การเปลี่ยนหลอดไฟอาจดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ใครก็ทำได้ แต่ถ้าทำผิดวิธี อาจเสี่ยงต่อไฟดูด ไฟไหม้ หรือทำให้ระบบไฟเสียหายโดยไม่รู้ตัว หลายคนอาจเคยเจอปัญหาหลอดไฟขาดแล้วเปลี่ยนใหม่ แต่กลับเจอไฟกระพริบ หลอดไม่ติด หรือหลอดไหม้ไวผิดปกติ จริง ๆ แล้วมีรายละเอียดที่ต้องรู้ก่อนเปลี่ยนหลอดไฟ เพื่อให้แน่ใจว่าทำอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุด ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องระวังและทำให้ถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนแรก
แม้จะเป็นงานที่ดูเหมือนง่าย แต่การเปลี่ยนหลอดไฟมีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
การเปลี่ยนหลอดไฟผิดวิธีหรือระบบไฟฟ้าเก่า อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรโดยไม่คาดคิด ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ใหญ่กว่าหลอดไฟขาด insurverse มีประกันบ้านและคอนโดที่ช่วยคุ้มครองเหตุการณ์ไฟฟ้าลัดวงจร ลดความกังวลเรื่องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านคุณได้ ซื้อไว้ก่อนดีกว่าเสียค่าซ่อมบ้านแบบไม่ทันตั้งตัว
เปลี่ยนหลอดไฟไม่ใช่แค่หมุนออกแล้วใส่อันใหม่เข้าไป แต่ต้องเลือกให้ถูกประเภทด้วย หลอดไฟแต่ละแบบมีข้อกำหนดเรื่องกำลังวัตต์ ขั้วหลอด และระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ถ้าเลือกผิดอาจทำให้ระบบไฟทำงานผิดปกติ หลอดไหม้เร็ว หรือหนักสุดคือทำให้ไฟลัดวงจรได้
สิ่งแรกที่ต้องเช็กคือประเภทของขั้วหลอดไฟ หลอดไฟทั่วไปในบ้านส่วนใหญ่มักเป็นขั้ว E27 หรือ E14 ซึ่งต้องใช้ให้ตรงกับโคมไฟ หลอดแบบ GU10 มักใช้กับไฟดาวน์ไลท์ ส่วนหลอดแบบ MR16 ใช้กับระบบไฟ 12V ถ้าเปลี่ยนผิดชนิด หลอดอาจไม่ทำงานหรือเกิดความเสียหายได้
อีกเรื่องที่ต้องดูคือกำลังวัตต์ของหลอดไฟ หลอดที่ใช้กำลังวัตต์สูงกว่าที่โคมรองรับ อาจทำให้โคมร้อนจนละลายหรือเสี่ยงเกิดไฟไหม้ได้ ถ้าโคมรองรับสูงสุด 60 วัตต์ อย่าใส่หลอด 100 วัตต์เด็ดขาด ทางที่ดีเลือกใช้หลอด LED ที่ใช้พลังงานน้อยแต่ให้ความสว่างเทียบเท่าหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
การเปลี่ยนหลอดไฟต้องแน่ใจว่าไม่มีไฟฟ้าวิ่งอยู่ในระบบ ห้ามเปลี่ยนหลอดไฟขณะที่ไฟยังเปิดอยู่ เพราะกระแสไฟอาจยังไหลผ่าน ทำให้เกิดไฟดูดหรือช็อตได้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือปิดสวิตช์ไฟก่อน จากนั้นไปที่ตู้ควบคุมไฟแล้วปิดเบรกเกอร์ของวงจรที่เกี่ยวข้องกับหลอดไฟนั้น ๆ เพื่อตัดกระแสไฟให้ขาดสนิท
ถ้าหลอดไฟอยู่ในโคมที่มีระบบเซ็นเซอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ต้องแน่ใจว่าระบบปิดสนิทจริง ๆ ก่อนเริ่มเปลี่ยน เพราะบางครั้งแม้จะปิดสวิตช์แล้ว แต่ยังมีกระแสไฟหลงเหลืออยู่ วิธีเช็กง่าย ๆ คือใช้เครื่องวัดไฟ (Voltage Tester) จ่อที่ขั้วหลอดไฟ ถ้าไม่มีไฟฟ้าแสดงว่าเปลี่ยนได้อย่างปลอดภัย
ถ้าต้องเปลี่ยนหลอดไฟที่ติดตั้งอยู่บนเพดานสูงหรือในจุดที่เอื้อมไม่ถึง การใช้เก้าอี้หรือโต๊ะปีนขึ้นไปอาจเสี่ยงต่อการลื่นล้ม วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือใช้บันไดที่มีฐานมั่นคง และควรมีคนช่วยจับบันไดให้อีกแรงหนึ่งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ถ้าหลอดไฟอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก เช่น โคมไฟที่อยู่บนผนังสูง หรือติดตั้งในซอกแคบ ควรใช้ตัวดูดหลอดไฟที่เป็นอุปกรณ์ช่วยหมุนหลอดออกและใส่หลอดใหม่เข้าไปโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสโดยตรง อุปกรณ์นี้มีให้เลือกทั้งแบบใช้ดูดสุญญากาศและแบบหนีบยึด
ก่อนใส่หลอดไฟใหม่ ควรเช็ดทำความสะอาดขั้วเกลียวของหลอดและขั้วโคมไฟด้วยผ้าแห้งหรือกระดาษทิชชู เพื่อขจัดฝุ่นและคราบออกไซด์ที่อาจทำให้การเชื่อมต่อไฟฟ้าไม่สมบูรณ์ ถ้าขั้วหลอดมีคราบสนิมหรือละอองขาว ๆ เกาะ ควรใช้กระดาษทรายละเอียดขัดออกเบา ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าหลอดไฟจะติดได้เต็มประสิทธิภาพ
เวลาหมุนหลอดไฟเข้าไปในขั้ว ต้องหมุนให้แน่นพอดี ถ้าหมุนไม่แน่นพอ หลอดอาจหลุดออกจากขั้วไฟและทำให้เกิดการลัดวงจรได้ แต่ถ้าหมุนแน่นเกินไป อาจทำให้เกลียวขั้วไฟเสียหายหรือเวลาจะเปลี่ยนหลอดใหม่ต้องใช้แรงบิดมากเกินไปจนโคมพังได้
สำหรับหลอด LED บางรุ่นที่มีขั้วเสียบแบบ GU10 หรือ MR16 ต้องกดให้ขั้วล็อกเข้ากับขั้วหลอดไฟให้แน่น ไม่อย่างนั้นหลอดอาจไม่ติดหรือกระพริบ
หลังจากเปลี่ยนหลอดไฟเสร็จ ต้องทดสอบว่าไฟติดหรือไม่โดยการเปิดสวิตช์และดูว่าหลอดสว่างปกติหรือไม่ ถ้าหลอดใหม่ไม่ติด อาจมีสาเหตุจากขั้วไฟไม่แน่น หรืออาจมีปัญหาที่สายไฟภายในโคมไฟ
ถ้าหลอดไฟกระพริบหรือดับ ๆ ติด ๆ อาจเป็นเพราะขั้วไฟสกปรก หรือระบบไฟฟ้าในบ้านมีแรงดันไฟไม่คงที่ ถ้าพบว่าไฟในบ้านกระพริบเป็นประจำ ควรเรียกช่างไฟมาตรวจสอบระบบไฟฟ้าให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาอื่นที่ซ่อนอยู่
หลอดไฟเก่าที่เปลี่ยนออกต้องทิ้งอย่างถูกต้อง หลอดไส้และหลอดฮาโลเจนสามารถทิ้งในถังขยะทั่วไปได้ แต่ถ้าเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (CFL) ต้องทิ้งในจุดรับคืนขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะมีสารปรอทที่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนหลอด LED สามารถนำไปรีไซเคิลได้ตามศูนย์รับขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน
การเปลี่ยนหลอดไฟไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะช่วยให้บ้านของคุณสว่างไสวโดยไม่มีปัญหาจุกจิกตามมา
นอกจากไฟฟ้าลัดวงจรแล้ว บ้านยังมีโอกาสเจอภัยธรรมชาติอื่น ๆ ได้ เช่น พายุ น้ำท่วม หรืออัคคีภัย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายที่คาดไม่ถึง insurverse พร้อมให้คุณ เช็กเบี้ยประกันบ้านและคอนโดที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ลองเช็กเบี้ยประกันไว้ล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณปลอดภัยจากทุกความเสี่ยง
แนะนำให้ปิดเบรกเกอร์ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยสูงสุด แม้ว่าจะปิดสวิตช์ไฟแล้ว แต่บางครั้งอาจยังมีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ การปิดเบรกเกอร์ช่วยลดความเสี่ยงจากไฟดูดและไฟฟ้าลัดวงจรได้ดีที่สุด
อาจเกิดจากขั้วหลอดไฟไม่แน่น ฝุ่นหรือคราบออกไซด์ที่ขั้วไฟฟ้า หรือระบบไฟฟ้าในบ้านมีแรงดันไฟไม่คงที่ ควรลองขันหลอดให้แน่นขึ้น เช็ดทำความสะอาดขั้วหลอด และตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า ถ้ายังมีปัญหาอยู่ควรเรียกช่างไฟมาตรวจสอบ
ต้องเช็กขั้วหลอดไฟให้ตรงกับโคมไฟ เช่น E27, E14, GU10 หรือ MR16 และเลือกกำลังวัตต์ที่เหมาะสมกับโคม ห้ามใช้หลอดที่มีวัตต์สูงเกินกว่าที่โคมรองรับ เพราะอาจทำให้เกิดความร้อนสะสมและเสี่ยงไฟไหม้
ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงมือเสมอไป แต่ถ้าเป็นหลอดฮาโลเจน ควรใช้ผ้าหรือถุงมือจับ เพราะน้ำมันจากผิวหนังอาจทำให้ความร้อนสะสมและทำให้หลอดแตกเร็วขึ้น หลอด LED และหลอดฟลูออเรสเซนต์สามารถจับด้วยมือเปล่าได้ แต่ควรเช็ดทำความสะอาดก่อนใส่
หลอดไส้และหลอดฮาโลเจนสามารถทิ้งขยะทั่วไปได้ แต่หลอดฟลูออเรสเซนต์และ CFL ต้องทิ้งที่จุดรับคืนขยะอิเล็กทรอนิกส์เพราะมีสารปรอท ส่วนหลอด LED สามารถนำไปรีไซเคิลได้ตามศูนย์รับขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ทาวน์เฮ้าส์มือสองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากมีบ้าน แต่ไม่อยากแบกรับภาระราคาสูงของบ้านใหม่ นอกจากจะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าแล้ว
เวลาเดินทางไปต่างประเทศ สนามบินคือจุดเริ่มต้นของทุกทริป และบางแห่งไม่ใช่แค่ที่เช็คอินขึ้นเครื่องเท่านั้น แต่ยังอลังการจนต้องร้องว้าว
การตั้งศาลพระภูมิในบ้านเป็นเรื่องของความเชื่อและจิตใจที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัย