ถ้าพูดถึงประกันรถยนต์ชั้น 3 แล้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด ไม่น่าทำหรือมองว่าไม่คุ้มที่จะทำ แต่รู้หรือไม่ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ช่วยคุ้มครองได้มากกว่าที่คุณคิด ลองทำความเข้าใจประกันรถยนต์ชั้น 3 กันใหม่ เผื่อคุณอาจเปลี่ยนใจมาลองทำประกันรถยนต์ชั้น 3 มาดูกันเลย
ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นให้ความคุ้มครองคุณในกรณีที่เกิดเหตุชนแบบมีคู่กรณี
ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้คู่กรณี หากคุณมีประกันรถยนต์ชั้น 3 ทางประกันจะจัดการตามวงเงินในกรมธรรม์ของท่านให้กับคู่กรณี
หากคุณต้องเข้าโรงพยาบาล ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็ช่วยในค่ารักษาตามวงเงินในกรมธรรม์เช่นกัน หายห่วงได้
ข้อควรระวังหากเกิดสิ่งเหล่านี้ประกันรถยนต์ชั้น 3 ไม่สามารถให้เคลมกับคุณได้
คุณต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถตนเอง
ให้กรณีแบบนี้จะครอบคลุมในส่วนของประกันรถยนต์ชั้น 2 ขึ้นไปเท่านั้นในประกันรถยนต์ชั้น 3 ไม่คุ้มครองในส่วนนี้
อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะจะทำประกันรถยนต์ชั้น 3 แต่ก็มีหลายคนที่เหมาะจะทำเช่นกัน อย่างเช่น
หากขับรถมานานประสบการณ์ก็มากพอที่จะระวังและรับรู้อุบัติเหตุได้และเลี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย มีสติในการขับรถสูง แต่ก็เผื่อในกรณีไม่คาดคิดไว้ก่อน จึงเหมาะมากที่จะทำประกันรถยนต์ชั้น 3
เหตุผลที่เหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 3 คือ รถที่มาอายุการใช้งานมาก แปลว่าผู้ขับมีประสบการณ์หรือหากต้องซ่อมรถอาจไม่คุ้มนอกจากออกรถใหม่ เพราะประกันชั้น 3 ไม่ครอบคลุมส่วนค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถของผู้ขับขี่ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3 จึงเหมาะมากกับรถที่มีอายุการใช้งานที่สูง และเช่นเดียวกับรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เพราะไม่ได้ใช้งานบ่อยการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็เป็นการประหยัดค่าเบี้ยประกันได้อีกด้วย
ประกันรถยนต์ชั้น 3 มีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองคู่กรณีหากเกิดการชน และเบี้ยประกันที่ถูกมากเมื่อเทียบกับประกันชั้นอื่น ๆ การมีประกันไว้กับรถยังไงก็ดีกว่าไม่มีแน่นอน เลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่ใช่สำหรับคุณ ให้คุณอุ่นใจทุกครั้งที่ต้องขับรถ ให้คุณได้สบายใจแม้จะเกิดเหตุไม่คาดคิด เลือกทำประกันรถยนต์ทั้งที เลือกดี ๆ กับตัวคุณ เลือก insurverse ให้เราคุ้มครองคุณ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง