การติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์เป็นวิธีช่วยป้องกันแสงแดดที่เข้ามารบกวนภายในรถ โดยฟิล์มกรองแสงความเข้ม 60% ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดความร้อนและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อย่างลงตัว แต่ก่อนตัดสินใจติดฟิล์มรอบคันมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา เช่น ติดฟิล์มรถยนต์ 60 รอบคันราคาเท่าไหร่ คุณภาพของฟิล์ม และผลกระทบต่อการขับขี่ เพื่อให้คุณมั่นใจในการเลือกฟิล์มที่เหมาะกับความต้องการ
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของฟิล์มกรองแสง 60% คือความสามารถในการลดความร้อนจากแสงแดดที่เข้าสู่ห้องโดยสาร ฟิล์มที่มีความเข้มระดับนี้ช่วยป้องกันรังสีอินฟราเรดและรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดี ลดอุณหภูมิในรถยนต์ ทำให้ห้องโดยสารเย็นลง ลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและเชื้อเพลิงมากขึ้น
ฟิล์มกรองแสง 60% มีความเข้มในระดับที่เหมาะสม ผู้ที่อยู่ภายในรถสามารถมองเห็นภายนอกได้ชัดเจน ขณะที่ผู้ที่อยู่ภายนอกจะมองเห็นภายในรถได้ยากขึ้น ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในขณะเดินทาง
อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของฟิล์มกรองแสง 60% คือการลดแสงสะท้อนที่อาจรบกวนสายตาขณะขับขี่ ฟิล์มช่วยกรองแสงจ้าที่เข้ามาในรถทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นถนนและสิ่งรอบข้างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่แดดแรง แม้ว่าในเวลากลางคืนทัศนวิสัยอาจลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามฟิล์ม 60% ยังถือว่าเหมาะสมสำหรับการขับขี่เวลากลางคืนในระดับที่ปลอดภัย
ฟิล์มกรองแสง 60% เหมาะสำหรับการติดตั้งบนกระจกหน้า กระจกข้าง และกระจกบานหลัง โดยเฉพาะในรถยนต์ที่ต้องการลดความร้อนและเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ติดฟิล์มรถยนต์ 60 รอบคันราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของฟิล์ม แบรนด์ที่เลือกใช้ และขนาดของรถยนต์ และนี่ข้อมูลที่คุณควรรู้
เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ให้การกรองแสงพื้นฐาน ไม่กันความร้อนมากนัก ราคาประมาณ 3,000 – 4,000 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ประตู
เป็นฟิล์มที่มีประสิทธิภาพในการลดความร้อนและป้องกันรังสียูวีสูง ทนทานกว่าและลดแสงสะท้อนได้ดีกว่า โดยการติดฟิล์มรถยนต์ 60 รอบคันราคาประมาณ 5,000 – 7,000 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ประตู หากเป็นรถขนาดใหญ่จะมีราคาเพิ่มขึ้น
เมื่อทราบข้อมูลการติดฟิล์มรถยนต์ 60 รอบคันราคาเท่าไหร่ไปแล้ว ต่อไปมาทราบข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจติดตั้ง
ฟิล์มกรองแสง 60% สามารถลดความร้อนจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบาย เพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ฟิล์ม 60% คุณภาพสูงยังมีคุณสมบัติในการป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99% ช่วยปกป้องผิวหนังของผู้โดยสาร อีกทั้งยังช่วยลดความเสื่อมสภาพของวัสดุภายในรถ เช่น เบาะหนัง คอนโซล เป็นต้น
ความเข้มของฟิล์ม 60% อาจลดทัศนวิสัยในเวลากลางคืนหรือในพื้นที่ที่มีแสงน้อย เช่น ถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้การมองผ่านกระจกไปยังภายนอกรถไม่ชัดเจนมากนัก ประสิทธิภาพการมองเห็นขณะขับขี่ในเวลากลางคืนลดลง
การเลือกความเข้มของฟิล์มกรองแสงควรคำนึงถึงการลดความร้อน ทัศนวิสัย และความเป็นส่วนตัว ฟิล์ม 40% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการมองเห็นชัดเจนและการลดแสงจ้าขั้นพื้นฐาน ฟิล์ม 60% ให้ความสมดุลระหว่างการลดความร้อนและความเป็นส่วนตัว ขณะที่ฟิล์ม 80% จะให้ความมืดมากกว่า แต่ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าเช่นกัน
แนะนำว่ากระจกแต่ละบานในรถยนต์ควรเลือกความเข้มของฟิล์มที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน กระจกบานหน้าควรใช้ฟิล์มที่โปร่งแสง เช่น 40% เพื่อให้การมองเห็นด้านหน้าชัดเจนและปลอดภัย กระจกบานข้างสามารถเลือกฟิล์ม 60% เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความร้อน ในขณะที่กระจกบานหลังอาจเลือกใช้ฟิล์ม 80% เพื่อเสริมการลดความร้อนในห้องโดยสารจากข้อมูลข้างต้นคงช่วยให้หลาย ๆ คนได้ทราบแล้วว่าติดฟิล์มรถยนต์ 60 รอบคันราคาเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามการติดฟิล์มกรองแสงเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการปกป้องคุณจากความเสี่ยงบนท้องถนน การมี ประกันภัยรถยนต์ ช่วยปกป้องคุณจากการใช้รถบนท้องถนนได้ โดยเฉพาะการทำ ประกันรถชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายทั้งรถของคุณและคู่กรณี รวมถึงเหตุการณ์ที่ไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมประกันได้อย่างสบายใจเช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเช็กค่าเบี้ยประกันและซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ insurverse
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ของรถเก่าถึงมักถูกกว่ารถใหม่? ความจริงแล้ว อายุของรถเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกัน นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่บริษัทประกันนำมาพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยงและกำหนดค่าเบี้ยที่เหมาะสม
ยิ่งถ้าเลือกบัตรให้ตรงกับปั๊มที่ใช้งานบ่อย ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อยเลย แถมบางบัตรยังมีประกันอุบัติเหตุหรือคุ้มครองการเดินทางอีกต่างหาก
หากคุณกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงหรือรถมือสอง บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เพราะการซื้อรถเป็นภาระทางการเงินที่ต้องคิดให้ดีเช่นเดียวกับประกันรถยนต์ เราจะแนะนำวิธีเลือกซื้อรถยนต์อย่างชาญฉลาดเพื่อให้ได้รถที่คุ้มค่ามากที่สุด