ถ้าพูดถึงการเตะบอล หลายคนคงนึกถึงความมันส์ ความสนุก หรือแม้กระทั่งการปลดปล่อยพลังงานที่อัดแน่นมาทั้งวัน แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “สนามฟุตบอล” ที่ใช่! จะเตะกับแก๊งเพื่อนแบบขำ ๆ หรือจัดแมตช์จริงจัง สนามดี ๆ นี่แหละที่ทำให้เกมสนุกขึ้นเป็นกอง แล้วในกรุงเทพฯ จะมีสนามไหนน่าไปลองบ้าง? เรารวบรวมมาให้ถึง 9 สนาม ที่บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เตะสนุก แต่บรรยากาศยังโดนสุด ๆ
ถ้าเอ่ยถึงสนามบอลในร่มที่ครบเครื่องที่สุดในย่านพระราม 2 ชื่อ TK7 Soccer Stadium ต้องติดอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ด้วยสนามหญ้าเทียมเกรดพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเตะทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเล่นเอามันส์ เล่นจริงจัง หรือจัดทัวร์นาเมนต์ ตัวสนามมีโครงสร้างสวยงามหรูหราจนหลายคนถึงกับเรียกที่นี่ว่า “สนามบอลหรูระดับพรีเมียม”
จุดเด่นที่ทำให้ TK7 Soccer Stadium เป็นที่นิยมคือบรรยากาศสุดชิล มีคลับเฮาส์ที่ตกแต่งอย่างดี ใครเหนื่อยก็แวะพักในห้องแอร์เย็นฉ่ำ หรือจะนั่งคุยกับเพื่อน ๆ ก็สะดวกสบาย จะเตะบอลตอนเช้าหรือตอนค่ำก็จัดได้หมด เพราะสนามเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.00-24.00 น. ราคาก็ถือว่าเป็นมิตร เริ่มต้นเพียง 1,000-1,200 บาทต่อชั่วโมง เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับทุกสายที่รักการเตะฟุตบอลในบรรยากาศที่เหนือระดับ
คนย่านนวลจันทร์ที่ชอบเตะฟุตบอลต้องรู้จัก All Stars Nuanchan Football Club สนามนี้มาพร้อมกับสนามบอลขนาด 7 คน และ 9 คน โดยสนามใหญ่ขนาด 9 คนใช้หญ้าเทียมระดับฟีฟ่า พื้นผิวเนียน เตะสนุก ไม่มีสะดุดแน่นอน
ความเจ๋งอีกอย่างของที่นี่คือมีอคาเดมีฝึกฟุตบอลที่ดูแลโดยโค้ชชื่อดัง คุณสมชาติ ยิ้มศิริ อดีตทีมชาติไทย ใครอยากได้เทคนิคเตะบอลเทพ ๆ ต้องไม่พลาด และด้วยบรรยากาศกลางแจ้งของสนามนี้ ทำให้การเตะบอลที่นี่เหมือนการพักผ่อนไปในตัว นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถกว้างขวาง รองรับได้เพียบ
สนามเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.00-24.00 น. ราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 500-2,000 บาทต่อชั่วโมง ถ้ากำลังมองหาสนามที่ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ ความสะดวก หรือการบริการ สนามนี้ต้องอยู่ในใจคุณ
TCFC พระราม 9 เป็นสนามบอลในร่มที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ การเดินทางสะดวกสุด ๆ ตัวสนามมีทั้งหมด 3 สนาม โดยเป็นสนามหญ้าเทียมขนาด 7 คน ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเตะบอลในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะร้อนหรือฝนตกก็ไม่ใช่ปัญหา
ที่นี่มีคลับเฮาส์ไว้บริการ พร้อมทั้งที่จอดรถสะดวกสบาย บรรยากาศเหมาะสำหรับการเตะบอลหลังเลิกงานหรือในวันหยุดกับเพื่อน ๆ สนามเปิดให้บริการในวันธรรมดาเวลา 14.00-22.00 น. ส่วนวันหยุดเปิดตั้งแต่ 09.00-17.00 น. ราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,000-1,600 บาทต่อชั่วโมง สายเตะบอลที่มองหาสนามในเมืองที่ตอบโจทย์ความสะดวกและคุณภาพ ที่นี่คือคำตอบ
ถ้าคุณอยู่แถวบางนา The Primary บางนา คือสนามบอลที่คุณไม่ควรพลาด สนามนี้ตั้งอยู่ในซอยจรรยวรรธ ถนนบางนา-ตราด ใกล้กับ ม.รามคำแหง 2 ตัวสนามมีทั้งหมด 4 สนาม โดยเป็นสนามกลางแจ้งที่บรรยากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงเย็น
นอกจากนี้ยังมีคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สนามเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-23.00 น. ราคาเริ่มต้นที่ 500-1,300 บาทต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับการเตะบอลแบบชิล ๆ หรือจัดแข่งกับเพื่อนแบบจริงจัง
Park Arena เป็นสนามบอลขนาดใหญ่ในย่านตลิ่งชัน ที่รองรับทั้งการเตะบอลในร่มและกลางแจ้ง มีทั้งหมด 5 สนาม โดยสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 6 คนจนถึง 11 คน สนามกลางแจ้งยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสนามใหญ่สำหรับทีมขนาดใหญ่ได้อีกด้วย
สิ่งที่ทำให้ที่นี่โดดเด่นคือความครบครันในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งแต่ที่จอดรถที่รองรับได้กว่า 180 คัน คลับเฮาส์ขนาดใหญ่ที่ติดแอร์เย็นฉ่ำ ห้องน้ำสะอาดสะดวกสบาย พร้อมร้านอาหารและคาเฟ่ สนามเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 16.00-23.00 น. ราคาเริ่มต้นที่ 1,100-2,600 บาทต่อชั่วโมง
ย่านทุ่งครุมีสนามบอลเด่น ๆ อยู่หลายแห่ง แต่ The Match 2 เป็นหนึ่งในสนามที่ควรค่าแก่การไปเตะ ตัวสนามมีขนาดสำหรับ 6-7 คน จำนวน 2 สนาม และสนามฟุตซอลอีก 1 สนาม ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สนามบอล แต่ยังมีโซนนั่งพักและสังสรรค์ที่บรรยากาศดีมาก
สนามเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 16.00-24.00 น. ราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาทต่อชั่วโมง สายเตะบอลที่มองหาสนามในย่านนี้ บอกเลยว่า The Match 2 ไม่ทำให้ผิดหวัง
สนามฟุตบอลกลางแจ้งที่ตอบโจทย์ทุกคนในย่านพัฒนาการ สนามบอลไฮบริดพัฒนาการ มีทั้งหมด 3 สนาม โดยเป็นสนามขนาด 7 คน จำนวน 2 สนาม และสนามขนาด 11 คนอีก 1 สนาม
ความพิเศษของสนามนี้คือความใหญ่ของสนาม ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถกว้างขวางมาก เดินทางสะดวกด้วยเส้นทางที่เข้าได้หลายทาง สนามเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-03.00 น. ราคาเริ่มต้นที่ 900-3,500 บาทต่อชั่วโมง
ในย่านทุ่งครุ Mr.Ken Soccer เป็นอีกหนึ่งสนามบอลที่ไม่ควรพลาด ตัวสนามมีทั้งหมด 2 สนาม ขนาดสำหรับ 7 คน จุดเด่นอยู่ที่บรรยากาศช่วงเย็น ที่มองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเตะบอลแบบชิล ๆ
สนามนี้ยังมีคลับเฮาส์ที่ให้บริการทั้งอาหารและกาแฟสด สำหรับใครที่อยากพักเหนื่อยหรือเติมพลังหลังจากเตะบอล ตัวสนามเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาทต่อชั่วโมง
สำหรับสายเตะบอลในร่ม TCFC พระราม 3 คือสนามบอลที่ไม่ควรพลาด สนามนี้มีทั้งหมด 4 สนามในร่มขนาด 5 คน ทำให้การเตะบอลที่นี่ไม่ต้องกังวลเรื่องแดดหรือฝน ที่นี่เหมาะสำหรับทั้งการเตะบอลทั่วไปและการจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ต่าง ๆ
สนามเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-24.00 น. ราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,200-1,600 บาทต่อชั่วโมง หากกำลังมองหาสนามในร่มที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ทุกด้าน สนามนี้คือตัวเลือกที่คุณต้องลอง
เมื่อพูดถึงการเตะบอล ไม่ว่าจะสนามในร่มหรือกลางแจ้ง เรื่องอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเกมก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งถ้าเตะกันสนุกจนลืมระวังตัว insurverse ช่วยให้คุณหมดกังวล เพราะมีประกันอุบัติเหตุที่สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้แบบ 100% แถมยังเช็คเบี้ยประกันอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ภายในไม่ถึง 5 นาที ใครที่อยากเล่นกีฬาแบบไร้กังวล ไม่ต้องกลัวอะไรให้ขัดอารมณ์ แค่มีประกันดี ๆ ติดตัวไว้ เกมไหนก็ลุยได้เต็มที่!
สนามฟุตบอล 7 คน มักมีขนาดประมาณ 30-40 เมตร (กว้าง) และ 50-60 เมตร (ยาว) ซึ่งขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละสนาม
ราคาค่าเช่าสนามฟุตบอลหญ้าเทียมส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ประมาณ 500-3,500 บาทต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดสนาม ทำเล และเวลาที่จอง (กลางวันหรือกลางคืน)
สนามฟุตบอล 11 คน มาตรฐานทั่วไปจะใช้พื้นที่ประมาณ 5-6 ไร่ รวมพื้นที่ขอบสนามและโซนต่าง ๆ
สนามฟุตบอลมักวัดด้วยหน่วยเมตร ตามมาตรฐานสากล เช่น ความยาวและความกว้าง รวมถึงใช้เครื่องมือวัดระยะเช่น เทปวัดระยะ หรือเครื่องวัดเลเซอร์
ขนาดสนามฟุตบอลมาตรฐานสากล กว้าง 45-90 เมตร และยาว 90-120 เมตร สำหรับการแข่งขันระดับท้องถิ่นหรือระดับสากล ความยาวและความกว้างจะปรับตามมาตรฐานนั้น ๆ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
หลายคนอาจคิดว่าการตกแต่งต้องใช้งบประมาณสูง แต่ความจริงแล้วหากมีแนวทางที่ชัดเจน คุณก็สามารถออกแบบพื้นที่ของคุณให้โดดเด่นและน่าอยู่ได้
เคยฝันอยากหลุดเข้าไปในโลกเทพนิยายกันมั้ย? ดิสนีย์แลนด์คือจุดหมายที่พาคุณไปใกล้ฝันมากที่สุด จะวัยเด็กหรือวัยไหนก็โดนใจได้หมด เพราะนี่ไม่ใช่แค่สวนสนุก แต่เป็น "มหัศจรรย์ที่จับต้องได้"
ห้องนอนคือพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริง แต่การจะทำให้ห้องนอนน่านอน ไม่ใช่แค่เรื่องของการวางเตียงกับหมอน แต่ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสบายและทำให้บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้น