vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ

เช็คการจราจรออนไลน์แบบมือโปร เดินทางสบาย ไม่มีสะดุด

schedule
share

เคยไหมที่ออกจากบ้านหวังว่าจะถึงที่หมายแบบชิล ๆ แต่พอเข้าถนนหลักปุ๊บ ต้องเจอรถติดยาวจนอยากกลับไปนอนอยู่บ้าน ถ้าไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เช็คการจราจรออนไลน์ช่วยได้ ยุคนี้เทคโนโลยีทำให้เรารู้สถานการณ์ล่วงหน้าได้แบบเรียลไทม์ ลองมาดูกันว่ามีวิธีเช็คยังไงให้ชีวิตง่ายขึ้นบ้าง

อย่างไรก็ตาม แม้จะเช็คการจราจรออนไลน์แล้ว แต่ถ้า พ.ร.บ.รถยนต์ หมดอายุ ก็อาจจะเจอปัญหาระหว่างขับขี่ได้ ถ้ายังไม่รู้ว่า พ.ร.บ.รถยนต์ ราคาเท่าไหร่ หรือหมดอายุรึยัง สามารถเช็คราคา พ.ร.บ.รถยนต์ ได้ภายในไม่ถึง 5 นาทีผ่านเว็บไซต์ insurverse

google maps
source: https://www.pexels.com/photo/red-and-white-labeled-box-5444631/

1. Google Maps ตัวช่วยยอดฮิต

Google Maps คือแอปที่ขาดไม่ได้สำหรับคนขับรถในยุคนี้ มันไม่ใช่แค่แอปนำทางธรรมดา แต่ยังเป็นเหมือนสายลับที่คอยบอกทุกความเคลื่อนไหวบนถนนแบบเรียลไทม์

วิธีใช้งาน

  • ใส่ปลายทาง: เปิด Google Maps แล้วกรอกจุดหมายปลายทาง ระบบจะคำนวณเส้นทางที่เร็วที่สุดให้ทันที
  • ดูสีบนแผนที่:
    • สีเขียว: โล่งมาก รถวิ่งฉิว
    • สีเหลือง: เริ่มแน่น รถเยอะขึ้นนิดหน่อย
    • สีแดง: ติดหนักมาก เตรียมหาเส้นทางใหม่
  • ใช้ฟีเจอร์ Live Traffic: เพื่อดูภาพรวมของการจราจรในแต่ละโซน
  • เปิดโหมดนำทาง: เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนการจราจรระหว่างทาง เช่น อุบัติเหตุหรือถนนปิด
  • ลองฟีเจอร์ Explore Nearby: หากหิวหรืออยากแวะพักระหว่างทาง กดค้นหาปั๊ม ร้านอาหาร หรือจุดพักใกล้ ๆ ได้เลย

นอกจากนี้ Google Maps สามารถตั้งเวลาออกเดินทางเพื่อดูสถานการณ์ล่วงหน้าได้ เช่น หากวางแผนออกจากบ้านตอน 8 โมง ระบบจะแสดงสภาพจราจรในช่วงเวลานั้นให้เห็นทันที

JS 100
source: https://play.google.com/store/apps/details?id=js100.gissoft.co.th.js100&hl=th

2. JS100 แอปจราจรครบวงจร

JS100 เป็นแอปที่คนขับรถในเมืองไทยต้องมีติดเครื่อง แอปนี้ไม่ได้แค่บอกการจราจรแบบเรียลไทม์ แต่ยังช่วยเตือนคุณเรื่องเหตุด่วน เหตุร้าย และน้ำท่วมได้อีกด้วย

ฟีเจอร์เด่นที่ควรรู้

  • วิทยุออนไลน์: ฟังข่าวจราจรสด ๆ จากทีมงานที่อัปเดตตลอดทั้งวัน
  • แจ้ง SOS: หากเกิดอุบัติเหตุ รถเสีย หรือเหตุฉุกเฉิน แจ้งผ่านแอปได้ทันที
  • แผนที่นำทางพร้อมรายงานสด: ระบบแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุด และแจ้งเตือนอุบัติเหตุหรือปัญหาจราจรที่อาจเกิดขึ้น

วิธีใช้งาน

  1. เปิดแอป JS100 แล้วดูหน้ารายงานการจราจร จะเห็นเส้นทางที่รถติดหรือโล่ง
  2. ใช้ฟีเจอร์แจ้งเหตุ หากคุณเจอถนนปิด อุบัติเหตุ หรือน้ำท่วม เพื่อช่วยให้ข้อมูลกับคนอื่น
  3. ตั้งค่าแจ้งเตือนอัตโนมัติสำหรับเส้นทางที่คุณใช้เป็นประจำ

3. CCTV การจราจรจากเว็บไซต์หน่วยงานรัฐ

ถ้าคุณต้องการดูถนนจริง ๆ แบบสด ๆ CCTV คือคำตอบ เว็บไซต์หลายแห่งในไทยให้บริการกล้องวงจรปิดฟรี ให้คุณตรวจสอบสถานการณ์จราจรได้เอง

เว็บไซต์ที่ต้องรู้

วิธีใช้งาน

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ เช่น highwaytraffic.go.th
  2. เลือกจังหวัดหรือพื้นที่ที่ต้องการดูบนแผนที่
  3. กดคลิกที่ไอคอนกล้อง CCTV ระบบจะแสดงภาพถ่ายทอดสดของถนนเส้นนั้นทันที

ข้อดีของการใช้ CCTV

  • คุณได้เห็นภาพจริง ไม่ต้องเดาจากสีบนแผนที่
  • มีข้อมูลที่ชัดเจนสำหรับเส้นทางสำคัญ เช่น ทางด่วนหรือจุดเสี่ยงน้ำท่วม
waze
source: https://www.thumbsup.in.th/google-maps-now-displays-waze-alerts

4. Waze แอปชุมชนผู้ใช้ถนน

Waze เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการข้อมูลสดใหม่จากผู้ใช้ถนนจริง แอปนี้ทำงานบนระบบชุมชน ทุกคนสามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ที่เจอบนถนนได้ เช่น ถนนปิด หลุมขนาดใหญ่ หรือจุดตรวจความเร็ว

จุดเด่น

  • แจ้งเตือนอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์: เช่น ถนนลื่น อุบัติเหตุ หรือสิ่งกีดขวาง
  • แนะนำเส้นทางลัด: ระบบจะแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุดโดยใช้ข้อมูลจากผู้ใช้รายอื่น
  • ฟีเจอร์รายงาน: ถ้าคุณเจออะไรที่น่าสนใจบนถนน เช่น สัตว์หลงทาง หรือสิ่งกีดขวาง สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้คนอื่นได้ทันที

วิธีใช้งาน

  1. ดาวน์โหลดแอป Waze และตั้งค่าโปรไฟล์
  2. ป้อนจุดหมายปลายทาง ระบบจะแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุดพร้อมบอกสถานการณ์จราจร
  3. หากคุณพบเหตุการณ์ระหว่างทาง เช่น น้ำท่วม สามารถเพิ่มข้อมูลในระบบเพื่อช่วยผู้ใช้คนอื่น

ข้อดี

  • ระบบอัปเดตเร็วมาก เพราะข้อมูลมาจากคนใช้ถนนจริง
  • แนะนำเส้นทางที่คุณอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน

5. โซเชียลมีเดีย แหล่งข้อมูลจราจรแบบบ้าน ๆ แต่แม่น!

Facebook และ Twitter อาจไม่ได้ดูไฮเทค แต่จริง ๆ แล้วเป็นแหล่งข้อมูลจราจรที่เร็วและตรงที่สุด หลายเพจจราจร เช่น JS100 หรือ สวพ.91 อัปเดตสถานการณ์ตลอดเวลา

วิธีใช้

  • กดติดตามเพจที่เกี่ยวข้อง เช่น สวพ.91, JS100 หรือกรมทางหลวง
  • ใช้แฮชแท็ก เช่น #อุบัติเหตุ #น้ำท่วม เพื่อค้นหาสถานการณ์ล่าสุด
  • กดเปิดแจ้งเตือนโพสต์ใหม่ เพื่อไม่พลาดข้อมูลด่วน

ทำไมถึงเวิร์ก

  • ได้ข้อมูลด่วนที่สุดโดยไม่ต้องเข้าแอป
  • บางครั้งมีภาพหรือคลิปวิดีโอที่ช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ได้ชัดเจน

รถชนระหว่างรถติด ทำไงดี

เหตุการณ์รถชนระหว่างรถติดเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ก็เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ หากคุณพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่าเพิ่งตกใจ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้

  1. จอดรถในจุดปลอดภัย หากยังสามารถขยับรถได้ ให้เคลื่อนย้ายไปจอดในจุดที่ปลอดภัย เช่น ข้างทาง เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร และป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  2. เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อแจ้งเตือนรถคันอื่น ๆ ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น และป้องกันการชนซ้ำ
  3. เช็คความปลอดภัย ตรวจสอบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่ หากมีผู้บาดเจ็บให้โทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที
  4. ถ่ายภาพเหตุการณ์ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพจุดเกิดเหตุ ความเสียหายของรถทั้งสองคัน และป้ายทะเบียนรถให้ชัดเจน เพื่อเป็นหลักฐานในการเคลมประกัน
  5. แจ้งประกันภัย โทรแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคุณ พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุและรายละเอียดของอุบัติเหตุ
  6. แลกข้อมูลกับคู่กรณี จดชื่อ เบอร์โทรศัพท์ เลขทะเบียนรถ และข้อมูลประกันภัยของคู่กรณี เพื่อความสะดวกในการติดต่อภายหลัง
  7. รอเจ้าหน้าที่ประกันภัย เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
  8. อย่าเพิ่งเซ็นเอกสารใด ๆ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเอกสาร ควรสอบถามเจ้าหน้าที่หรือบริษัทประกันก่อนเซ็นเอกสารใด ๆ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง

ถ้าเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถติด การมี พ.ร.บ. รถยนต์จาก insurverse ช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลหรือการเจรจา เพราะมีทีมช่วยดูแลทุกขั้นตอน

5 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเช็คการจราจรออนไลน์

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย