vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
สัญญาประนีประนอมยอมความ

สัญญาประนีประนอมยอมความคืออะไร? สิ่งที่ต้องรู้ในกรณีข้อพิพาท

schedule
share

เมื่อเกิดข้อพิพาทหรือปัญหาที่ไม่อาจหาข้อสรุปได้ การทำ สัญญาประนีประนอมยอมความ กลายเป็นทางออกที่หลายคนเลือก เพราะช่วยยุติความขัดแย้งโดยไม่ต้องพึ่งศาลให้เสียเวลา แต่รู้หรือไม่ว่า ขั้นตอนและเงื่อนไขในการทำสัญญานั้นสำคัญไม่ต่างจากการเลือก ประกันภัยรถยนต์ ที่ต้องคำนึงถึงความคุ้มครองและความโปร่งใสในการให้บริการ ซึ่ง insurverse ก็เป็นตัวอย่างของการให้บริการที่เน้นความโปร่งใสและปรับแต่งได้ตามความต้องการ ไม่ต่างจากการตกลงทำสัญญาที่ต้องชัดเจนและยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

ประเภทของสัญญาประนีประนอมยอมความ

1. สัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาล

ถ้ายังไม่มีการฟ้องร้องต่อศาล คู่กรณีสามารถตกลงกันเองและทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้เลย โดยไม่ต้องพึ่งพาศาล เช่น กรณีการกู้ยืมเงินแล้วเกิดการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งสองฝ่ายอาจตกลงกันใหม่เรื่องวิธีการชำระหนี้และเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้มีผลทางกฎหมาย ถ้าอีกฝ่ายไม่ทำตามสัญญา สามารถนำเอกสารนี้ไปฟ้องศาลได้ทันที

2. สัญญาประนีประนอมยอมความในศาล

เมื่อมีการฟ้องร้องต่อศาลแล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายยังอยากหาทางออกที่ไม่ต้องให้ศาลตัดสิน ก็สามารถทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลได้ ศาลจะออกคำพิพากษาตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน เรียกว่า “พิพากษาตามยอม” ซึ่งหากมีฝ่ายใดไม่ทำตามข้อตกลง สามารถบังคับคดีได้ทันทีโดยไม่ต้องฟ้องร้องใหม่

ข้อควรรู้ก่อนทำสัญญาประนีประนอมยอมความ

1. ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญานอกศาลหรือต่อหน้าศาล ต้องเขียนรายละเอียดให้ชัดเจนและลงลายมือชื่อของทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่มีเอกสารเป็นหลักฐาน การฟ้องร้องบังคับคดีจะเป็นไปไม่ได้ เช่น กรณี A ยืมเงิน B แล้วตกลงผ่อนจ่ายเดือนละ 2,500 บาท ถ้าแค่คุยกันปากเปล่า แต่ไม่มีเอกสารลงนามจากทั้งสองฝ่าย B จะไม่สามารถฟ้องร้อง A ได้หาก A ไม่จ่ายเงินตามที่ตกลง

2. ข้อตกลงต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย

ข้อสำคัญคือ เนื้อหาของสัญญาประนีประนอมยอมความต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เช่น ไม่สามารถทำสัญญายกเว้นการดำเนินคดีในความผิดอาญาร้ายแรง เช่น คดีลักทรัพย์หรือคดีฆาตกรรมได้ ถ้าทำสัญญาในลักษณะนี้จะถือเป็นโมฆะทันที

ประกันรถยนต์

โครงสร้างของสัญญาประนีประนอมยอมความที่ถูกต้อง

  1. ชื่อสัญญา: ระบุชัดเจนว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ หรือบันทึกข้อตกลง
  2. รายละเอียดคู่กรณี: ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และข้อมูลสำคัญของทั้งสองฝ่าย
  3. รายละเอียดข้อพิพาท: อธิบายปัญหาหรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหาการชำระหนี้ การไม่ส่งมอบสินค้า หรือการละเมิดสัญญาอื่น ๆ
  4. ข้อตกลงร่วมกัน: ระบุว่าทั้งสองฝ่ายตกลงอย่างไร เช่น การลดหนี้ การแบ่งชำระ หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ตกลงกันได้
  5. เงื่อนไขเพิ่มเติม: เช่น การบอกว่า “ไม่มีการเรียกร้องเพิ่มเติม” หรือ “จะไม่ดำเนินคดีต่อกันในเรื่องนี้อีก”
  6. การลงลายมือชื่อ: ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นชื่อให้เรียบร้อย พร้อมพยานถ้ามี

ผลของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ

การทำสัญญานี้จะทำให้สิทธิเรียกร้องเดิมหมดไป และแทนที่ด้วยข้อตกลงใหม่ เช่น เจ้าหนี้ที่มีสิทธิ์เรียกร้องเงินต้น 100,000 บาท อาจตกลงให้ลูกหนี้จ่ายเพียง 80,000 บาท โดยผ่อนชำระตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเมื่อทำสัญญาแล้ว เจ้าหนี้จะไม่สามารถเรียกร้องเงิน 100,000 บาทเดิมได้อีก เพราะได้สละสิทธิ์นั้นไปแล้ว

ทำอย่างไรถ้าอีกฝ่ายไม่ทำตามสัญญา?

กรณีที่ 1: สัญญาประนีประนอมยอมความในศาล
ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง สามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับคดีได้ทันที เพราะถือว่าเป็นคำพิพากษาตามยอมแล้ว ไม่ต้องเริ่มฟ้องร้องใหม่ให้เสียเวลา

กรณีที่ 2: สัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาล
ถ้าเป็นสัญญาที่ทำกันเองนอกศาล จะต้องนำสัญญานั้นไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อบังคับคดี เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จึงจะสามารถบังคับคดีได้

สิ่งที่ต้องระวังในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ

  • ตรวจสอบเนื้อหาให้ละเอียด: ข้อตกลงในสัญญาต้องชัดเจนและปฏิบัติได้จริง อย่าปล่อยให้มีข้อกำกวม เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง
  • อย่าลืมเรื่องภาษี: ในบางกรณี การยกหนี้หรือลดหนี้อาจมีผลทางภาษี เช่น การลดหนี้ก้อนใหญ่ อาจทำให้ผู้ได้รับยกหนี้ต้องเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติม
  • คำนึงถึงกฎหมาย: อย่าทำข้อตกลงที่ขัดต่อกฎหมาย เพราะจะไม่มีผลบังคับใช้ เช่น การตกลงไม่ดำเนินคดีในความผิดอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้

ตัวอย่างการใช้สัญญาประนีประนอมยอมความในชีวิตจริง

  1. ปัญหาหนี้สินระหว่างเพื่อน: A ยืมเงิน B แล้วไม่สามารถคืนได้ครบตามกำหนด ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงกันว่า A จะผ่อนชำระหนี้ในจำนวนที่ลดลง พร้อมทั้งทำสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อยุติข้อพิพาท
  2. ข้อขัดแย้งทางธุรกิจ: บริษัท X และบริษัท Y มีข้อพิพาทเรื่องการส่งมอบสินค้า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า บริษัท X จะลดราคาสินค้าให้ และบริษัท Y จะไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
  3. ปัญหาเช่าซื้อ: ผู้เช่าไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตามสัญญา เจ้าของบ้านจึงตกลงลดค่าเช่าลงเพื่อให้ผู้เช่าสามารถจ่ายได้ และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

การทำสัญญาประนีประนอมยอมความจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการยุติข้อพิพาทโดยไม่ต้องพึ่งศาล หรือถ้าต้องการให้ศาลรับรองก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้สัญญามีผลบังคับใช้จริง ๆ

ตัวอย่างสัญญาประนีประนอมยอมความกรณีอุบัติเหตุรถชน

สัญญาประนีประนอมยอมความ

ทำขึ้น ณ วันที่ [ระบุวันที่]
ณ สถานที่ [ระบุสถานที่]

ระหว่าง

  1. นาย/นาง/นางสาว [ชื่อ-นามสกุล ฝ่ายที่ 1]
    บัตรประชาชนเลขที่: [ระบุเลขบัตรประชาชน]
    ที่อยู่: [ระบุที่อยู่]
    ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ฝ่ายที่หนึ่ง”

และ
2. นาย/นาง/นางสาว [ชื่อ-นามสกุล ฝ่ายที่ 2]
บัตรประชาชนเลขที่: [ระบุเลขบัตรประชาชน]
ที่อยู่: [ระบุที่อยู่]
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ฝ่ายที่สอง”

เนื่องจาก
เมื่อวันที่ [ระบุวันที่เกิดเหตุ] เวลาประมาณ [ระบุเวลา] ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน บริเวณ [ระบุสถานที่เกิดเหตุ] โดย ฝ่ายที่หนึ่ง ขับรถยนต์ยี่ห้อ [ระบุยี่ห้อและรุ่นรถ] หมายเลขทะเบียน [ระบุเลขทะเบียน] และ ฝ่ายที่สอง ขับรถยนต์ยี่ห้อ [ระบุยี่ห้อและรุ่นรถ] หมายเลขทะเบียน [ระบุเลขทะเบียน] ซึ่งส่งผลให้รถยนต์ของทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทั้งสองฝ่ายจึงได้ตกลงกันดังนี้

  1. ฝ่ายที่หนึ่ง ยอมรับว่าเป็นฝ่ายประมาทเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้ ฝ่ายที่สอง เป็นจำนวนเงิน [ระบุจำนวนเงิน] บาท (จำนวนเงินเป็นตัวอักษร) เพื่อเป็นการซ่อมแซมรถยนต์และค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  2. ฝ่ายที่หนึ่ง จะชำระเงินให้ ฝ่ายที่สอง ภายในวันที่ [ระบุวันที่ชำระเงิน] โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร [ระบุธนาคารและเลขที่บัญชีของฝ่ายที่สอง] หรือชำระเป็นเงินสด
  3. เมื่อ ฝ่ายที่สอง ได้รับเงินชดใช้ครบถ้วนตามข้อ 1 แล้ว จะถือว่าข้อตกลงนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ฝ่ายที่สอง จะไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมใด ๆ อีกทั้งในทางแพ่งและอาญาเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าว
  4. ในกรณีที่ ฝ่ายที่หนึ่ง ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในการชำระเงินตามข้อ 1 ฝ่ายที่สอง มีสิทธิ์ดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไปได้
  5. ข้อตกลงนี้เป็นข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจตรงกันแล้ว และลงนามต่อหน้าพยานเพื่อยืนยันความยินยอมโดยสมัครใจ

ลงชื่อ ………………………………………………….. ฝ่ายที่หนึ่ง \n
( [ชื่อ-นามสกุล ฝ่ายที่หนึ่ง] )

ลงชื่อ ………………………………………………….. ฝ่ายที่สอง \n
( [ชื่อ-นามสกุล ฝ่ายที่สอง] )

พยาน

  1. ลงชื่อ ………………………………………………….. \n
    ( [ชื่อ-นามสกุล พยานที่ 1] )
  2. ลงชื่อ ………………………………………………….. \n
    ( [ชื่อ-นามสกุล พยานที่ 2] )

ตัวอย่างนี้สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดตามความเหมาะสมของแต่ละกรณีได้ แนะนำให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของคู่กรณีและพยานเพื่อความสมบูรณ์ของสัญญา!

สรุป

สัญญาประนีประนอมยอมความ คือเครื่องมือที่ช่วยยุติข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ เช่นเดียวกับการ เช็กเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ที่ควรเลือกบริการที่สามารถปรับแผนได้เองเพื่อความคุ้มครองที่ตรงใจ ไม่จ่ายเกินจำเป็น และโปร่งใสในทุกขั้นตอน หากคุณกำลังมองหาประกันที่ตอบโจทย์ insurverse คือคำตอบที่คุณสามารถวางใจได้

5 คำถามที่พบบ่อย

สัญญาประนีประนอมยอมความสามารถใช้ได้กับคดีอาญาหรือไม่?

สัญญาประนีประนอมยอมความสามารถใช้ได้เฉพาะคดีแพ่ง หรือคดีอาญาบางประเภทที่กฎหมายอนุญาตให้ยอมความได้ เช่น คดีหมิ่นประมาทหรือทำร้ายร่างกายเล็กน้อย แต่สำหรับคดีอาญาแผ่นดิน เช่น คดีฆาตกรรม ลักทรัพย์ หรือคดียาเสพติด ไม่สามารถทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้

สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีพยานเซ็นกำกับทุกครั้งหรือไม่?

แม้การมีพยานจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญา แต่กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องมีพยานเสมอ สิ่งสำคัญคือต้องมีลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนและลงนามโดยทั้งสองฝ่าย หากไม่มีพยาน สัญญาก็ยังคงมีผลทางกฎหมายได้ตราบใดที่เอกสารถูกต้องและสมบูรณ์

สามารถแก้ไขสัญญาประนีประนอมยอมความหลังจากเซ็นแล้วได้หรือไม่?

การแก้ไขสัญญาหลังจากลงนามแล้วสามารถทำได้ หากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันและทำการบันทึกข้อตกลงใหม่เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมลงลายมือชื่อ หากมีการแก้ไขเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่มีความยินยอมจากอีกฝ่าย สัญญานั้นจะถือว่าไม่สมบูรณ์

สัญญาประนีประนอมยอมความสามารถใช้กับข้อพิพาทในครอบครัวได้หรือไม่?

สัญญาประนีประนอมยอมความสามารถใช้ในข้อพิพาทภายในครอบครัวได้ เช่น ข้อตกลงเรื่องทรัพย์สินหลังการหย่าร้าง หรือการแบ่งมรดก แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยครอบครัวหรือมรดก และควรมีความชัดเจนในการระบุเงื่อนไขและสิทธิของแต่ละฝ่าย

หากคู่กรณีไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้ จะทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้อย่างไร?

ในกรณีที่คู่กรณีไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้ สามารถใช้การลงลายนิ้วมือแทนลายเซ็นได้ และควรมีพยานที่น่าเชื่อถือรับรองว่าอีกฝ่ายเข้าใจเนื้อหาสัญญาอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันข้อโต้แย้งในอนาคตว่ามีการบังคับหรือหลอกลวงในการทำสัญญา

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย