vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ เจาะลึกเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้

ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ เจาะลึกเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้

schedule
share

หลายคนอาจคิดว่าอยู่ในบ้านก็ปลอดภัยจากฝุ่นและมลพิษแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว อากาศในบ้านอาจสกปรกกว่าภายนอกเสียอีก อนุภาคเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น เช่น PM2.5, สารเคมีระเหย (VOCs), แบคทีเรีย และไรฝุ่น ลอยอยู่รอบตัวตลอดเวลา เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยจัดการกับปัญหานี้

เครื่องฟอกอากาศทำงานยังไง? ไม่ใช่แค่พัดลมดูดฝุ่น

เครื่องฟอกอากาศไม่ได้แค่เป่าลมไปมาแล้วเรียกว่าสะอาด แต่มันทำงานด้วยระบบที่ละเอียดกว่านั้นมาก เพราะแต่ละประเภทของไส้กรองมีหน้าที่เฉพาะตัว มาดูกันว่ามันทำอะไรได้บ้าง

  • HEPA Filter ตัวนี้เป็นตัวจริงเรื่องกรองฝุ่นละอองเล็กจิ๋ว ขนาด 0.3 ไมครอนยังไม่รอด ถูกใช้กันในโรงพยาบาลและห้องปลอดเชื้อ ถ้ามีปัญหาภูมิแพ้หรืออยากกรอง PM2.5 ต้องเลือกเครื่องที่มี HEPA แท้เท่านั้น (ระวังของปลอมที่ใช้คำว่า “HEPA-like” หรือ “HEPA-type” ซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ)
  • Activated Carbon Filter ไว้จัดการเรื่องกลิ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นบุหรี่ ควันจากอาหาร หรือสารเคมีที่ระเหยอยู่ในบ้าน ถ้าไม่มีตัวนี้ เครื่องฟอกอากาศอาจไม่ช่วยเรื่องกลิ่นเลย
  • UV Light ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต ทำให้เชื้อโรคตายก่อนจะลอยเข้าจมูกเรา ระบบนี้ไม่ได้มีในทุกเครื่อง และต้องแน่ใจว่ามันออกแบบมาอย่างปลอดภัย ไม่ให้ UV รั่วไหลออกมาสู่ภายนอก
  • Ionizer ปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อให้ฝุ่นเกาะตัวกันและตกลงพื้น แต่ระวังว่า Ionizer บางรุ่นอาจปล่อยโอโซน ซึ่งถ้ามีเยอะเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาทางเดินหายใจ

เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นอาจมีแค่ HEPA กับ Activated Carbon ในขณะที่บางรุ่นอาจเสริม UV หรือ Ionizer เข้าไปด้วย คำถามคือควรเลือกแบบไหน? คำตอบคือขึ้นอยู่กับปัญหาหลักของอากาศในบ้าน ถ้าห่วงเรื่องฝุ่นและ PM2.5 เป็นหลัก HEPA คุณภาพดีคือตัวเลือกที่ควรลงทุน ถ้ากังวลเรื่องกลิ่น ควัน หรือสารเคมี ต้องมี Activated Carbon ส่วน UV และ Ionizer ต้องพิจารณาว่ามีความจำเป็นแค่ไหนและเสี่ยงต่อโอโซนหรือไม่

แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะช่วยลดฝุ่นและมลพิษในบ้านได้ แต่ก็ยังมีภัยอื่นที่ไม่สามารถป้องกันได้ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเหตุไม่คาดคิด ถ้าต้องการให้บ้านปลอดภัยแบบครบวงจร การมีประกันภัยบ้านและคอนโดจาก insurverse จะช่วยคุ้มครองจากอัคคีภัย น้ำท่วม และภัยธรรมชาติอื่น ๆ ได้

ซื้อเครื่องฟอกอากาศทั้งที เลือกให้ถูก ไม่ใช่แค่ดูที่ราคา

การเลือกเครื่องฟอกอากาศไม่ใช่แค่ดูว่าเครื่องไหนถูกหรือแพง แต่ต้องดูปัจจัยพวกนี้ด้วย:

  • ขนาดพื้นที่ ขนาดห้องที่ใช้งานสำคัญมาก เพราะเครื่องที่เล็กเกินไปจะฟอกอากาศได้ไม่ทั่วถึง ส่วนเครื่องที่ใหญ่เกินจำเป็นก็สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ต้องเช็กว่า CADR ของเครื่องเหมาะกับขนาดห้องหรือไม่
  • ประเภทไส้กรอง ไม่ใช่เครื่องไหนก็ดีหมด ต้องดูว่าไส้กรองที่ติดมากับเครื่องรองรับปัญหาในบ้านเราหรือไม่ ถ้าภูมิแพ้ฝุ่นต้องมี HEPA ถ้ามีกลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหารต้องมี Activated Carbon
  • CADR (Clean Air Delivery Rate) ค่านี้เป็นตัวบอกว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถฟอกอากาศได้เร็วแค่ไหน ยิ่งสูงยิ่งดี โดยเฉพาะถ้าใช้งานในพื้นที่กว้าง ๆ หรือเปิดเครื่องในห้องที่มีมลพิษสะสมเยอะ
  • เสียงรบกวน บางเครื่องทำงานได้เงียบจนแทบไม่รู้สึก แต่บางเครื่องเสียงดังจนนอนไม่หลับ โดยเฉพาะเวลาปรับโหมดแรงสุด ควรเช็กระดับเดซิเบลของเครื่องในแต่ละโหมดก่อนซื้อ
  • ค่าบำรุงรักษา ไม่ใช่แค่ซื้อแล้วจบ ต้องดูว่าไส้กรองเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน ราคาสูงหรือไม่ ถ้าเครื่องราคาถูกแต่ไส้กรองแพงเว่อร์ อาจเป็นภาระระยะยาวที่ไม่คุ้มค่า
  • โหมดอัตโนมัติและฟีเจอร์เสริม เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมีเซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นแบบเรียลไทม์ และปรับระดับการฟอกอากาศอัตโนมัติ ฟีเจอร์พวกนี้ช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้น แต่บางรุ่นก็อาจเป็นแค่ลูกเล่นที่ไม่ได้มีผลต่อประสิทธิภาพจริง

เลือกเครื่องฟอกอากาศไม่ใช่แค่เรื่องของราคาถูกแพง แต่ต้องดูให้ลึกถึงคุณสมบัติที่ตรงกับการใช้งานจริง ถ้าซื้อผิดอาจได้เครื่องที่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก หรือมีค่าบำรุงรักษาสูงเกินไป ดังนั้น คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ!

เครื่องฟอกอากาศกับ PM2.5 หายใจโล่งจริงหรือเปล่า?

PM2.5 เป็นฝุ่นจิ๋วที่เล็กมากจนทะลุเข้าสู่ปอดได้โดยตรง เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA Filter คุณภาพสูงสามารถกรอง PM2.5 ได้ถึง 99.97% แต่ถ้าใช้เครื่องที่ไม่มี HEPA หรือเป็นรุ่นราคาถูกที่ไส้กรองไม่มีคุณภาพ ก็อาจไม่ช่วยอะไรเลย

Ionizer ดีจริงไหม หรือแค่คำโฆษณา?

เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมีระบบ Ionizer ที่ปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อให้ฝุ่นตกลงพื้น แต่วิธีนี้อาจทำให้เกิดโอโซน ซึ่งถ้ามีมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ คนที่มีปัญหาหอบหืดหรือภูมิแพ้ควรเลือกเครื่องที่มีการรับรองว่าไม่ปล่อยโอโซนในระดับอันตราย

เครื่องฟอกอากาศช่วยกำจัดกลิ่นได้จริงไหม?

ขึ้นอยู่กับไส้กรอง ถ้ามี Activated Carbon Filter ก็สามารถช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นบุหรี่ แต่ถ้าเครื่องไม่มีไส้กรองประเภทนี้ ต่อให้เปิดทั้งวันก็อาจไม่ช่วยให้กลิ่นหายไป

เปิดเครื่องฟอกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงได้ไหม?

เปิดได้ไม่มีปัญหา ถ้าเครื่องออกแบบให้รองรับการทำงานต่อเนื่อง แต่ควรดูเรื่องค่าไฟและอายุไส้กรอง บางเครื่องกินไฟน้อยมาก แต่อายุไส้กรองอาจลดลงเร็วขึ้นถ้าเปิดตลอดเวลา

วางเครื่องฟอกอากาศตรงไหนถึงจะเวิร์คที่สุด?

  • ควรวางให้ห่างจากกำแพงหรือเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 30 ซม.
  • หลีกเลี่ยงมุมอับหรือใต้โต๊ะ เพราะอากาศจะไหลเวียนได้ไม่ดี
  • ถ้ามีเครื่องเดียว ควรตั้งในห้องที่ใช้งานบ่อยที่สุด เช่น ห้องนอน

ใช้เครื่องฟอกอากาศแล้ว ยังต้องเปิดหน้าต่างไหม?

เครื่องฟอกอากาศช่วยกำจัดฝุ่นในห้อง แต่ไม่สามารถเติมออกซิเจนหรือระบายอากาศได้ ถ้าปิดห้องตลอดเวลา อาจทำให้ระดับออกซิเจนลดลง ควรเปิดหน้าต่างระบายอากาศเป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงที่ค่าฝุ่นไม่สูง

ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยแค่ไหน?

ขึ้นอยู่กับประเภทไส้กรองและการใช้งาน

  • HEPA Filter เปลี่ยนทุก 6-12 เดือน
  • Activated Carbon Filter เปลี่ยนทุก 3-6 เดือน
  • Pre-filter (ตัวกรองหยาบ) ล้างหรือเปลี่ยนทุกเดือน

ถ้าไส้กรองสกปรกเกินไป ประสิทธิภาพการฟอกอากาศจะลดลง และอาจทำให้เครื่องทำงานหนักจนเสียเร็วขึ้น

สรุป

การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงปัญหาของอากาศภายในบ้านเป็นหลัก ไม่ใช่แค่ราคาหรือดีไซน์ ตรวจสอบประเภทไส้กรอง ฟังก์ชันที่จำเป็น และค่าบำรุงรักษาระยะยาว เพื่อให้ได้เครื่องที่ช่วยให้คุณหายใจได้สะอาดและสุขภาพดีขึ้นจริง ๆ
เครื่องฟอกอากาศเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเปิดใช้งานตลอดเวลา ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อไฟฟ้าลัดวงจรหรืออุปกรณ์เสียหาย ถ้าหากเกิดความเสียหายจากไฟฟ้า อย่าลืมเช็กเบี้ยประกันบ้านและคอนโดของ insurverse ก็สามารถคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ได้

5 คำถามที่พบบ่อย

เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ได้จริงไหม?

ใช่ แต่ต้องเลือกเครื่องที่มี HEPA Filter แท้ ซึ่งสามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% ถ้าไม่มี HEPA แท้ หรือใช้ไส้กรองคุณภาพต่ำ อาจไม่สามารถกรอง PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Ionizer อันตรายหรือเปล่า?

Ionizer สามารถช่วยทำให้ฝุ่นตกลงพื้น แต่บางรุ่นอาจปล่อยโอโซน ซึ่งเป็นก๊าซที่อาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ ควรเลือกเครื่องที่มีการรับรองว่าไม่ปล่อยโอโซน หรือมีระดับต่ำพอที่จะไม่เป็นอันตราย

เครื่องฟอกอากาศช่วยกำจัดกลิ่นได้ไหม?

ได้ ถ้าเครื่องมี Activated Carbon Filter ซึ่งช่วยดูดซับกลิ่น เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร และสารเคมีระเหย หากไม่มีฟิลเตอร์ประเภทนี้ เครื่องจะไม่สามารถกำจัดกลิ่นได้ดี

ควรวางเครื่องฟอกอากาศตรงไหนถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด?

ควรวางให้ห่างจากกำแพงหรือเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 30 ซม. หลีกเลี่ยงมุมอับหรือใต้โต๊ะ และควรวางไว้ในห้องที่ใช้งานบ่อยที่สุด เช่น ห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เพื่อให้ได้รับอากาศสะอาดอย่างเต็มที่

ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยแค่ไหน?

  • HEPA Filter ควรเปลี่ยนทุก 6-12 เดือน
  • Activated Carbon Filter ควรเปลี่ยนทุก 3-6 เดือน
  • Pre-filter (ตัวกรองหยาบ) สามารถล้างได้ทุกเดือน

ถ้าไส้กรองสกปรกมาก ประสิทธิภาพการฟอกอากาศจะลดลง และอาจทำให้เครื่องทำงานหนักจนพังเร็วขึ้น

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย