สำหรับคุณเจ้าของรถในอนาคตต้องเตรียมความพร้อมให้ดี ว่าออกรถใหม่ใช้อะไรบ้าง ทั้งในเรื่องของการออกรถใหม่ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มีขั้นตอนการรับรถใหม่อะไรบ้างที่เราต้องรู้ เพื่อการตรวจสอบด้วยตัวเองเบื้องต้น พอได้รู้ข้อมูลออกรถใหม่ใช้อะไรบ้าง เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงสุดท้าย เป็นการเลือกประกันภัยรถยนต์ที่จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้ทุกการขับขี่ของคุณ ยิ่งถ้าใครเป็นมือใหม่หัดขับคู่กับรถยนต์คันแรก แนะนำว่าควรเก็บรายละเอียดทุกข้อ ทำความเข้าใจให้ครบถ้วนจะดีต่อตัวคุณที่สุด
ออกรถใหม่ใช้อะไรบ้าง กับเอกสารที่ต้องเตรียมทั้งหมด 8 รายการ คือ สมุดจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มสีฟ้า), คู่มือรถยนต์, ใบโอนรถยนต์, เอกสารการเช่าซื้อรถยนต์กับทางไฟแนนซ์, เอกสาร พ.ร.บ. รถยนต์, เอกสารประกันรถยนต์ทั้งหมด, เอกสารรับประกันตัวรถยนต์จากศูนย์บริการ และใบเสร็จสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งก่อนที่จะนำรถยนต์ออกจากศูนย์ เราควรรู้ข้อมูลนี้ก่อนว่าออกรถใหม่ ใช้เอกสารอะไรบ้าง เพื่อเช็กให้เรียบร้อย และเป็นการป้องกันข้อพิพาทหรือปัญหาที่อาจตามมาได้ในอนาคต
ออกรถใหม่ใช้อะไรบ้างในส่วนของค่าใช้จ่าย ในส่วนนี้มีสิ่งที่เราต้องชำระให้เสร็จสรรพทั้งหมด 7 รายการ คือ เงินดาวน์รถยนต์ หรือเงินผ่อนงวดแรก, ค่ามัดจำป้ายแดง, ค่าประกันรถยนต์, ค่าจดทะเบียน, ค่าอุปกรณ์เสริม, ค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายสำรอง โดยในแต่ละค่าใช้จ่ายที่เราแนะนำมาทั้งหมด สามารถติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ดังนี้
ออกรถใหม่ต้องใช้อะไรบ้างในแต่ละขั้นตอน คำตอบ คือ การตรวจเช็กสภาพรถยนต์รอบคัน, ตรวจเช็กเอกสารและคู่มือที่มากับรถ และเช็กฤกษ์ออกรถสำหรับสายมู สามารถติดตามอ่านรายละเอียดที่น่าสนใจ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าถอยรถใหม่ ใช้อะไรบ้างแบบครบทุกขั้นตอน
โดยเฉพาะคนที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดง รถคันแรกของตัวเอง ต้องรู้ให้ได้เลยว่าควรตรวจสอบสภาพรถยนต์รอบคันจุดไหนบ้าง ซึ่งภาพรวมที่ต้องเช็กเลย คือ เช็กภายนอกตัวถังกับภายในห้องโดยสาร และเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าออกรถใหม่ต้องใช้อะไรบ้างในการตรวจสอบทุกจุด เลื่อนลงไปหาคำตอบเพิ่มเติมได้จากหัวข้อย่อยทั้ง 2 ต่อจากนี้เลย
ตรวจเช็กเอกสารและคู่มือที่มากับรถให้พร้อม เช่น เลขถึงตรงกับข้อมูลในเล่มทะเบียน, ใบเสร็จรับเงินดาวน์, เอกสารสัญญาเช่าซื้อ, ใบเสร็จมัดจำค่าป้ายแดง, เอกสารรับประกันอุปกรณ์, ใบประกันเช็กระยะ และเอกสารอุปกรณ์ตกแต่ง (หากมี)
เช็กฤกษ์ออกรถสำหรับสายมู เพื่อดูว่าวันไหนมีความเป็นสิริมงคลมากที่สุดในการรับรถยนต์ออกมาจากศูนย์ พร้อมกับเป็นวันแรกที่เราต้องขับขี่บนท้องถนนใหญ่อย่างจริงจัง ใครที่มีความเชื่อเรื่องนี้ ในปัจจุบันฤกษ์ออกรถสามารถหาอ่านได้ง่ายตามช่องทางออนไลน์ เพราะมีการแชร์ต่อเนื่องจากเหล่าอาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก รวมถึงบางช่องทางยังมีวันที่ และระบุเวลาเอาไว้ให้อย่างชัดเจนด้วย
ได้รู้ข้อมูลว่าออกรถใหม่ใช้อะไรบ้างไปแบบครบถ้วนแล้ว ลองมาเสริมด้วยการเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถคันใหม่ของคุณกันสักหน่อยดีกว่า ว่าเลือกประเภทไหน จะค่อนข้างเหมาะสมมากที่สุด
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประเภทประกันภัยที่สามารถคุ้มครองได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด เริ่มตั้งแต่การคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี (เช่น ชนต้นไม้, ฟุตบาท, เสาไฟ, แบริเออร์) ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมรถยนต์ ค่าชดเชยทรัพย์สิน ก็มีดูแลพร้อมในวงเงินที่ค่อนข้างสูง และถ้าใครกังวลเรื่องน้ำท่วม ทางประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็พร้อมดูแลให้ด้วย นอกเหนือจากนั้นยังดูแลคุ้มครองเมื่อรถยนต์ไฟไหม้ หรือโดนโจรกรรมอีกต่างหาก ใครอยากดูแลได้ครอบคลุมที่สุด ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแน่นอน
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างมาก แต่มีค่าเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าเกือบครึ่ง สิ่งที่แตกต่างจากประเภทแรก คือ ไม่มีการคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หรือถ้าหากโดนชนแล้วหนี ตามจับคู่กรณีไม่ได้ ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง แต่ส่วนอื่น ๆ นั้นคุ้มครองอย่างครอบคลุมเหมือนกัน ถ้าใครมีความเชี่ยวชาญในการขับรถ สามารถขับได้โดยที่ไม่ใช่มือใหม่หัดขับ อยากประหยัดงบประมาณ ตัวเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็นับว่าเป็นการคุ้มครองที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
สรุปแล้วออกรถใหม่ใช้อะไรบ้างที่เหล่าเจ้าของรถในอนาคตควรรู้ ทาง insurverse ก็ได้แนะนำกันไปอย่างครบถ้วนแล้ว เพื่อไม่ให้พลาดจุดไหนไป อย่าลืมจดจำหรือทำเช็กลิสต์ของตัวเองให้พร้อมเลยว่าถอยรถใหม่ ใช้อะไรบ้างในครั้งนี้ และสุดท้ายถ้าสนใจสมัครประกันรถยนต์ หรือขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อหา insurverse ได้ที่เบอร์ 02-842-9899
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง