• บทความ
• keyboard_arrow_right
• เคล็ดลับเรื่องรถ

ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับฝาถังน้ำมันรถยนต์

           ฝาถังน้ำมัน เป็นอุปกรณ์สำคัญที่มักจะถูกมองข้ามในการดูแลรักษารถยนต์ บางคนตั้งแต่ซื้อรถมาใช้งานจนเปลี่ยนรถคันใหม่ยังไม่เคยเปิดฝาถังน้ำมันเลย แต่จริง ๆ แล้ว ฝาถังน้ำมันมีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานรถยนต์ โดยวันนี้จะบอกเกี่ยวกับความสำคัญของฝาถังน้ำมันรถยนต์ ว่าแท้จริงแล้วมีหน้าที่อะไรและมีความสำคัญอย่างไร

ฝาถังน้ำมันรถยนต์คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

           ฝาถังน้ำมันรถยนต์ ทำหน้าที่ในการปิดผนึกช่องเติมน้ำมันเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงและการระเหยที่อาจทำให้เกิดอันตรายหรือสูญเสียน้ำมันโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ฝาถังน้ำมันยังช่วยรักษาความดันภายในถังน้ำมันให้เหมาะสม ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพในการเผาไหม้และการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง หากไม่มีฝาถังน้ำมันหรือฝาถังน้ำมันที่ชำรุด เสียหาย อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

หน้าที่หลักของฝาถังน้ำมันรถยนต์

1. หน้าที่หลักของฝาถังน้ำมันรถยนต์ คือ การป้องกันการรั่วไหลและการระเหยของน้ำมัน ฝาถังน้ำมันเมื่อปิดสนิทจะสามารถป้องกันการหก รั่วไหลและการระเหยของน้ำมันได้ ซึ่งจะทำให้เจ้าของรถลดค่าใช้จ่ายและไม่สูญเสียน้ำมันระหว่างการเดินทาง ซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียน้ำมันโดยไม่จำเป็น
2. นอกจากนี้ ฝาถังน้ำมันยังช่วยรักษาความดันในระบบเชื้อเพลิงฝาถังน้ำมันช่วยควบคุมและรักษาความดันภายในถังน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้ระบบเชื้อเพลิงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดการสะสมของไอระเหยที่อาจทำให้เกิดการระเบิด
3. ฝาถังน้ำมันยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในถังน้ำมัน ฝาถังน้ำมันทำหน้าที่เป็นด่านแรกที่ช่วยป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ถังน้ำมัน ซึ่งอาจทำให้ระบบเชื้อเพลิงเกิดความเสียหายและส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์

ผลกระทบเมื่อฝาถังน้ำมันเสียหรือชำรุด

           ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากพบว่าฝาถังน้ำมันชำรุด เสียหาย ได้แก่

1. การรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงหากฝาถังน้ำมันเสียหรือปิดไม่สนิท อาจทำให้น้ำมันรั่วไหลหรือระเหย ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไฟไหม้
2. ปัญหาความดันในระบบเชื้อเพลิง ฝาถังน้ำมันที่ชำรุดอาจทำให้ระบบเชื้อเพลิงไม่สามารถรักษาความดันได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ เช่น เครื่องดับกลางคันหรือการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
3. สิ่งสกปรกและความชื้นเข้าสู่ถังน้ำมัน ฝาถังน้ำมันที่มีรอยรั่วหรือไม่สามารถปิดสนิทอาจทำให้สิ่งสกปรกหรือความชื้นเข้าสู่ถังน้ำมันได้ ซึ่งอาจทำให้ระบบเชื้อเพลิงเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์
4. ไฟแจ้งเตือนเชื้อเพลิงผิดปกติ ฝาถังน้ำมันที่มีปัญหาอาจทำให้ไฟเตือนระบบเชื้อเพลิงติดขึ้นที่หน้าปัดของรถ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่เข้าใจผิดว่าระบบเชื้อเพลิงมีปัญหาใหญ่ ทั้งที่สาเหตุมาจากฝาถังน้ำมันที่ไม่แน่นหรือชำรุด

ความแตกต่างของฝาถังน้ำมันแต่ละประเภท

           ปัจจุบัน ฝาถังน้ำมัน มีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ  ประกอบไปด้วย

1. ฝาถังน้ำมันแบบมาตรฐาน ฝาถังน้ำมันแบบมาตรฐานมีลักษณะเป็นฝาเกลียวที่ต้องหมุนเปิดและปิดด้วยมือ นิยมใช้กับรถยนต์ทั่วไป หรือรถกระบะที่ใช้น้ำมันดีเซล เพราะมีอัตราการระเหยของน้ำมันน้อยกว่าน้ำมันเบนซิน มีราคาประหยัด ติดตั้งง่ายและไม่ซับซ้อน
2. ฝาถังน้ำมันแบบล็อกด้วยกุญแจ ฝาถังน้ำมันแบบนี้มีระบบล็อกที่ต้องใช้กุญแจในการเปิด-ปิด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการโจรกรรมหรือน้ำมันหาย เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในพื้นที่เสี่ยงต่อการขโมยน้ำมัน หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ เช่น รถสิบล้อ รถพ่วง รถหัวลาก  
3. ฝาถังน้ำมันแบบมีวาล์วระบายแรงดัน ฝาถังน้ำมันประเภทนี้มีวาล์วที่ช่วยปรับแรงดันภายในถังน้ำมันโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ความดันอยู่ในระดับที่เหมาะสมและช่วยลดการสะสมของไอระเหย เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงที่ต้องการการควบคุมแรงดันอย่างละเอียด เช่น รถเก๋งที่ใช้น้ำมันเบนซิน ที่มักจะมีอัตราการระเหยจนทำให้ภายในถังน้ำมันมีแรงดัน

           เพื่อให้คุณใช้งานรถยนต์อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างเต็มที่ อย่าลืมที่จะตรวจสอบความสมบูรณ์ของฝาถังน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากพบว่ามีความเสียหายหรือชำรุด ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา นอกจากนี้อย่าลืม เช็คราคาน้ำมัน ก่อนออกเดินทาง เพื่อจะได้วางแผนการเดินทางกับการใช้น้ำมันอย่างคุ้มค่า รวมไปถึงเลือกทำ ประกันรถชั้น 1 ที่ตอบโจทย์ความคุ้มครองในทุกด้าน สามารถเช็คความปลอดภัยได้แล้ววันนี้ที่ insureverse ออนไลน์ เว็บไซต์ประกันออนไลน์ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง