vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ขั้นตอนรีโนเวทบ้านมีอะไรบ้าง? เทคนิคที่คนอยากเปลี่ยนบ้านต้องรู้

ขั้นตอนรีโนเวทบ้านมีอะไรบ้าง? เทคนิคที่คนอยากเปลี่ยนบ้านต้องรู้

schedule
share

รีโนเวทบ้านและคอนโดทีไร หลายคนก็คงฝันถึงบ้านใหม่สวย ๆ พร้อมฟังก์ชันครบครันที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบนี้ มันไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงามอย่างเดียว เพราะเบื้องหลังของบ้านสวย ๆ นั้นมักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่เราอาจมองข้ามไป ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร น้ำรั่ว หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติที่เดาไม่ได้เลยว่ามันจะมาเมื่อไหร่ การมีประกันภัยบ้านและคอนโดจาก insurverse นี่แหละ ที่จะช่วยให้การรีโนเวทของคุณไม่ต้องพะวงกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพราะถ้าอะไรพัง หรือเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา ก็มีคนคอยซัพพอร์ตให้ไม่ต้องควักกระเป๋าเพิ่มเองจนปวดใจ

รู้เป้าหมายก่อนเริ่มรีโนเวท

ก่อนจะหยิบค้อนหรือทาสี ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าการรีโนเวทบ้านครั้งนี้มีเป้าหมายอะไรบ้าง เพราะการรู้จุดมุ่งหมายจะช่วยให้วางแผนได้เป๊ะ ไม่งบบานปลาย เช่น

  • ปรับปรุงทั้งหลัง: ถ้าบ้านทรุดโทรมสุด ๆ หรือมีความเสียหายหลายจุด ควรพิจารณารีโนเวททั้งหลังแบบยกเครื่อง เช่น บ้านที่มีปัญหาน้ำรั่วซึมตามรอยแตกร้าวของพื้น หรือโครงสร้างทรุดตัวอย่างเห็นได้ชัด
  • เปลี่ยนฟังก์ชัน: อยากเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เช่น แบ่งห้องใหม่ เพิ่มห้องโฮมเธียเตอร์ หรือห้องทำงาน เช่น การกั้นห้องนั่งเล่นให้เป็นโฮมเธียเตอร์สุดชิค พร้อมระบบเสียงแน่น ๆ
  • ซ่อมแซมบางจุด: เช่น ห้องน้ำรั่ว หรือหลังคารั่ว ก็ถือโอกาสปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ซ่อมแซม แต่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้สวยงามและทันสมัยกว่าเดิม
  • อัปเกรดการใช้งาน: เช่น ติดฉนวนกันเสียง เปลี่ยนหน้าต่างใหม่ให้บ้านเงียบขึ้น หรือเพิ่มแผงกันแดดที่หน้าต่างห้องทำงานที่แดดส่องจ้า
  • ปรับโฉมตามสไตล์ที่ชอบ: เช่น ทำห้องสไตล์ลอฟท์ ฉาบปูนเปลือย หรือโชว์ท่อแบบอินดัสเทรียล สำหรับใครที่ชอบความดิบเท่แบบไม่เหมือนใคร

หาแรงบันดาลใจและข้อมูลที่ชอบ

การรีโนเวทบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของการซ่อมแซม แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ ๆ ด้วย ลองเสิร์ชหาภาพบ้านในฝันจาก Pinterest หรือ Instagram บันทึกไอเดียเก๋ ๆ ที่ชอบไว้ รวมถึงเลือกวัสดุที่ถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นไม้จริง กระเบื้องลายหิน หรือโทนสีที่ชอบ เพื่อให้สถาปนิกหรือผู้รับเหมารู้ว่าต้องจัดการยังไง

นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปดูบ้านตัวอย่างหรืองานรีโนเวทจริงตามโครงการต่าง ๆ เพื่อเก็บรายละเอียดว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร เช่น ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่าย หรือห้องน้ำที่ใช้กระเบื้องลายหินธรรมชาติ

ตรวจสภาพบ้านแบบละเอียดยิบ

ก่อนจะลงมือรีโนเวทบ้าน ต้องรู้ก่อนว่าบ้านอยู่ในสภาพไหนบ้าง โดยเฉพาะบ้านที่มีอายุหลายสิบปี ลองทำ Check List ดังนี้

  • งานโครงสร้าง: ตรวจสอบเสา คาน พื้น ว่ามีรอยร้าวหรือน้ำรั่วซึมหรือเปล่า เช่น สังเกตผนังว่ามีความชื้นหรือน้ำซึมหรือไม่ เพราะอาจเกิดจากท่อประปารั่วภายในผนัง
  • งานสถาปัตยกรรม: วัสดุปิดผิว ผนัง เพดาน มีการชำรุดมั้ย? กระเบื้องหลุดร่อน หรือพื้นไม้บวมเพราะความชื้นหรือเปล่า
  • ระบบไฟฟ้าและประปา: เดินสายไฟใหม่หรือเปลี่ยนท่อประปาหรือไม่? ตรวจสอบว่าเดินสายไฟถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • ระบบปรับอากาศ: ตรวจสอบว่ามีการรั่วซึม หรือจำเป็นต้องติดตั้งใหม่หรือเปล่า โดยเฉพาะบ้านที่ใช้แอร์เก่ามานาน ควรเปลี่ยนระบบใหม่เพื่อความประหยัดพลังงาน

สรุปเนื้องานที่ต้องทำ

เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็สรุปเนื้องานออกมาให้ชัด เช่น ต้องทุบผนังไหน ปูกระเบื้องตรงไหน หรือเดินสายไฟใหม่แค่ไหน การสรุปงานจะช่วยให้คุณสามารถคุมงบประมาณได้ดีขึ้นและวางแผนลำดับความสำคัญได้ชัดเจน

ยกตัวอย่าง ถ้าต้องการรีโนเวทห้องน้ำ อาจต้องวางแผนว่า

  • รื้อกระเบื้องเก่าออกทั้งหมด
  • ทำระบบกันซึมใหม่เพื่อป้องกันการรั่วซึมในอนาคต
  • เปลี่ยนท่อน้ำและสุขภัณฑ์ใหม่ให้เหมาะกับการใช้งาน
  • เลือกกระเบื้องใหม่ที่มีคุณสมบัติกันลื่นเพื่อความปลอดภัย

วางงบประมาณอย่างฉลาด

การรีโนเวทบ้านไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต้องมีการวางแผนงบประมาณให้รอบคอบ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ

  1. ค่าออกแบบ: สำหรับจ้างสถาปนิก วิศวกร หรือมัณฑนากร เช่น ถ้าอยากได้แบบบ้านที่ไม่ซ้ำใคร ค่าจ้างมัณฑนากรอาจจะสูงขึ้น แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้
  2. ค่าก่อสร้าง: รวมค่าวัสดุ ค่าแรง และค่าสาธารณูปโภคระหว่างการก่อสร้าง เช่น ค่าวัสดุก่อสร้าง กระเบื้อง สีทาบ้าน และค่าแรงช่าง
  3. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: เช่น ค่าเช่าที่เก็บของ ค่าที่ปรึกษา หรือค่าดำเนินการขออนุญาต รวมถึงค่าเช่าบ้านชั่วคราวหากต้องย้ายออกในระหว่างรีโนเวท

อย่าลืมเผื่องบฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 20-30% เพราะในการรีโนเวทมักจะเจอเรื่องไม่คาดคิดเสมอ เช่น เจอพื้นไม้ผุกร่อน หรือโครงสร้างที่ต้องซ่อมมากกว่าที่คิด

เลือกวิธีการรีโนเวทที่เหมาะกับตัวเอง

การรีโนเวทบ้านมี 2 วิธีหลัก ๆ ที่เจ้าของบ้านสามารถเลือกได้

  • Design-Bid-Build: ผู้ออกแบบและผู้รับเหมาแยกกัน ทำให้คุณสามารถควบคุมแบบได้ละเอียดก่อนเริ่มก่อสร้าง แต่ต้องใช้เวลานานขึ้นในการประสานงาน วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากคุมทุกรายละเอียดเอง
  • Design & Build (Turn Key): ผู้ออกแบบและผู้รับเหมาเป็นคนเดียวกัน สะดวกและรวดเร็วกว่า แต่ต้องกำหนดขอบเขตงานให้ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาการสื่อสาร วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากให้ทุกอย่างจบในที่เดียว

ศึกษากฎหมายที่ต้องรู้ก่อนรีโนเวทบ้าน

ไม่ใช่ว่าจะทุบหรือสร้างใหม่ได้ตามใจ หากการรีโนเวทบ้านเป็นแค่การซ่อมแซมเล็ก ๆ เช่น ทาสี เปลี่ยนกระเบื้อง ไม่ต้องขออนุญาต แต่ถ้ามีการดัดแปลงใหญ่ เช่น ต่อเติมหลังคา เพิ่มห้อง หรือเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้า-ประปา ต้องยื่นขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและให้สถาปนิกหรือวิศวกรรับรองแบบแปลนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ หากบ้านอยู่ในโครงการจัดสรร อาจมีกฎห้ามต่อเติมบางอย่าง หรือหากอยู่ใกล้เขตสาธารณะ เช่น ถนน แม่น้ำ หรือแนวสายไฟฟ้า ต้องเว้นระยะห่างให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

เทคนิครีโนเวทบ้านให้ประหยัดงบ

อยากรีโนเวทบ้านแบบไม่ให้กระเป๋าฉีก? ลองใช้เทคนิคเหล่านี้

  • ใช้ของเดิมให้เป็นประโยชน์: ไม่ต้องทุบหรือเปลี่ยนทุกอย่าง เช่น ถ้าพื้นไม้ยังดีอยู่ แค่ขัดเงาก็เหมือนได้ใหม่
  • เลือกวัสดุที่คุ้มค่า: วัสดุทดแทนอย่างกระเบื้องลายไม้ หรือไวนิลก็ช่วยประหยัดงบได้เยอะ
  • วางแผนงานให้ชัดเจน: ยิ่งแผนชัดเจนเท่าไหร่ โอกาสที่งบจะบานปลายก็น้อยลงเท่านั้น
  • เลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ: ตรวจสอบผลงานและรีวิวก่อนจ้างเสมอ อย่าเลือกเพราะราคาถูกที่สุด

เรื่องที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับรีโนเวทบ้าน

  • การรีโนเวทบ้านบางประเภทอาจต้องประเมินโครงสร้างใหม่ทั้งหลัง เช่น บ้านที่มีอายุมากกว่า 30 ปี หรือมีการทรุดตัว
  • การเพิ่มหน้าต่างหรือช่องแสงไม่ใช่แค่เรื่องสวยงาม แต่ยังช่วยลดค่าไฟด้วย เพราะแสงธรรมชาติทำให้ไม่ต้องเปิดไฟทั้งวัน
  • การรีโนเวทห้องน้ำไม่ใช่แค่เปลี่ยนกระเบื้อง ต้องตรวจสอบระบบกันซึมและท่อน้ำอย่างละเอียด
  • งานระบบไฟฟ้าเก่ามักมีปัญหาความปลอดภัย ควรเปลี่ยนใหม่หากบ้านมีอายุมากกว่า 15 ปี

ไม่ว่าจะรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่หรือแค่ปรับปรุงมุมเล็ก ๆ การวางแผนล่วงหน้าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็อย่าลืมว่าความเสี่ยงมันอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะไฟไหม้ น้ำท่วม หรือแม้แต่การถูกโจรกรรมก็ตาม การเช็กเบี้ยประกันบ้านและคอนโดจาก insurverse จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการคุ้มครองทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสบายใจและใช้ชีวิตในบ้านใหม่ได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บ้านของคุณก็มีเกราะป้องกันที่เชื่อถือได้เสมอ รีโนเวทเสร็จแล้ว ก็พร้อมใช้ชีวิตในบ้านที่ทั้งสวยและปลอดภัยได้เลย!

5 คำถามที่พบบ่อย

รีโนเวทบ้านต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

ระยะเวลาในการรีโนเวทขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของโครงการ เช่น การรีโนเวททั้งหลังอาจใช้เวลาหลายเดือน ในขณะที่การปรับปรุงห้องเดียวอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

ควรเลือกผู้รับเหมาหรือสถาปนิกก่อนรีโนเวทบ้านยังไง?

ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา รีวิวจากลูกค้าเก่า และสอบถามประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับประเภทของการรีโนเวทที่คุณต้องการ

รีโนเวทบ้านต้องขออนุญาตจากหน่วยงานไหนบ้าง?

หากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือระบบสำคัญ เช่น ไฟฟ้าหรือประปา ต้องยื่นขออนุญาตที่สำนักงานเขตหรือเทศบาลท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง

วัสดุแบบไหนที่เหมาะสำหรับการรีโนเวทบ้านเก่า?

วัสดุที่ทนทานและดูแลง่าย เช่น ไม้สังเคราะห์หรือกระเบื้องลายไม้ มักเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบ้านที่มีอายุการใช้งานนาน

จะจัดการกับของใช้ในบ้านระหว่างการรีโนเวทยังไงดี?

ควรหาที่เก็บของที่ปลอดภัยหรือเช่าพื้นที่เก็บของชั่วคราว รวมถึงการห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อป้องกันฝุ่นและความเสียหาย.

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย