ประกัน 2 กับ 3 ต่างกันยังไง? เชื่อว่าเป็นคำถามสุดยอดฮิตสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ออนไลน์เพื่อเสริมความคุ้มครองให้รถยนต์ของตนเองอยู่ จะเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็อดใจไม่ไหวกับราคาของประกันชั้น 3 เลยไม่แน่ใจว่าตัวเลือกไหนน่าจะเป็นแนวทางที่ใช่มากกว่ากัน ถ้าไม่อยากว้าวุ่นตามมาดูข้อมูลที่ insurverse รวบรวมมาให้ได้เลย จะได้รู้ว่าความคุ้มครองประกันชั้น 2 แตกต่างจากประกันชั้น 3 อย่างไร? ควรเลือกซื้อแบบไหนถึงจะดีต่อใจมากที่สุด ไปตามหาคำตอบกันเลย
ประกันชั้น 2 คืออะไร? ประกันรถยนต์ชั้น 2 คือแผนประกันภาคสมัครใจที่ให้ความคุ้มครองแก่ชีวิต, ร่างกาย, การบาดเจ็บและทรัพย์สิน ถ้าสงสัยว่าประกันชั้น 2 ซ่อมคู่กรณีไหม? สำหรับความคุ้มครองทรัพย์สินที่กล่าวมานั้นก็คือทรัพย์สินของคู่กรณีเพียงอย่างเดียว พูดง่ายๆ ก็คือประกันชั้น 2 นี้ซ่อมให้คู่กรณีเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ซ่อมรถเรา แต่ประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็ยังมีความคุ้มครองดีๆ ที่มองข้ามไปไม่ได้นั่นก็คือเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองรถผู้ทำประกันภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์รถไฟไหม้หรือรถสูญหายเป็นต้น
การทำประกันรถยนต์ชั้น 2 ไม่ได้คุ้มครองรถผู้ทำประกันภัยกรณีเกิดอุบัติเหตุก็จริง แต่ควรรู้ข้อดีไว้ว่าประกันชั้น 2 ช่วยอะไรได้บ้าง? ข้อดีที่สำคัญมากที่สุดก็คือเป็นประกันชั้นที่มอบความคุ้มครองให้ผู้ขับขี่ได้แบบเกินหน้าเกินตาประกันชั้น 3 มากๆ เพราะประกันชั้น 2 คุ้มครองอย่างครอบคลุมไปถึงกรณีรถสูญหาย, ถูกชิงทรัพย์, ถูกปล้นทรัพย์, ถูกยักยอกทรัพย์และกรณีรถไฟไหม้ด้วย
ประกันชั้น 2 ซ่อมคู่กรณีไหม? คำตอบก็คือซ่อมเฉพาะรถคู่กรณีเพียงอย่างเดียว แต่ข้อเสียคือจะไม่คุ้มครองรถของผู้ทำประกันภัยเลย ยิ่งการชนแบบไม่มีคู่กรณีหรือหากรถไปชนสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถ อาทิ รถชนต้นไม้หรือรถชนฟุตบาท หากเกิดกรณีรถชนที่ไม่มีคู่กรณีเป็นตัวตนแบบนี้ประกันไม่รับซ่อมให้เลย
สำหรับการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2 มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่ขับรถคล่องและมีความมั่นใจว่าขับรถดีแบบนี้คงไม่ไปชนใครเขาหรอก ห่วงแต่จะมีคนเข้ามาขับชนมากกว่า หากเกิดกรณีรถชนรถขึ้นมา ถ้าทำประกันชั้น2 เอาไว้ ก็ปล่อยให้บริษัทประกันช่วยจ่ายค่าซ่อมรถให้คู่กรณีไปได้เลย ส่วนประกันชั้น 2 ไม่ซ่อมรถให้กับเจ้าตัวไม่เป็นไร เพราะถ้าเป็นฝ่ายถูกยังไงบริษัทประกันของคู่กรณีก็ซ่อมรถให้อยู่ดี
นอกจากนี้ยังเป็นประกันที่เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถไม่บ่อยหรือคนที่ไม่มีที่จอดเป็นของตัวเอง ต้องจอดรถในพื้นที่เปลี่ยวบ่อยๆ อีกด้วย
เมื่อเอ่ยถึงประกันชั้น 3 ที่มีราคาถูกเกินห้ามใจ หลายๆ คน ก็อาจรู้อยู่แล้วว่าเป็นประกันรถยนต์ราคาถูกที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะการซ่อมรถให้กับคู่กรณีเพียงอย่างเดียว แล้วประกันรถยนต์ชั้น 3 ครอบคลุมอะไรบ้าง? ก็จะได้รับความคุ้มครองตามวงเงินกรมธรรม์ที่ได้ระบุไว้ในส่วนของค่าชดเชยรายได้ของผู้บาดเจ็บ, ค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายประกันตัวหากต้องขึ้นศาลหรือค่าใช้จ่ายสำหรับการสู้คดีหลังเกิดอุบัติเหตุ
อย่างน้อยการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ก็เป็นตัวช่วย Save ค่าใช้จ่ายยามเกิดอุบัติเหตุ หากเผลอขับรถโดยประมาทแล้วขับไปชนใครขึ้นมาก็ไม่ต้องเครียดเพียงลำพัง เพราะประกันรถยนต์ชั้น 3 จะจัดการเรื่องค่าค่าเสียหายให้แก่รถคู่กรณีแทนเรา ทั้งนี้ต้องรีบแจ้งประกันโดยทันทีและห้ามเคลื่อนย้ายรถโดยเด็ดขาด
ประกันชั้น 3 ไม่คุ้มครองอะไรบ้างนั้นถือว่าเป็นข้อเสียของประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่หลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว ยามเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม หากรถชนกันขึ้นมาก็ต้องซ่อมรถเอง เพราะทางบริษัทประกันจะไม่คุ้มครองรถผู้ทำประกันทุกกรณี
ประกันรถยนต์ชั้น 3 ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีรถหลายคันแล้วต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องเบี้ยประกันรถและยังเหมาะสำหรับคนที่มีที่จอดรถส่วนตัว ค่อนข้างปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมรถหรือรถไม่มีความเสี่ยงต่อไฟไหม้ เป็นต้น
ประกันรถยนต์ชั้น 2 กับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 เปรียบดั่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบ สำหรับใครที่อยากรู้ว่ารถเก่าทำประกันชั้น 3 ได้ไหมสามารถทำได้แน่นอนเพราะเป็นประกันที่ไม่จำกัดอายุรถ ถ้าต้องการเช็กข้อมูลประกันเพื่อตามหาประกันที่มีความคุ้มครองที่ชอบในราคาที่ใช่ ก็ไว้วางใจ insurverse ให้ดูแลรถลูกรักของทุกท่านได้เลย คลิกดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์จาก insurverse ที่นี่ได้เลย ซื้อง่าย พร้อมรับความคุ้มครองได้ทันที บริการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง