อุบัติเหตุเพียงหนึ่งครั้ง อาจส่งผลกับคุณมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการเสียเวลาในการดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ความเสียหายทางร่างกายและทรัพย์ และโดยเฉพาะความเสียหายกับตัวรถ ที่อาจทำให้คุณหน้ามืดเลยทีเดียว หากเคยประสบปัญหารถคู่ใจสีถลอก มีร่องรอยความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรถชนคู่กรณี รถชนฟุตบาท รอยถลอกจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ ก็ตาม แล้วเราจะต้องจัดการอย่างไรกับสถานการณ์เหล่านี้ดี ?
อย่างที่ทราบกันว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสำหรับความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันที่เกิดจากอุบัติเหตุ แต่หากเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง หรือร่องรอยที่เสื่อมสภาพจากการใช้งาน หรือการดูแลรักษา ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะไม่ได้ให้การคุ้มครอง โดยผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) โดยคิดตามจำนวนร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นบนรถด้วยตัวเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ทางบริษัทกำหนดไว้
หากใครที่กำลังต้องการเคลมสีรถรอบคัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากอะไรก่อนดี ? วันนี้เรามีขั้นตอนการแจ้งเคลมสีง่าย ๆ มาบอก
หากในกรณีที่ได้ทำการเคลมเปลี่ยนสีรถยนต์ โดยการทำสีใหม่ทั้งคัน สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ การแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ต่อบริษัทประกันภัย และกรมขนส่ง ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลตามมาได้
หากคุณได้ทำการเปลี่ยนสีรถยนต์ใหม่แล้วไม่ได้แจ้งกับทางบริษัทประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะทำให้ไม่สามารถเคลมความเสียหายจากอุบัติเหตุนั้นได้ เนื่องจากสีของรถยนต์ไม่ตรงตามข้อมูลที่แจ้งไว้ตอนทำกรมธรรม์ หรือไม่มีการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
รถยนต์ที่ได้จดทะเบียนไว้ หากมีการเปลี่ยนสีรถยนต์ เจ้าของรถจะต้องทำการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนสีนั้น หากเกินกำหนดจะมีความผิด ระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติรถยนต์ (พรบ.) พ.ศ. 2522
การทำประกันชั้น 1 จะช่วยให้คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ แม้อาจจะไม่สามารถเคลมสีได้รอบคันตามต้องการ แต่หากมีร่องรอยที่เกิดจากอุบัติเหตุร่วมด้วยแล้ว ก็จะช่วยให้คุณสามารถเบาใจเรื่องงบประมาณได้พอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้น หาประกันชั้น 1 ที่ไว้ใจได้ เคลมง่าย ไม่วุ่นวาย เพื่อช่วยดูแลรถคู่ใจของคุณ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง