vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
สายพานหน้าเครื่อง

สายพานหน้าเครื่องเสียงดังแก้อย่างไร และการดูแลที่ต้องรู้

schedule
share
ที่มารูปภาพ : https://www.pexels.com/photo/close-up-photo-of-black-and-silver-car-engine-3757226/

เสียงดังที่เกิดจากสายพานหน้าเครื่อง เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรละเลย เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในระบบเครื่องยนต์และการทำงานของอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ การเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของเสียงและเรียนรู้วิธีแก้ไขอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานสายพานและป้องกันความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้

สาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อสายพานหน้าเครื่องดัง

  1. สายพานเสื่อมสภาพหรือชำรุด

สายพานหน้าเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานจะมีการสึกหรอ แข็งกระด้าง หรือมีรอยแตกร้าว ความยืดหยุ่นของสายพานจะลดลง หากตรวจสอบสภาพสายพานแล้วพบว่ามีรอยแตกร้าวหรือสึกหรอควรเปลี่ยนสายพานใหม่ทันที

  1. สายพานหย่อนเกินไป

หากสายพานไม่ได้รับการปรับตั้งอย่างเหมาะสมอาจหย่อนเกินไปทำให้เกิดเสียงดังเนื่องจากการเสียดสีกับพูลเลย์ วิธีการแก้ไขคือปรับความตึงของสายพานให้เหมาะสม

  1. พูลเลย์ชำรุดหรือสกปรก

พูลเลย์ที่หมุนไม่เรียบ มีเศษฝุ่น สิ่งสกปรก หรือสนิมเกาะ อาจทำให้เกิดเสียงดังจากการเสียดสีกับสายพาน ให้ทำความสะอาดพูลเลย์ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ หากพูลเลย์เสียหายหรือหมุนไม่เรียบควรเปลี่ยนพูลเลย์ใหม่

  1. การติดตั้งสายพานผิดตำแหน่ง

การติดตั้งสายพานที่ไม่ตรงกับแนวของพูลเลย์จะทำให้สายพานเสียดสีกับขอบพูลเลย์และเกิดเสียงดัง แก้ไขได้ด้วยการตรวจสอบตำแหน่งการติดตั้งสายพานให้ตรงกับแนวของพูลเลย์

สายพานหน้าเครื่องเปลี่ยนตอนไหน

โดยทั่วไปการเปลี่ยนสายพานหน้าเครื่อง ควรทำตามคู่มือการใช้งานของรถยนต์ ซึ่งระยะเวลาที่แนะนำมักอยู่ที่ทุก 60,000 – 100,000 กิโลเมตร หรือทุก 3 – 5 ปี แต่หากพบอาการสายพานมีเสียงเอี๊ยด ๆ หรือเสียงเสียดสีจากบริเวณหน้าเครื่องยนต์อาจเป็นสัญญาณว่าสายพานเริ่มเสื่อมสภาพหรือหย่อน สายพานที่มีรอยแตกร้าว ขอบสายพานหลุดลอก หรือความหนาของสายพานลดลง แสดงว่าสายพานเสื่อมสภาพและควรเปลี่ยนใหม่ทันทีแม้ยังไม่ครบระยะ

สายพานหน้าเครื่องขาดขับได้ไหม

เมื่อสายพานหน้าเครื่องขาด การขับขี่ต่อยังพอทำได้สักระยะ แต่ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ขับรถต่อเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์และระบบที่เกี่ยวข้อง เช่น ไดชาร์จจะหยุดทำงานส่งผลให้แบตเตอรี่หมดและรถจะดับกลางทาง ปั๊มน้ำไม่ทำงานจนเครื่องยนต์ร้อนจัด (Overheat) ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายรุนแรง คอมเพรสเซอร์ของระบบปรับอากาศจะหยุดทำงาน ในรถบางรุ่นที่ใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์จะส่งผลให้พวงมาลัยหนักมากทำให้ควบคุมรถยาก

ดังนั้นหากพบว่าสายพานขาดให้พยายามประคองรถไปในที่ปลอดภัยแล้วโทรเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทันที

สายพานหน้าเครื่องราคาเท่าไหร่

ราคาสายพานจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ รุ่นของรถยนต์ และประเภทของสายพานที่ใช้งาน โดยราคาสายพานหน้าเครื่องสำหรับรถยนต์ญี่ปุ่นขนาดเล็กถึงกลางอยู่ที่ประมาณ 300 – 1,500 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ วัสดุ และยี่ห้อของสายพาน ส่วนรถยนต์ยุโรปราคาจะสูงกว่า อยู่ที่ประมาณ 1,500 – 3,000 บาท ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาโดยเฉลี่ย หากต้องการทราบราคาที่แน่นอนของรถแต่ละรุ่นให้สอบถามกับตัวแทนจำหน่าย


สายพานหน้าเครื่อง เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบและเปลี่ยนสายพานตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์และระบบที่เกี่ยวข้อง แต่แม้จะดูแลสายพานหน้าเครื่องอย่างดีแล้ว อุบัติเหตุบนท้องถนนอาจเกิดขึ้นได้เสมอ การมีประกันภัยรถยนต์ถึงแม้จะเป็น ประกันรถชั้น 3+ ก็ยังสามารถช่วยเพิ่มความอุ่นใจทุกครั้งที่ต้องขับรถได้ หากสนใจสามารถเข้าไป เช็กค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ก่อนตัดสินใจซื้อได้ที่เว็บไซต์ insuverse

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย