หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า ค่าเบี้ยประกันรถยนต์สามารถลดลงได้ หากเราเข้าใจถึงเงื่อนไขของประกันรถยนต์อย่างละเอียด แต่ถ้ารู้สึกว่ามันยุ่งยากเกินไปที่จะทำความเข้าใจ วันนี้เรามีวิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์มาฝาก อ่านจบ ทำตามได้ทันที
การขอปรับค่าเบี้ยประกันรถยนต์ลดลงนั้นทำได้ไม่ยาก เพียงเลือกใช้ 6 วิธีที่เรานำมาเสนอวันนี้ไปใช้ รับรองว่าจะได้จ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกลง และประหยัดเงินในกระเป๋าไปใช้จ่ายส่วนต่อได้แน่นอน
วิธีแรก คือ การเปรียบเทียบราคา และความคุ้มครองของประกันแต่ละประเภทกันไปเลยตรงๆ เพราะง่ายที่สุดในการเลือกประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการในราคาที่จ่ายไหว
หากคุณเป็นคนที่ขับรถอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว การเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกจะคุ้มกว่าการเลือกไม่จ่าย เพราะหากคุณไม่มีการเฉี่ยวชนเลย ก็จะไม่เสียค่าเคลมในส่วนนี้ แถมยังช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์รายปีลงไปด้วย
เพราะการมีกล้องติดหน้า-หลังรถ จะช่วยบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างขับขี่ ซึ่งบริษัทประกันพิจารณาว่า ผู้ขับขี่จะมีความระมัดระวังมากขึ้น จึงสามารถขอลดเบี้ยประกันรถยนต์ลงได้ 5-10%
การซื้อประกันแบบระบุคนขับ ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถขอลดเบี้ยประกันรถยนต์ลงได้มากถึง 20% ซึ่งบางกรมธรรม์สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ถึง 3 คน
คนที่มีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือใช้การเคลมเกินกำหนด สามารถขอส่วนลดจากการมีประวัติการขับขี่ดีกับทางบริษัทประกันภัยที่ทำอยู่ได้ หรือจะขอกับบริษัทประกันภัยเจ้าใหม่ที่จะย้ายไปก็ได้เช่นกัน ส่วนค่าเบี้ยประกันรถยนต์ลดลงปีละเท่าไหร่ ไปดูกัน
การเลือกซ่อมอู่ ก็เป็นอีกวิธีที่ขอลดเบี้ยประกันรถยนต์ลงได้ เพราะมีค่าบริการที่ถูกกว่าศูนย์บริการ เพียงแต่ว่า ผู้ทำประกันก็ต้องเลือกอู่ที่อยู่เครือของบริษัทประกันภัย หรือเป็นอู่ที่ได้มาตรฐานในการซ่อมเสียหน่อยเท่านั้น
เดี๋ยวนี้ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์สามารเช็คได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทประกัน พร้อมข้อมูลรายละเอียดในกรมธรรม์ต่างๆ และยังมีในรูปแบบแอปพลิเคชันที่สามารถดูได้ตลอดเวลา จึงสะดวกมากๆ
เพราะค่าเบี้ยประกันรถยนต์ เป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างมาก การรู้จักเงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงการขอล่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์ จึงเป็นเรื่องที่คนใช้รถไม่ควรมองข้าม เพราะหากทบกันไปหลายปี ก็นับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่เลยทีเดียว
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง