vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ขัดสีรถอย่างไรให้เงางามเหมือนใหม่โดยไม่ต้องง้อช่าง

ขัดสีรถอย่างไรให้เงางามเหมือนใหม่โดยไม่ต้องง้อช่าง

schedule
share

การขัดสีรถอาจดูเหมือนเรื่องยาก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้รถกลับมาเงางามเหมือนใหม่ ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเข้าร้านซ่อมบำรุงบ่อย ๆ แถมยังช่วยปกป้องผิวสีรถจากรอยขีดข่วนและคราบสกปรกต่าง ๆ อีกด้วย แต่การดูแลรถให้เงาวับไม่ใช่แค่เรื่องของการขัดสีเท่านั้น เพราะเมื่อพูดถึงการดูแลรถ การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นก็สำคัญไม่แพ้กัน insurverse ให้คุณออกแบบแผนประกันได้เอง ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อง่ายผ่านออนไลน์ 100% ไม่ต้องง้อเจ้าหน้าที่เหมือนการขัดสีรถที่ไม่ต้องง้อช่างเลยทีเดียว

ทำความรู้จักกับการขัดสีรถให้ดีเสียก่อน

การขัดสีรถไม่ได้เป็นแค่การถู ๆ ถู ๆ ให้ผิวเงา แต่จริง ๆ แล้วมันคือการฟื้นฟูผิวสีรถให้กลับมาเหมือนใหม่ ลบคราบสกปรกฝังลึก รอยขนแมวเล็ก ๆ หรือแม้แต่คราบน้ำที่ติดแน่นมานาน การขัดจะช่วยคืนชีวิตชีวาให้กับสีรถที่เริ่มหมอง โดยการขัดจะทำให้ผิวสีที่เสื่อมสภาพถูกลบออก เผยชั้นสีใหม่ที่ยังคงความเงางามอยู่ใต้พื้นผิวเดิม ที่สำคัญยังช่วยป้องกันสนิมที่อาจเกิดจากคราบสกปรกหรือคราบน้ำฝังแน่นอีกด้วย

การขัดสีรถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้งขัดลบรอย ขัดฟื้นฟูผิว และขัดเคลือบเงา ซึ่งแต่ละแบบมีจุดประสงค์ต่างกัน เช่น ถ้ารถมีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ จากการใช้งานทั่วไป (รอยขนแมว) ก็ใช้วิธีขัดลบรอย แต่ถ้ารถโดนแดดเลียจนสีหมอง ต้องใช้การขัดฟื้นฟูผิว ส่วนการขัดเคลือบเงาเป็นการเพิ่มความเงางามขั้นสุด เหมือนเพิ่มฟิลเตอร์ให้รถเลยทีเดียว

เลือกอุปกรณ์ให้เป๊ะ ไม่ใช่แค่หยิบอะไรได้ก็ใช้

การขัดสีรถให้ออกมาเงางามแบบมือโปร ต้องเริ่มจากการเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้อง การหยิบผ้าขี้ริ้วเก่า ๆ มาใช้ ไม่ได้ช่วยให้รถเงาได้หรอกนะ อุปกรณ์ที่ควรมีคือ

  • ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพดี: ผ้าชนิดนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เลือกผ้าที่มีความหนาและนุ่ม เพราะผ้าที่หยาบเกินไปจะทำร้ายผิวสีรถได้ นอกจากนี้ควรมีผ้าแยกสำหรับแต่ละขั้นตอน เช่น ผ้าสำหรับเช็ดน้ำยาออก และผ้าสำหรับขัดเงา ไม่ควรใช้ผ้าเดิมซ้ำในทุกขั้นตอนเพราะคราบสกปรกจากขั้นตอนก่อนหน้าอาจทำให้เกิดรอยได้
  • เครื่องขัดสีรถ (Polisher): ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่เนียนกริบ การใช้เครื่องขัดช่วยได้มาก เครื่องขัดมีทั้งแบบหมุนตรง (Rotary) และแบบหมุนแบบสุ่ม (Dual Action) แบบ Dual Action จะเหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะปลอดภัยกว่า ไม่ทำให้ผิวสีร้อนจนเกินไป ควรเลือกเครื่องที่ปรับระดับความเร็วได้ เพื่อให้ควบคุมแรงขัดได้เหมาะสมกับสภาพสีรถ
  • น้ำยาขัดสีรถ: เลือกน้ำยาให้เหมาะกับประเภทการขัด ถ้าเป็นการขัดลบรอย ให้เลือกน้ำยาที่มีสารขัดละเอียด (Compound) ส่วนถ้าเป็นการขัดเงา ควรเลือกน้ำยาที่เพิ่มความเงางาม (Polish) นอกจากนี้ควรเลือกน้ำยาให้เหมาะกับสีรถด้วย เช่น รถสีเข้มควรใช้น้ำยาที่ไม่ทิ้งคราบขาว ส่วนรถสีอ่อนสามารถใช้น้ำยาขัดทั่วไปได้

เตรียมรถให้พร้อมก่อนลงมือขัด

การเตรียมผิวสีรถก่อนขัดเป็นขั้นตอนที่มักถูกมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วสำคัญมาก เพราะถ้าผิวไม่สะอาดพอ เศษฝุ่นหรือทรายเล็ก ๆ อาจกลายเป็นตัวการทำให้เกิดรอยขีดข่วนใหม่ได้ การเตรียมรถควรทำตามขั้นตอนนี้

  • ล้างรถให้สะอาดหมดจด: ใช้น้ำยาล้างรถที่ออกแบบมาเฉพาะ เพราะน้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกอาจมีสารเคมีที่ทำลายชั้นเคลือบสีรถได้ ล้างให้คราบฝังลึกหลุดออกมาให้หมด เน้นจุดที่มักสะสมคราบ เช่น ขอบประตู รอยต่อ และใต้กันชน
  • ดินน้ำมันขจัดคราบฝังแน่น: หลังล้างรถเสร็จ ใช้ดินน้ำมันลูบผิวสีรถเพื่อดึงคราบสกปรกที่ฝังแน่นออกมา เช่น ยางมะตอยหรือคราบน้ำเก่า ๆ วิธีนี้ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและพร้อมสำหรับการขัดมากขึ้น
  • เช็ดรถให้แห้งสนิท: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง อย่าใช้ผ้าธรรมดาหรือปล่อยให้แห้งเองเพราะอาจทิ้งคราบน้ำไว้บนผิวรถได้
  • ตรวจสอบผิวสีรถอย่างละเอียด: เดินสำรวจรอบรถ หารอยขีดข่วนหรือจุดที่ต้องการขัดฟื้นฟู เพื่อวางแผนการขัดว่าจะเน้นตรงไหนบ้าง

เทคนิคขัดสีรถให้เงาแบบมือโปร

มาถึงขั้นตอนการขัดจริง ๆ แล้ว นี่คือเทคนิคที่ทำให้รถเงาวับแบบไม่ต้องเสียเงินเข้าร้าน

  • แบ่งพื้นที่ขัดให้เหมาะสม: อย่าขัดทั้งคันในทีเดียว แบ่งเป็นส่วน ๆ เช่น ฝากระโปรงหน้า หลังคา ประตูฝั่งคนขับ เพื่อให้ขัดได้อย่างทั่วถึงและควบคุมการขัดได้ง่ายขึ้น
  • เริ่มขัดด้วยแรงเบา ๆ: ไม่ต้องออกแรงมาก เพราะน้ำยาขัดจะทำงานของมันเอง ใช้ผ้าหรือเครื่องขัดหมุนเป็นวงกลมเล็ก ๆ ให้ทั่วผิว อย่าลืมเปลี่ยนทิศทางการขัดเพื่อให้สีสม่ำเสมอ
  • หมั่นตรวจสอบความร้อน: การขัดที่จุดเดิมนานเกินไปอาจทำให้สีรถร้อนจนเสียหาย ควรพักเป็นระยะ หรือสลับไปขัดส่วนอื่นก่อน
  • เช็ดน้ำยาออกด้วยผ้าสะอาด: หลังจากขัดเสร็จ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดเช็ดน้ำยาออกให้หมด อย่าปล่อยให้น้ำยาแห้งคารถ เพราะจะทิ้งคราบและทำให้ขัดออกยาก

จบงานด้วยการเคลือบสีรถ

หลังขัดเสร็จ ถ้าอยากให้รถเงางามนานขึ้น ต้องเคลือบสีต่อ การเคลือบสีจะช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวี ฝุ่นละออง และคราบน้ำ เลือกน้ำยาเคลือบสีที่เหมาะกับสภาพสีรถ เช่น น้ำยาเคลือบแบบ Carnauba Wax จะให้ความเงางามสูง ส่วน Sealant จะเน้นการปกป้องที่ยาวนานกว่า

การเคลือบทำได้โดยการทาน้ำยาให้ทั่วผิวรถด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ จากนั้นปล่อยให้แห้งเล็กน้อยก่อนเช็ดออกด้วยผ้าแห้ง ใช้การเคลื่อนไหวแบบวงกลมเพื่อให้เคลือบสม่ำเสมอ

ข้อควรระวังที่หลายคนมักพลาด

  • ห้ามขัดรถกลางแดดจ้า: แสงแดดทำให้น้ำยาแห้งเร็วเกินไปและทิ้งคราบขาวบนผิวรถได้ ควรขัดในที่ร่มหรือในช่วงเย็น
  • ไม่ใช้น้ำยาขัดผิดประเภท: น้ำยาขัดลบรอยกับน้ำยาขัดเงาไม่เหมือนกัน การใช้ผิดประเภทอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ตรงใจ หรือแย่กว่านั้นคือทำลายผิวสีรถได้
  • ห้ามขัดบนผิวที่ยังมีฝุ่นหรือคราบสกปรก: ฝุ่นเล็ก ๆ จะกลายเป็นตัวทำให้เกิดรอยขีดข่วนใหม่ ควรล้างและเช็ดให้สะอาดก่อนทุกครั้ง

เคล็ดลับเพิ่มความเงางามแบบยาวนาน

  • ล้างรถเป็นประจำ: การล้างรถช่วยขจัดคราบสกปรกที่อาจทำลายชั้นเคลือบสีได้ ล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวสี
  • ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงเท่านั้น: ผ้าที่หยาบหรือคุณภาพต่ำอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น แต่เมื่อสะสมไปนาน ๆ จะทำให้สีรถดูหม่นลง
  • เลี่ยงการจอดรถตากแดดนาน ๆ: แสงแดดทำให้สีรถซีดและหมองเร็วขึ้น ควรหาผ้าคลุมหรือจอดในที่ร่มเสมอ

เมื่อไหร่ควรขัดสีรถใหม่อีกครั้ง?

การขัดสีรถไม่จำเป็นต้องทำบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ชั้นสีบางลง ควรขัดสีรถทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้ารถใช้งานหนักหรือจอดกลางแจ้งบ่อย ๆ อาจต้องขัดบ่อยขึ้น แต่ถ้าดูแลดี ๆ แค่ปีละครั้งก็เพียงพอ

รู้เทคนิคแบบนี้แล้ว ไม่ต้องง้อช่างอีกต่อไป แค่เตรียมอุปกรณ์ให้ครบ ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด รถก็เงางามเหมือนใหม่ได้ง่าย ๆ ที่บ้าน!

แต่การดูแลรถไม่จบแค่เรื่องความเงางามเท่านั้น เพราะอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ การมี ประกันรถชั้น 3+ จาก insurverse ที่สามารถปรับความคุ้มครองได้ตามใจ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมขั้นตอนง่าย ไม่ยุ่งยาก ก็ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ารถจะได้รับการดูแลทั้งภายนอกและภายในอย่างครบถ้วน สบายใจได้ทั้งเรื่องความเงางามและความปลอดภัย!

5 คำถามที่พบบ่อย

ขัดสีรถบ่อยแค่ไหนถึงจะดีต่อสีรถ?

การขัดสีรถไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ชั้นสีบางลงได้ แนะนำให้ขัดทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อม ถ้ารถจอดกลางแจ้งบ่อย หรือมีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ เพิ่มขึ้น อาจต้องขัดบ่อยขึ้น แต่ถ้าดูแลรถดี ไม่จำเป็นต้องขัดบ่อยก็ยังคงความเงางามได้

การขัดสีรถทำให้สีรถซีดเร็วขึ้นจริงหรือไม่?

ถ้าขัดสีรถอย่างถูกวิธีและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การขัดจะไม่ทำให้สีซีดเร็วขึ้น กลับกันยังช่วยป้องกันการซีดจางจากรังสียูวีและคราบสกปรกที่ทำลายผิวสีได้ แต่ถ้าใช้แรงขัดมากเกินไป หรือใช้น้ำยาขัดที่มีความหยาบเกินความจำเป็น อาจทำให้ชั้นสีบางลงได้

สามารถใช้เครื่องขัดสีรถแบบไหนสำหรับมือใหม่?

สำหรับมือใหม่ ควรใช้เครื่องขัดแบบ Dual Action (DA) เพราะเครื่องชนิดนี้มีการหมุนแบบสุ่ม ทำให้ลดโอกาสเกิดความร้อนสะสมที่ผิวสีรถ และไม่ทำให้สีรถเสียหายง่าย ต่างจากเครื่องขัดแบบ Rotary ที่หมุนตรงและต้องใช้ความชำนาญในการควบคุมมากกว่า

จำเป็นต้องใช้ดินน้ำมันขัดรถก่อนขัดสีหรือไม่?

การใช้ดินน้ำมันก่อนขัดสีรถถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ช่วยขจัดคราบสกปรกฝังลึก เช่น ยางมะตอย คราบน้ำ หรือเศษโลหะเล็ก ๆ ที่การล้างธรรมดาไม่สามารถลบออกได้ การทำให้ผิวเรียบเนียนก่อนขัดจะช่วยให้การขัดสีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนจากเศษฝุ่นที่ตกค้าง

ขัดสีรถเองที่บ้านต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

การขัดสีรถเองที่บ้านอาจใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดรถและสภาพผิวสี ถ้ารถมีรอยขีดข่วนมากหรือคราบฝังลึก อาจใช้เวลานานขึ้น การแบ่งขัดเป็นส่วน ๆ จะช่วยให้ควบคุมการทำงานได้ง่ายขึ้นและไม่เหนื่อยจนเกินไป

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย