การทำสีรถยนต์ใหม่ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าและยืดอายุการใช้งานของรถได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำสีเพราะต้องการเปลี่ยนลุค หรือแก้ไขรอยขีดข่วนจากอุบัติเหตุ ราคาของการทำสีรถขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่คุณภาพของสี ขนาดรถ ไปจนถึงประเภทของอู่ที่เลือกใช้ แต่ไม่ว่าคุณจะลงทุนกับสีรถมากแค่ไหน หากไม่มีประกันรถยนต์ที่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ก็อาจต้องควักเงินจ่ายซ่อมเองอีกครั้ง ประกันรถชั้น 2+ จาก insurverse ช่วยให้คุณวางใจได้ ด้วยแผนคุ้มครองที่เลือกได้เอง จ่ายเท่าที่จำเป็น และซื้อตรงแบบไม่ผ่านตัวแทน ให้ทุกการเดินทางของคุณปลอดภัยไร้กังวล
การทำสีรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องของสีสันสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ราคาพุ่งขึ้นหรือลดลงได้ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้กระเป๋าเงินเบาหรือหนักขึ้นหลังจากเข้าอู่ทำสี
สีรถยนต์ไม่ได้มีแค่สีพื้นธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมีแบบเมทัลลิค ไข่มุก หรือสีพิเศษที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะ สีธรรมดาจะถูกที่สุด ส่วนสีเมทัลลิคหรือไข่มุกจะมีราคาสูงกว่า เพราะต้องใช้ขั้นตอนการพ่นหลายชั้นและวัสดุที่มีคุณภาพสูงกว่า
สีจากแบรนด์ดังอย่าง PPG, DuPont หรือ 3M จะมีราคาสูงกว่าสีทั่วไป เนื่องจากคุณภาพของสีที่ดีกว่า ทนทานต่อแสงแดดและสภาพอากาศได้มากกว่า ทำให้สีไม่ซีดจางง่ายในระยะยาว
รถยนต์ขนาดเล็ก เช่น Honda Jazz หรือ Toyota Yaris จะมีราคาทำสีถูกกว่ารถยนต์ SUV หรือรถตู้ เนื่องจากพื้นที่ที่ต้องทำสีน้อยกว่า ดังนั้นยิ่งรถใหญ่ ยิ่งเสียเงินมากขึ้น
ถ้าทำสีแค่บางจุด เช่น กันชนหรือฝากระโปรง ราคาจะถูกกว่าการทำสีทั้งคันแน่นอน แต่ต้องระวังเรื่องการเข้ากันของสีเก่าและใหม่ด้วย เพราะถ้าสีไม่เนียน อาจต้องเสียเงินซ้ำอีกรอบเพื่อแก้ไข
ถ้ารถมีรอยบุบ รอยขีดข่วน หรือสนิม อู่จะต้องทำการขัดผิวและซ่อมแซมก่อนทำสี ซึ่งจะเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นอีก ถ้ารถอยู่ในสภาพดีอยู่แล้ว ราคาก็จะถูกลง
ราคานี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสีและอู่ที่เลือก บางอู่ที่มีชื่อเสียงหรือใช้วัสดุเกรดพรีเมียมอาจเรียกเก็บแพงกว่านี้
ถ้าทำสีหลายจุดพร้อมกัน อาจต่อรองราคาได้บ้าง แต่ต้องเช็กให้ดีว่าผลงานออกมาคุ้มค่าราคาหรือไม่
การเลือกใช้สีเมทัลลิคหรือไข่มุกทำให้รถดูหรูหราและโดดเด่นกว่าเดิม แต่ราคาก็แรงขึ้นตามไปด้วย เช่น ถ้าทำสีทั้งคันด้วยสีเมทัลลิค อาจเพิ่มขึ้น 20-30% จากราคาปกติ ส่วนสีไข่มุกอาจเพิ่มขึ้นถึง 40% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ สีพิเศษที่ต้องผสมเฉพาะหรือใช้เทคนิคพิเศษ อาจทำให้ราคาพุ่งขึ้นถึง 50% ขึ้นไป แต่ก็แลกมากับความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ใครชอบความแตกต่างก็จัดไป แต่ถ้าคิดถึงเรื่องการดูแลรักษาในระยะยาว สีเหล่านี้อาจต้องดูแลมากกว่าสีธรรมดา
การเลือกอู่ทำสีรถยนต์มีผลต่อทั้งราคาและคุณภาพงาน ถ้าเลือกอู่เล็ก ๆ ราคาจะถูกกว่า แต่คุณภาพอาจไม่เสถียรเท่าอู่ใหญ่ที่มีชื่อเสียง
อู่มาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากบริษัทประกันหรือมีชื่อเสียงในวงการมักจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพและเครื่องมือทันสมัย แต่ราคาก็สูงกว่าอู่ทั่วไป อู่ทั่วไปอาจมีราคาถูกกว่า 20-30% แต่ต้องระวังเรื่องความเรียบร้อยและการรับประกันผลงาน
อู่ที่ดีจะมีการรับประกันผลงาน 1-3 ปี ถ้าไม่มีการรับประกัน ควรระวัง เพราะถ้ามีปัญหาภายหลังอาจต้องเสียเงินซ้ำซ้อน
ก่อนตัดสินใจทำสี ควรเช็กรีวิวหรือดูผลงานเก่าของอู่ ถ้ามีตัวอย่างงานที่ดูดีและลูกค้าพอใจ แสดงว่าอู่มีความน่าเชื่อถือ
นอกจากค่าทำสีแล้ว ยังมีค่าบริการเสริมอื่น ๆ ที่อาจต้องจ่ายเพิ่ม เช่น
การตัดสินใจทำสีรถยนต์ใหม่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งเรื่องราคา คุณภาพของสี และมาตรฐานของอู่ซ่อมรถ หากเลือกอู่ที่มีมาตรฐานและวัสดุคุณภาพดี แม้ราคาสูงกว่าหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่าในระยะยาว และที่สำคัญ อย่าลืมดูแลรถของคุณให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ประกันรถยนต์จาก insurverse ให้คุณเลือกแผนคุ้มครองได้เอง ไม่ต้องจ่ายแพงเกินจำเป็น พร้อมบริการใบเคลมอิเล็กทรอนิกส์ที่สะดวก รวดเร็ว เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ ได้ง่าย ๆ วันนี้ แล้วขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง
หลายคนสงสัยว่าต้องทิ้งรถไว้นานแค่ไหน คำตอบคือขึ้นอยู่กับขนาดของงาน ถ้าทำสีทั้งคันอาจใช้เวลาตั้งแต่ 3-7 วัน แต่ถ้าทำเฉพาะจุดเล็ก ๆ อาจใช้เวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น ทั้งนี้ยังขึ้นกับคิวงานและความยุ่งของอู่ด้วย
นอกจากการไม่ล้างรถด้วยน้ำแรงดันสูงแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการจอดตากแดดจัดนาน ๆ หรือการขัดเคลือบสีทันที เพราะสีต้องใช้เวลาประมาณ 30 วันในการเซ็ตตัวเต็มที่
ถ้าทำสีใหม่เพราะซ่อมอุบัติเหตุที่เคลมประกัน บริษัทประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเปลี่ยนสีใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเอง ต้องแจ้งขนส่งเพื่อแก้ไขเล่มทะเบียน และบางบริษัทประกันอาจปรับเบี้ยเล็กน้อย
สามารถเลือกสีใหม่ที่แตกต่างจากสีเดิมได้ แต่ต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงสีรถกับกรมการขนส่งทางบกภายใน 7 วันหลังทำสีเสร็จ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ปัญหานี้เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การผสมสีที่ไม่แม่นยำ การพ่นสีที่ไม่สม่ำเสมอ หรือแม้แต่แสงไฟในอู่ที่ทำให้สีดูต่างจากตอนออกมาเจอแสงธรรมชาติ การขอดูตัวอย่างสีจริงก่อนทำจะช่วยลดปัญหานี้ได้
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
กระจกรถยนต์ไม่ได้เป็นแค่หน้าต่างของรถ แต่ยังเป็นโครงสร้างที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับตัวรถ ป้องกันลม ฝุ่น และเสียงรบกวนจากภายนอก การเลือกอู่ซ่อมกระจกรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การส่งรถเข้าอู่สี ไม่ใช่แค่เรื่องของการซ่อมรอยขีดข่วนหรือทำให้รถกลับมาสวยเหมือนเดิม แต่ยังเกี่ยวข้องกับมาตรฐานงานพ่นสี เทคนิคการเตรียมพื้นผิว และประเภทของสีที่ใช้ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพงานซ่อมทั้งหมด
เครื่องยนต์เป็นเหมือนหัวใจของรถ ถ้าทำงานไม่ปกติ รถทั้งคันก็พังได้ง่าย ๆ อาการเครื่องยนต์รวนไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะบางครั้งอาจเป็นเพียงสัญญาณเตือนเล็ก ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเสียเงินก้อนโตในการซ่อม