vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์

ปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ วิธีแก้ปัญหาเพื่อการเงินที่มั่นคง

schedule
share

การปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์คือการเจรจาเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการชำระหนี้ที่เหลืออยู่กับสถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์ เพื่อให้ภาระการผ่อนรถยนต์เหมาะสมกับสถานการณ์การเงินในปัจจุบันของผู้ผ่อนชำระ หลัก ๆ แล้วจะมีการขยายเวลาผ่อน ดอกเบี้ยที่ลดลง หรือเปลี่ยนรูปแบบการชำระค่างวดใหม่ให้สอดคล้องกับรายได้ การปรับโครงสร้างหนี้นี้ไม่ได้เพียงช่วยลดภาระในระยะสั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสียในระยะยาวด้วย

เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ 

ก่อนจะเริ่มขั้นตอนปรับโครงสร้างหนี้ เราควรรู้เงื่อนไขพื้นฐานที่ไฟแนนซ์กำหนดเพื่อเตรียมความพร้อม เงื่อนไขเหล่านี้อาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน แต่โดยทั่วไปมีดังนี้

  1. รถยนต์ต้องจดทะเบียนและมีประกันภัย รถยนต์ที่จะปรับโครงสร้างหนี้ต้องมีทะเบียนถูกต้อง และต้องมีประกันภัยชั้น 1 ที่ยังไม่หมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อรับรองความปลอดภัยของรถยนต์ในระหว่างที่ยังผ่อนอยู่
  2. ประวัติการผ่อนชำระต้องไม่เสีย ผู้ขอปรับโครงสร้างหนี้ต้องมีประวัติการชำระค่างวดดี หรือไม่เคยผิดนัดชำระในระยะเวลาที่ผ่านมา หากเคยผิดนัด อาจต้องเจรจาเพิ่มเติมหรือมีขั้นตอนซับซ้อนขึ้น
  3. ชำระค่างวดที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อย ผู้ขอปรับโครงสร้างต้องชำระค่างวดที่ค้างจ่ายทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มขั้นตอนปรับโครงสร้างใหม่ได้
  4. ต้องมีผู้ค้ำประกัน การปรับโครงสร้างหนี้ส่วนใหญ่จะกำหนดว่าผู้ขอต้องมีผู้ค้ำประกันทุกกรณีเพื่อรับรองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
  5. ระยะเวลาการผ่อนชำระรวมไม่เกิน 96 งวด หากทำการขยายเวลาผ่อนชำระ ค่าดอกเบี้ยและจำนวนงวดใหม่ต้องไม่เกินกรอบ 96 งวดตามสัญญาเดิม

การปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ต้องมีประกันชั้น 1 ที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อสร้างความมั่นใจในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการผ่อน หากคุณกำลังมองหาประกันที่ทั้งปรับความคุ้มครองได้เองและราคาย่อมเยา ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก insurverse ตอบโจทย์สุด เพราะคุณสามารถเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการของคุณเอง ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินความจำเป็น และที่สำคัญ ทุกขั้นตอนทำผ่านระบบออนไลน์ได้ง่ายและรวดเร็ว

วิธีการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ 

ในกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ ผู้ขอสามารถเลือกวิธีการที่ตรงกับสถานการณ์การเงินของตัวเองได้ โดยมี 2 วิธีหลักที่มักถูกเสนอโดยสถาบันการเงิน:

  1. ผ่อนแบบขั้นบันได วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการเงินในช่วงแรก ๆ แต่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มในอนาคต การผ่อนแบบขั้นบันไดช่วยลดค่างวดในช่วงแรกให้ต่ำลง และเพิ่มค่างวดในช่วงหลังตามสัดส่วนที่กำหนด ตัวเลือกนี้ช่วยให้ผู้ผ่อนสามารถปรับตัวกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ง่ายขึ้น แต่ต้องวางแผนรับมือกับค่างวดที่สูงขึ้นในอนาคตอย่างรอบคอบ
  2. ขยายระยะเวลาชำระหนี้ วิธีนี้ช่วยลดจำนวนค่างวดรายเดือนโดยการเพิ่มระยะเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้น ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถผ่อนต่อไปได้ แต่ต้องการลดภาระรายเดือน อย่างไรก็ตาม การขยายระยะเวลามักมาพร้อมกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นต้องคำนวณค่าใช้จ่ายรวมในระยะยาวให้ดี

ปรับโครงสร้างหนี้เหมาะกับใคร

การปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มรู้สึกว่าการผ่อนชำระในปัจจุบันเริ่มเป็นภาระเกินไป แต่ยังมีความตั้งใจที่จะรักษารถยนต์ไว้และไม่อยากให้เกิดปัญหาหนี้เสีย กลุ่มคนที่เหมาะสมมีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหารายได้ลดลงชั่วคราว เช่น ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ หรืองานประจำมีการปรับลดเงินเดือน แต่คาดว่าในอนาคตจะสามารถกลับมามีรายได้เหมือนเดิมได้
  • ผู้ที่ต้องการลดค่างวดรายเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายปัจจุบันโดยไม่อยากขายรถทิ้งหรือคืนรถ
  • ผู้ที่ยังมีแผนใช้รถยนต์ในระยะยาว เช่น ใช้รถในการทำงานหรือธุรกิจส่วนตัวที่ยังมีความจำเป็น

ประกันรถยนต์

ขั้นตอนในการขอปรับโครงสร้างหนี้

  1. เตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่ สำเนาทะเบียนรถ เอกสารแสดงรายได้ สำเนาสัญญาเช่าซื้อ เอกสารการชำระค่างวดย้อนหลัง และหลักฐานการประกันภัย
  2. ติดต่อสถาบันการเงิน ติดต่อไฟแนนซ์ที่คุณเช่าซื้อเพื่อแจ้งความประสงค์ในการปรับโครงสร้างหนี้ และสอบถามเงื่อนไขที่เหมาะสม
  3. เจรจาเงื่อนไขใหม่ หลังจากยื่นคำขอและไฟแนนซ์ตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อย คุณจะได้รับข้อเสนอเงื่อนไขใหม่ เช่น จำนวนงวดที่ขยายเพิ่ม อัตราดอกเบี้ยใหม่ หรือการเปลี่ยนรูปแบบการผ่อน
  4. ลงนามในสัญญาใหม่ เมื่อพอใจกับเงื่อนไขใหม่ ให้ตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาอีกครั้งก่อนลงนาม

ข้อดีและข้อควรระวัง 

การปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ช่วยลดภาระทางการเงินได้จริง แต่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

  • ข้อดี: ลดค่างวดรายเดือน เพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระหนี้ และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสีย
  • ข้อควรระวัง: ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเมื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระ และภาระหนี้ที่ยืดยาวอาจกระทบต่อแผนการเงินระยะยาว

เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้วยังไม่ไหว ควรทำอย่างไร

หากปรับโครงสร้างหนี้แล้วแต่ยังคงพบว่าไม่สามารถผ่อนชำระได้ ควรพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การรีไฟแนนซ์รถยนต์กับสถาบันการเงินใหม่ที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า หรือพิจารณาการขายรถเพื่อลดภาระหนี้ และหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมา

วิธีแก้ปัญหาอื่นเมื่อผ่อนรถไม่ไหว

หากการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์ยังไม่ตอบโจทย์ ลองพิจารณาวิธีแก้ปัญหาอื่นที่อาจช่วยให้คุณสามารถจัดการภาระหนี้ได้ดีขึ้น

1. รีไฟแนนซ์ค่างวดรถ

การรีไฟแนนซ์หมายถึงการย้ายหนี้ไปยังสถาบันการเงินอื่น หรือขอรีไฟแนนซ์กับไฟแนนซ์เดิม เพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ วิธีนี้ช่วยลดค่างวดต่อเดือนและลดภาระในระยะสั้นได้ดี

เมื่อเลือกรีไฟแนนซ์เพื่อลดภาระการผ่อน การลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ เป็นเรื่องสำคัญ ประกันภัยรถยนต์ จาก insurverse ช่วยให้คุณประหยัดได้ด้วยฟีเจอร์ DIY ปรับเปลี่ยนวงเงินความคุ้มครองได้เองผ่านระบบออนไลน์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารค่าใช้จ่ายในระยะยาว

2. เปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ

หากคุณไม่ต้องการรถคันนี้อีกต่อไป การโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อให้คนอื่นเข้ามาผ่อนต่อเป็นทางเลือกหนึ่ง วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่ต้องรับภาระหนี้อีกต่อไป แต่ควรทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

3. คืนรถให้ไฟแนนซ์

หากสถานการณ์การเงินของคุณย่ำแย่จนไม่สามารถผ่อนรถได้อีกต่อไป การคืนรถให้ไฟแนนซ์อาจเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ควรรีบดำเนินการก่อนที่รถจะถูกยึด เพราะไฟแนนซ์อาจขายทอดตลาดในราคาที่สูงกว่า และลดภาระหนี้ที่เหลืออยู่ได้

การปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณจัดการปัญหาหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยรักษาสถานะทางการเงินในระยะยาว อย่าลืมวางแผนและติดต่อไฟแนนซ์ทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกว่าภาระเริ่มเกินกำลัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้เสียและคงความมั่นคงทางการเงินต่อไป

5 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้รถยนต์

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย