vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ผ่อนบ้านไม่ไหวควรทำอย่างไร? ทางออกที่ช่วยจัดการปัญหาได้จริง

ผ่อนบ้านไม่ไหว ทำไงดี? รวมวิธีแก้ปัญหา ที่ไม่ต้องปล่อยให้ธนาคารยึด

schedule
share

ใครว่าปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหวจะเป็นเรื่องเดียวที่น่าหนักใจ? จริง ๆ แล้วเจ้าของบ้านยังต้องรับมือกับความเสี่ยงอีกสารพัด ตั้งแต่ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ไปจนถึงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวหรือพายุที่ไม่รู้จะโผล่มาเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาพร้อม ๆ กับปัญหาการเงิน คงจะปวดหัวไม่น้อย 

เพราะงั้น นอกจากวางแผนการเงินให้รัดกุมแล้ว การมีประกันบ้านและคอนโดจาก insurverse ก็ช่วยให้ชีวิตเบาลงได้เยอะ ทั้งคุ้มครองภัยต่าง ๆ และยังจัดการทุกอย่างออนไลน์ได้ง่ายสุด ๆ

เจรจาประนอมหนี้กับธนาคาร ทางออกแรกที่ควรทำ

เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าผ่อนบ้านไม่ไหว การรีบเข้าไปคุยกับธนาคารเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด เพราะเชื่อเถอะว่าธนาคารไม่ได้อยากยึดบ้านของคุณเท่าไหร่หรอก การฟ้องร้องและยึดทรัพย์เป็นเรื่องที่ทั้งยุ่งยากและใช้เวลาสำหรับธนาคาร ดังนั้นการเจรจาหาทางออกร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องการ

วิธีประนอมหนี้ที่ธนาคารมักเสนอ

  1. ขอลดอัตราดอกเบี้ย: ถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นสูงกว่าตอนแรกกู้ ลองคุยกับธนาคารเพื่อต่อรองลดดอกเบี้ยลง ซึ่งจะช่วยให้ผ่อนต่อได้ง่ายขึ้น
  2. ขอผ่อนบ้านต่ำกว่าปกติ: สามารถลดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือนลงได้ชั่วคราว แต่ต้องจ่ายมากกว่าดอกเบี้ยขั้นต่ำ 500 บาท วิธีนี้ทำได้เพียงครั้งเดียวและไม่เกิน 2 ปี
  3. ขอขยายเวลาชำระหนี้: ยืดระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้นเพื่อลดค่างวดรายเดือนได้ โดยสามารถขยายได้จนผู้กู้มีอายุไม่เกิน 70 ปี
  4. ขอกู้เพิ่มเพื่อปิดหนี้ค้าง: ถ้ามีดอกเบี้ยค้างอยู่ ลองขอกู้เพิ่มเพื่อนำไปปิดยอดนั้น แต่ต้องผ่อนบ้านตรงเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อนถึงจะยื่นขอได้
  5. ขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย พักชำระเงินต้น: จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุด 12 เดือนได้ แต่ทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น วิธีนี้ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการการเงินในระยะสั้น
  6. ขอผ่อนผันการค้างชำระ: ถ้ามีหนี้ค้าง ธนาคารจะช่วยแบ่งเบาภาระด้วยการผ่อนผันสูงสุด 36 เดือน จากนั้นเลือกวิธีชำระต่อแบบยืดหยุ่น เช่น จ่ายเป็นงวดเล็ก ๆ หรือเงินก้อนเมื่อพร้อม
  7. ขอโอนบ้านให้ธนาคารชั่วคราว: ธนาคารจะถือกรรมสิทธิ์ชั่วคราว และคุณจะเช่าบ้านของตัวเองอยู่โดยจ่ายค่าเช่า 0.4-0.6% ของมูลค่าหลักทรัพย์ แล้วค่อยซื้อคืนภายหลังเมื่อการเงินกลับมาดีขึ้น

ขายคืนธนาคารทำได้จริงไหม?

หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าผ่อนบ้านไม่ไหวจะขายคืนธนาคารได้ทันที แต่ความจริงคือ ไม่สามารถขายคืนธนาคารได้ เพราะธนาคารเป็นผู้ให้กู้ ไม่ใช่เจ้าของบ้าน วิธีที่ทำได้คือ ขายต่อให้ผู้อื่น โดยใช้เงินที่ได้จากการขายไปปิดหนี้กับธนาคาร จากนั้นค่อยโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อใหม่ การขายบ้านในกรณีนี้ต้องวางแผนให้ดี เพราะถ้ายังผ่อนบ้านอยู่ การขายต่อจะต้องใช้เงินจากผู้ซื้อเพื่อปิดบัญชีก่อนโอนกรรมสิทธิ์

ผ่อนบ้านไม่ไหวเพราะถูกลดเงินเดือน หรือโดนเลิกจ้าง ต้องทำยังไง?

  1. ติดต่อธนาคารทันที: อย่ารอให้ค้างชำระหลายงวด รีบไปขอคำปรึกษาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารมักจะช่วยหาทางแก้ปัญหาให้ เช่น ลดดอกเบี้ยหรือขยายเวลาผ่อน
  2. ขอพักหนี้: ถ้าถูกเลิกจ้างหรือรายได้หายไป ธนาคารอาจอนุมัติให้พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยชั่วคราว วิธีนี้ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการการเงินก่อนกลับมาผ่อนต่อ
  3. ขายบ้านก่อนถูกยึด: ถ้าไม่มีทางออกอื่น การขายบ้านเองก่อนถูกยึดจะช่วยลดผลกระทบทางการเงินและเครดิตได้มาก เพราะการถูกยึดทรัพย์จะทำให้เครดิตเสียอย่างหนัก

ปล่อยให้ยึดบ้านเลยดีไหม?

การปล่อยให้ธนาคารยึดบ้านอาจดูเหมือนทางออกที่ง่ายที่สุด แต่ผลเสียที่ตามมามีมากกว่าที่คิด

  1. ติดเครดิตบูโร: การถูกฟ้องร้องและยึดบ้านจะทำให้ประวัติเครดิตเสียหายอย่างหนัก การขอสินเชื่อใหม่ในอนาคตจะเป็นไปได้ยากมาก
  2. ต้องจ่ายส่วนต่างหนี้: ถ้าขายทอดตลาดแล้วได้เงินไม่พอปิดหนี้ คุณยังต้องหาเงินส่วนต่างมาจ่ายอยู่ดี ตัวอย่างเช่น หนี้ 3 ล้านบาท แต่ขายทอดตลาดได้แค่ 2.7 ล้าน คุณยังต้องจ่ายเพิ่มอีก 3 แสนบาท
  3. สูญเงินดาวน์และเงินผ่อนที่จ่ายไป: เงินทั้งหมดที่เคยจ่ายไป รวมถึงเงินดาวน์จะหายไปแบบไม่ได้อะไรกลับมา ซึ่งนับว่าเสียโอกาสและเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

วิธีแก้ปัญหาก่อนถึงขั้นวิกฤต

  1. รีไฟแนนซ์บ้าน: เปลี่ยนไปกู้กับธนาคารใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยถูกกว่า ลดภาระดอกเบี้ยลงได้เยอะ ช่วยให้ผ่อนบ้านได้ง่ายขึ้น
  2. ผ่อนให้เกินค่างวด: ถ้ามีเงินเหลือ ลองจ่ายเกินค่างวดบ้างเพื่อลดดอกเบี้ยและให้หมดหนี้เร็วขึ้น
  3. โปะเงินก้อนเมื่อมีโอกาส: ใช้เงินโบนัสหรือลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลมาโปะบ้าน เพื่อลดภาระหนี้และทำให้บ้านหมดหนี้ไวขึ้น
  4. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: ตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยออกไปเพื่อเอาเงินมาผ่อนบ้าน เช่น ลดการช้อปปิ้งออนไลน์ หรือเลิกใช้บริการ subscription ที่ไม่จำเป็น
  5. หารายได้เสริม: ทำงานพิเศษ ขายของออนไลน์ หรือหางานเสริมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรายได้มาเสริมสภาพคล่องการเงิน

โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จากธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับสถาบันการเงินต่าง ๆ เปิดตัวโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ที่ประสบปัญหาทางการเงิน

มาตรการที่ 1: จ่ายตรง คงทรัพย์

  1. ลดค่างวด: จ่ายค่างวดขั้นต่ำ 50% ในปีแรก, 70% ในปีที่สอง และ 90% ในปีที่สาม ค่างวดทั้งหมดจะนำไปตัดเงินต้น
  2. พักดอกเบี้ย 3 ปี: ดอกเบี้ยที่พักไว้จะถูกยกเว้นหากลูกหนี้จ่ายค่างวดตรงตามกำหนดทุกปี

มาตรการที่ 2: จ่าย ปิด จบ

สำหรับลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้เพื่อปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อบัญชี ช่วยให้ลูกหนี้สามารถเริ่มต้นใหม่ได้โดยไม่ต้องกังวลกับหนี้สินเก่า

แนวทางที่ควรทำทันทีเมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว

  1. ติดต่อธนาคารเพื่อเจรจา: หาทางออกกับธนาคารก่อนที่จะปล่อยให้สถานการณ์ลุกลาม เพราะธนาคารมักมีมาตรการช่วยเหลือที่คุณอาจไม่รู้
  2. รีไฟแนนซ์หรือลดดอกเบี้ย: หาธนาคารใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าหรือเจรจาขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมเพื่อช่วยลดภาระ
  3. ขายบ้านก่อนถูกฟ้อง: ถ้าไม่มีทางเลือกแล้ว การขายบ้านเองก่อนถูกยึดจะช่วยลดผลกระทบทางการเงินและเครดิตได้มาก
  4. วางแผนการเงินใหม่: ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและหาแหล่งรายได้เสริมเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ช่วยให้คุณกลับมาผ่อนบ้านได้อย่างมั่นคง

การจัดการหนี้บ้านไม่ใช่เรื่องยากถ้ารู้วิธีแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยให้สถานการณ์ลุกลาม รีบหาทางออกตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรักษาบ้านและเครดิตของตัวเองให้ปลอดภัย

สรุป

เมื่อสามารถจัดการเรื่องผ่อนบ้านได้แล้ว อย่าลืม เช็กเบี้ยประกันบ้านและคอนโด อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากความเสี่ยงรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ระเบิด หรือแม้แต่ภัยจากโจรกรรม insurverse มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมตั้งแต่กระจกแตกไปจนถึงภัยธรรมชาติหนัก ๆ แถมยังเคลมง่ายไม่ต้องห่วงเรื่องเอกสารหาย เพราะทุกอย่างอยู่ในระบบออนไลน์ พร้อมช่วยให้เจ้าของบ้านอุ่นใจได้ทุกสถานการณ์!

5 คำถามที่พบบ่อย

ถ้าผ่อนบ้านไม่ไหวแล้วค้างชำระกี่งวดถึงจะถูกฟ้องร้อง?

ธนาคารส่วนใหญ่จะเริ่มดำเนินการทางกฎหมายหลังจากค้างชำระประมาณ 3-6 งวด แต่ระยะเวลานี้อาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละธนาคาร

สามารถหาผู้ร่วมกู้ใหม่เพื่อช่วยผ่อนบ้านได้หรือไม่?

การเพิ่มผู้ร่วมกู้หลังจากกู้ไปแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถลองปรึกษาธนาคารได้ว่ามีทางเลือกนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารและประวัติการชำระเงินของผู้กู้เดิม

ถ้าผ่อนบ้านไม่ไหวแล้วรีไฟแนนซ์ได้หรือเปล่า?

รีไฟแนนซ์สามารถช่วยลดดอกเบี้ยได้ แต่ต้องมีประวัติการชำระที่ดี ถ้ามีค้างชำระหรือผ่อนล่าช้าอาจทำให้ธนาคารใหม่ปฏิเสธการรีไฟแนนซ์ได้

ขายฝากบ้านเป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ถ้าผ่อนบ้านไม่ไหว?

การขายฝากอาจช่วยให้ได้เงินก้อนมาใช้หนี้ แต่ต้องระวังเรื่องดอกเบี้ยและระยะเวลาในการไถ่ถอนบ้าน เพราะหากไม่สามารถไถ่ถอนบ้านคืนได้ บ้านอาจตกเป็นของผู้รับซื้อฝาก

หากผ่อนบ้านไม่ไหว สามารถเปลี่ยนบ้านเป็นทรัพย์สินให้เช่าเพื่อสร้างรายได้ได้ไหม?

การปล่อยเช่าบ้านสามารถช่วยสร้างรายได้เพื่อผ่อนธนาคารได้ แต่ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและภาษีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเสี่ยงในการหาผู้เช่าที่มั่นคง

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย