vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ไขข้อสงสัยประเภทใบขับขี่ ประเภท 2 และความสำคัญที่ควรรู้

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประเภทใบขับขี่ในไทย ประเภท 2 และความสำคัญที่ควรรู้

schedule
share

การขับรถในประเทศไทยไม่ได้หมายถึงแค่การมีรถ แต่ยังต้องมีใบขับขี่ที่เหมาะสมกับประเภทรถที่คุณใช้งานด้วย! ใครที่สงสัยว่าใบขับขี่มีทั้งหมดกี่ประเภท และใบขับขี่ประเภท 2 หรือ ท.2 ที่ได้ยินบ่อย ๆ คืออะไร บทความนี้ insurverse จะมาอธิบายให้คุณเข้าใจกันแบบครบถ้วน

อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของใบขับขี่ อย่าลืม เตรียม ประกันภัยรถยนต์ ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่ของคุณนั้นปลอดภัยและไว้วางใจได้มากขึ้น เช็คเบี้ยประกันราคาถูกได้ง่าย ๆ ที่ insurverse ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น

ประเภทใบขับขี่ในประเทศไทย อธิบายครบจบในที่เดียว

ในประเทศไทย ใบขับขี่แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ ใบขับขี่ส่วนบุคคล (บ.) และใบขับขี่ประเภททุกประเภท (ท.) ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีการแยกย่อยออกไปตามประเภทของรถและการใช้งาน ดังนี้:

ใบขับขี่ส่วนบุคคล (บ.)

ใบขับขี่กลุ่มนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ขับรถเพื่อการส่วนตัว หรือรถที่ไม่ได้มีไว้เพื่อการรับจ้างหรือขนส่งสาธารณะ แบ่งเป็น 4 ประเภท

  • ใบขับขี่ บ.1
    เหมาะสำหรับการขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ไม่ใหญ่โตเกินไป เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้เล็ก หรือแม้แต่แท็กซี่ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกิน 3,500 กิโลกรัม และบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 20 คน ใบนี้เป็นเหมือนใบเบสิกที่คนขับรถส่วนตัวต้องมี อายุขั้นต่ำสำหรับขอใบนี้คือ 18 ปี ใช้งานได้ 3 ปีเต็ม หากถึงกำหนดก็ต้องต่ออายุให้เรียบร้อย
  • ใบขับขี่ บ.2
    ใครที่ต้องขับรถขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เช่น รถบรรทุก รถโดยสารที่จุผู้โดยสารเกิน 20 คน หรือรถ 6 ล้อ ต้องใช้ใบ บ.2 โดยเฉพาะ เพราะรถประเภทนี้ต้องการความชำนาญในการขับมากกว่าเดิม ใบนี้กำหนดให้ผู้ขอมีอายุอย่างน้อย 22 ปี และต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรับใบขับขี่ อายุการใช้งานของใบนี้ก็ 3 ปีเช่นกัน
  • ใบขับขี่ บ.3
    สายลาก สายพ่วงต้องมาทางนี้ เพราะ บ.3 คือใบขับขี่ที่เหมาะสำหรับรถบรรทุกพ่วง รถสิบล้อที่ลากจูง หรือรถหัวลากขนาดใหญ่ ต้องใช้ความระมัดระวังและทักษะเฉพาะทาง ใครอยากได้ใบนี้ต้องอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี และต้องผ่านการฝึกอบรมพิเศษพร้อมสอบขับรถพ่วงจริง
  • ใบขับขี่ บ.4
    ใบนี้เจาะจงสำหรับงานที่เสี่ยงขึ้นมาหน่อย อย่างการขนส่งวัตถุอันตราย เช่น น้ำมัน สารเคมี หรือก๊าซ ใครอยากขับรถขนของพวกนี้ต้องมีอายุ 25 ปีขึ้นไป และเข้ารับการอบรมความปลอดภัยพิเศษตามที่กำหนด อายุใบขับขี่คือ 3 ปีเหมือนเดิม แต่ความเข้มข้นของการอบรมและสอบปฏิบัติก็จัดเต็มไปอีกระดับ

ใบขับขี่ประเภททุกประเภท (ท.)

กลุ่มนี้เหมาะสำหรับการขับรถเพื่อการรับจ้างหรือขนส่งสาธารณะ เช่น รถบรรทุกสินค้า รถโดยสารสาธารณะ หรือรถแท็กซี่ที่มีแผ่นป้ายทะเบียนสีเหลือง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

  • ใบขับขี่ ท.1
    ใบขับขี่ ท.1 เหมาะสำหรับคนขับรถบรรทุกขนาดเล็กหรือรถโดยสารที่จุผู้โดยสารไม่เกิน 20 คน เช่น รถแท็กซี่ป้ายเหลือง รถตู้ หรือรถขนส่งสินค้าขนาดเล็ก อายุขั้นต่ำของผู้ขอคือ 22 ปี ใช้ได้ 3 ปี และเหมาะกับคนที่เริ่มต้นงานขนส่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
  • ใบขับขี่ ท.2
    สายขนส่งสาธารณะตัวจริงต้องมีใบนี้ เพราะใช้สำหรับรถขนาดใหญ่ เช่น รถสิบล้อ รถบัส รถเมล์ที่รับส่งผู้โดยสารเป็นหลัก คนที่จะขอใบนี้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี และผ่านการอบรมกับทดสอบทักษะการขับขี่แบบจัดเต็ม อายุการใช้งานอยู่ที่ 3 ปี
  • ใบขับขี่ ท.3
    ใครที่ขับรถพ่วง รถหัวลาก หรือรถบรรทุกที่ต้องลากจูงสิ่งของต้องใช้ ท.3 เป็นใบขับขี่เฉพาะทาง ใบนี้ต้องการความเชี่ยวชาญในการควบคุมรถที่ซับซ้อน ใครอยากได้ใบนี้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี และต้องผ่านการฝึกอบรมพิเศษและการสอบที่เข้มงวด อายุการใช้งานก็ 3 ปีเหมือนเดิม
  • ใบขับขี่ ท.4
    ถ้าคุณต้องขับรถที่ขนส่งวัตถุอันตรายแบบเต็มพิกัด ใบนี้คือสิ่งที่คุณต้องมี เช่น รถขนส่งสารเคมี น้ำมัน หรือวัตถุไวไฟต่าง ๆ คนขอใบนี้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และต้องผ่านการอบรมเฉพาะทางอย่างละเอียด อายุการใช้งานอยู่ที่ 3 ปีเหมือนใบอื่น ๆ

ใบขับขี่ประเภท 2 คืออะไร?

ใบขับขี่ประเภท 2 เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการขับรถใหญ่ขึ้นมาอีกระดับ ซึ่งทั้ง บ.2 และ ท.2 มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน:

  • ใบขับขี่ บ.2
    เหมาะกับการขับรถบรรทุกหรือรถโดยสารที่มีน้ำหนักมาก เช่น รถสิบล้อ รถบรรทุกสินค้า หรือรถโดยสารที่บรรทุกผู้โดยสารเกิน 20 คน เหมาะสำหรับคนที่ขับรถเพื่อการส่วนตัวแต่ต้องการความจุและความใหญ่ของรถที่มากขึ้น
  • ใบขับขี่ ท.2
    เป็นเวอร์ชันรับจ้างหรือขนส่งสาธารณะของ บ.2 ใครที่ทำงานขนส่งสินค้า รถบัส หรือรถโดยสารสาธารณะต้องมีใบนี้ เป็นใบที่ยกระดับความรับผิดชอบและความปลอดภัยในการขับรถขนาดใหญ่เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในเชิงพาณิชย์

ข้อกำหนดและคุณสมบัติของผู้ขอใบขับขี่

การทำใบขับขี่ในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงการสอบเพื่อรับใบอนุญาตเท่านั้น แต่ยังมีข้อกำหนดและคุณสมบัติที่สำคัญซึ่งต้องปฏิบัติตาม ขึ้นอยู่กับประเภทของใบขับขี่ที่คุณต้องการ ซึ่งบางประเภทอาจต้องการเงื่อนไขเฉพาะเพิ่มเติม เช่น

  • อายุขั้นต่ำของผู้ขอ: ใบขับขี่ บ.1 ต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี ส่วน บ.2 และ ท.2 ต้องมีอายุ 22 ปีขึ้นไป และสำหรับ ท.4 ที่ใช้ขับรถขนส่งวัตถุอันตราย ผู้ขอต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 25 ปี
  • การอบรมและสอบปฏิบัติ: ใบขับขี่บางประเภท เช่น ท.3 และ ท.4 ต้องผ่านการอบรมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และสอบปฏิบัติจริงในการขับรถพ่วงหรือรถลากจูง
  • ใบรับรองแพทย์: ผู้ขอต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกตามแบบฟอร์มของแพทยสภาเพื่อยืนยันว่ามีสุขภาพร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการขับขี่

ข้อกำหนดเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่มีความพร้อมและปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถส่วนตัวหรือรถสาธารณะ

นอกจากใบรับรองแพทย์และการฝึกอบรมแล้ว การมีประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมก็สำคัญ หากเกิดเหตุฉุกเฉินขณะขับรถใหญ่ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ Insurverse ช่วยให้คุณ เลือกเคลมผ่านวิดีโอคอลได้ สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลามาที่บริษัท

ค่าธรรมเนียมและอายุการใช้งานของใบขับขี่แต่ละประเภท

สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนทำใบขับขี่ ควรทราบเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและระยะเวลาการใช้งานของใบขับขี่แต่ละประเภท เพื่อเตรียมงบประมาณและการต่ออายุใบขับขี่อย่างเหมาะสม:

  • ใบขับขี่ชั่วคราว: ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นเพียง 100 บาท ใช้ได้ 1 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มขับรถครั้งแรก
  • ใบขับขี่ส่วนบุคคล (บ.1-บ.4): ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 250-500 บาท อายุการใช้งาน 3 ปี
  • ใบขับขี่ประเภททุกประเภท (ท.1-ท.4): ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเริ่มต้น 300 บาท และมีอายุใช้งาน 3 ปีเช่นกัน
  • ใบขับขี่ระหว่างประเทศ: ค่าธรรมเนียม 500 บาท ใช้งานได้ 1 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับรถในต่างประเทศ

การทราบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินได้ดีขึ้น และลดความยุ่งยากในกระบวนการยื่นขอใบขับขี่

การต่ออายุใบขับขี่ ขั้นตอนและสิ่งที่ต้องเตรียม

ใบขับขี่ทุกประเภทจำเป็นต้องต่ออายุเมื่อครบกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่มีดังนี้:

  1. ตรวจสอบวันหมดอายุ: ใบขับขี่ส่วนบุคคล เช่น บ.1 และ บ.2 มีอายุการใช้งาน 3 ปี เมื่อใกล้ครบกำหนด ควรวางแผนต่ออายุล่วงหน้า
  2. เอกสารที่ต้องเตรียม: บัตรประชาชนตัวจริง, ใบขับขี่เดิม, และใบรับรองแพทย์
  3. การอบรมและทดสอบ: สำหรับใบขับขี่ที่หมดอายุเกินกำหนด อาจต้องอบรมและสอบข้อเขียนใหม่
  4. ขั้นตอนการยื่นต่ออายุ: เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ ตรวจสอบเอกสารและเข้ารับการอบรม จากนั้นชำระค่าธรรมเนียมและรอรับใบขับขี่ใหม่

การต่ออายุใบขับขี่เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปรับแล้ว ยังเป็นการรับประกันความพร้อมในการขับขี่อีกด้วย

ไม่ว่าคุณจะเลือกสอบใบขับขี่ประเภทไหน อย่าลืมตรวจสอบความเหมาะสมของใบขับขี่กับการใช้งานจริง หากคุณต้องขับรถประเภทขนส่งหรือรับจ้าง เช่น รถบัสหรือรถบรรทุก อย่าลืมพิจารณาใบขับขี่ประเภท 2 (บ.2 หรือ ท.2) เพื่อให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย พร้อมแล้วก็เตรียมเอกสารแล้วลุยเลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับใบขับขี่

ใบขับขี่ประเภท 2 ใช้ขับรถอะไรบ้าง

ใบขับขี่ประเภท 2 ใช้สำหรับขับรถที่มีน้ำหนักรวมเกิน 3,500 กิโลกรัม หรือรถที่บรรทุกผู้โดยสารเกิน 20 คน เช่น รถบัส รถเมล์ รถ 6 ล้อ หรือรถบรรทุกสินค้า

ทำใบขับขี่ ท.2 รอประวัติ กี่วัน

การตรวจสอบประวัติก่อนทำใบขับขี่ ท.2 ใช้เวลาประมาณ 90 วัน

ใบขับขี่ ท.2 ขับ 10 ล้อได้ไหม

ขับได้แน่นอน เพราะใบขับขี่ ท.2 รองรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมถึงรถ 10 ล้อ และรถบรรทุกอื่น ๆ ที่น้ำหนักรวมเกิน 3,500 กิโลกรัม

ขับรถกระบะตู้ทึบต้องใช้ใบขับขี่ประเภทไหน

ต้องใช้ใบขับขี่ประเภท 2

สอบใบขับขี่ประเภท2ยากไหม

ไม่ยากหากเตรียมตัวและมีความรู้ด้านกฎจราจร

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย