักษาพยาบาล ซึ่งสามารถเรียกค่าสินไหมจากพ.ร.บ.รถยนต์ได้ทันทีหรือไม่เกิน 180 วันหลังจากเกิดเหตุ เพียงแค่นำเอกสารต่างๆ ไปยื่นกับบริษัทประกันที่ซื้อพ.ร.บ.ไว้แล้วให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ตามจริง
ภาษีรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่คนมีรถยนต์ต้องต่ออายุและจ่ายกันอยู่ทุกปี หากขาดการต่ออายุเกิน 3 ปี จะทำให้ทะเบียนรถถูกระงับ ความแตกต่างพ.ร.บ.กับภาษีรถยนต์ก็คือ ภาษีรถเป็นเงินในส่วนที่ภาครัฐจะนำไปพัฒนาเส้นทางและถนนหนทางในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นส่วนพ.ร.บ.เป็นตัวหลักประกันสำคัญที่เอาไว้มอบความปลอดภัยให้กับคนใช้รถใช้ถนน แต่ก่อนที่จะต่อภาษีรถยนต์ได้นั้น จำเป็นต้องไปยื่นต่อพ.ร.บ.รถยนต์กันก่อน
หลังจากต่ออายุพ.ร.บ.แล้ว จะได้รับเอกสารกรมธรรม์ประกันภัยขนาด A4 แนะนำให้นำมาเก็บไว้ในรถได้เลย เผื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะได้หาเอกสารมาเคลมขอเงินชดเชยได้ง่าย แต่ไม่จำเป็นต้องนำมาแสดงไว้ที่หน้ารถให้เห็นชัดเหมือนป้ายภาษีแต่อย่างใด ส่วนป้ายภาษีนั้น เมื่อทุกท่านต่ออายุภาษีรถยนต์เรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับป้ายวงกลมที่เป็นตัวบอกว่า รถคันนี้ได้จ่ายภาษีแล้วมา ให้นำไปติดหน้ารถให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนได้เลย
ซึ่งป้ายภาษีหรือป้ายวงกลมนี้จะมีการระบุวันหมดอายุอย่างชัดเจน หากผ่านด่านตรวจหรือเจอตำรวจจราจร แล้วตำรวจมองเห็นป้ายนี้หมดอายุ ตำรวจสามารถเรียกค่าปรับได้ ซึ่งสามารถปรับได้ตั้งแต่ 400-1,000 บาทเลยทีเดียว ดังนั้นทุกท่านจึงควรต่อพ.ร.บ.รถยนต์เพื่อที่จะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ จะทำให้ได้ป้ายวงกลมหรือป้ายภาษีมาติดรถเอาไว้เสมอ ทำให้ทุกท่านได้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง
สาเหตุที่เรียกป้ายภาษีรถยนต์ถูกเรียกว่าป้ายพ.ร.บ.กันจนติดปาก เนื่องจากการต่ออายุพ.ร.บ.กับการต่อภาษีนั้น มักเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน ถ้ารถคันไหนมีป้ายภาษีหรือป้ายวงกลมติดหน้ารถแล้ว ทุกคนก็จะเข้าใจกันว่า “อ๋อรถคันนี้ต่อพ.ร.บ.รถยนต์แล้ว” เพราะการจะต่อภาษีจนได้ป้ายวงกลมมานั้นจะต้องต่ออายุพ.ร.บ.ก่อน จึงทำให้หลายคนสับสนและคิดว่าป้ายที่ติดอยู่หน้ารถคือป้ายพ.ร.บ.นั่นเอง
ปัจจุบันมีช่องทางการทําพ.ร.บ.ออนไลน์ ที่ช่วยให้ทุกท่านสามารถจัดการกับเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ได้ง่ายขึ้น อย่างที่ insurverse สามารถซื้อพ.ร.บ.ออนไลน์ราคาถูกกว่าแบบไม่ต้องรอคิว ซื้อแล้วคุ้มครองทันที รับกรมธรรม์ไปต่อภาษีได้เลย ทำได้ง่ายจากที่บ้านได้เลย สะดวกสบายมากๆ เพียงเข้าไปเลือกข้อมูลรถ แล้วดูข้อมูลราคาพ.ร.บ.รถยนต์ที่ต้องจ่าย จากนั้นก็สั่งซื้อได้เลย ถ้าใครเคยต่อพ.ร.บ.ออนไลน์แล้วจะรู้เลยว่า การทำเองผ่านหน้าเว็บไซต์นั้นง่ายสุดๆ แถมยังมีบริการแจ้งเตือนก่อนหมดอายุอีกด้วย รับรองไม่กลัวลืมต่ออายุทันทุกปีแน่นอน
เมื่อรู้แล้วว่าป้ายภาษีรถกับพ.ร.บ.รถยนต์ต่างกันอย่างไร ก็ถึงเวลาเตรียมตัวเช็กวันหมดอายุของพ.ร.บ.แล้วรีบดำเนินการต่ออายุ ซึ่งทุกท่านสามารถทําพ.ร.บ.ออนไลน์ล่วงหน้าได้ 3 เดือนก่อนวันหมดอายุ สามารถเลือกต่ออายุออนไลน์กับ insurverse ได้เลย บริษัทประกันภัยออนไลน์ที่มั่นคงที่สุด ให้ทุกท่านจ่ายเบี้ยประกันถูกที่สุดอย่างเป็นส่วนตัว คลิกที่นี่ได้เลยเพื่อเช็กราคาต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ตามยี่ห้อรถที่ต้องการรับรองซื้อพ.ร.บ.ออนไลน์ราคาถูกกว่าแน่นอน เพราะใครๆ ก็เลือกใช้ พ.ร.บ.รถยนต์ที่ insurverse เห็นราคาชัด ปรับค่าเบี้ยได้ดั่งใจ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
วันนี้ insurverse จะมาแนะนำวิธีการทำพ.ร.บ.รถยนต์ออนไลน์สำหรับมือใหม่ ในโลกยุคดิจิทัล ซึ่งบอกเลยว่าการทำพ.ร.บ.รถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
ใครที่ยังไม่ได้ทำพ.ร.บ.รถยนต์บอกเลยว่า ห้ามละเลยนะ! เพราะพ.ร.บ.ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ขับขี่รถทุกประเภท โดยเฉพาะรถยนต์ 4 ประตู
ว่าด้วยเรื่องขับขี่ในทุกๆ วันนี้ นอกจากจะต้องทำประกันภาคสมัครใจหรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อประกันรถยนต์แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือพ.ร.บ.
