หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สมรรถนะเยี่ยม ขับขี่คล่องตัว และยังประหยัดน้ำมัน Mazda 2 Skyactiv เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเน้นความคุ้มค่าและประหยัดพลังงาน ไม่เพียงเท่านั้นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม เสริมความสะดวกสบายและความปลอดภัย บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกความคุ้มค่าและความน่าสนใจของ Mazda 2 Skyactiv รุ่นล่าสุดปี 2023-2024 กัน
Mazda 2 Skyactiv ที่เปิดตัวล่าสุดเป็นการปรับไมเนอร์รูปลักษณ์ดีไซน์ให้เป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์เรื่องรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและการประหยัดพลังงาน มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบบครบครัน พร้อมดีไซน์ที่หลากหลาย เพราะเขามีถึง 3 ดีไซน์ คือ New Wave Design โดดเด่นสะดุดตา Sport Design สุดเท่ และรุ่นตกแต่งพิเศษอย่าง Rookie Drive และ Clap Pop เรามาค่อย ๆ ทำความรู้จักแต่ละรุ่นไปพร้อม ๆ กันได้เลย
Mazda 2 Skyactiv ออกแบบและพัฒนาขึ้นจากแนวคิด Kodo : Soul of Motion คงคอนเซปต์แบบ “Less is More” น้อยแต่มาก คงความเรียบหรูแบบมินิมอล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เน้นใช้ดีไซน์เส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวออกมาอย่างลงตัว
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ TECHNOLOGY ON POINT เช่น เทคโนโลยีจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ประกอบด้วยเมนูต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และยังสามารถควบคุมผ่าน Center Commander มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ที่สำคัญเบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมกับเครื่องยนต์ที่เร็วแรงและประหยัดน้ำมัน
ความโดดเด่นของรถยนต์ Mazda 2 Skyactiv เลยก็คือตัวเครื่องยนต์ ที่ใช้ SKYACTIV TECHNOLOGY สมรรถนะกำลังแรง แต่ประหยัดน้ำมัน โดยแบ่งออกเป็นเครื่องยนต์ SKYACTIV-G 1300 cc สำหรับเชื้อเพลิงเบนซิน ประหยัดน้ำมันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราส่วนการอัดสูง 12.0:1 ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร และ SKYACTIV-D 1500 cc อัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร
Mazda 2 Skyactiv หากแบ่งตามดีไซน์แล้วจะแบ่งได้ 3 รุ่น คือ รุ่น New Wave Design รุ่น Sport Design และรุ่นตกแต่งดีไซน์พิเศษ
ดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่และเติมความสนุกได้ไม่ซ้ำด้วยแผงคอนโซลหน้าหลากสี ผลิตจากวัสดุ Bioplastic ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งดีไซน์แบบ New Wave Design จะรองรับรถยนต์รุ่น1.3 C, 1.3 S และ XD เท่านั้น ตัวถังสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู
ความแตกต่างของรุ่น Sport Design กับรุ่น New Wave Design จะอยู่ตรงที่รูปลักษณ์ภายนอกตัวรถ โดยรุ่นสปอร์ตภายนอกจะโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบเท่และหรูหรา หลังคาและกระจกมองข้างสีดำ เพิ่มความเท่ด้วยกรอบช่องแอร์สีแดง พร้อมเบาะและแผงคอนโซลหน้า Grand Luxe Suede ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมี่ยม โดย Mazda 2 Skyactiv Sport Design จะรองรับรถยนต์รุ่น 1.3 SP และ XDL เท่านั้น ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล
เป็นดีไซน์ที่ปรับโฉมรูปลักษณ์ภายนอกให้สวยทันสมัย และโดดเด่นมีเอกลักษณ์ โดยนำเอารถยนต์ Mazda 2 Skyactiv รุ่น 1.3 C ตัวถังแบบ Hatchback มาตกแต่งสีเพิ่ม
ข้อดีของ Mazda 2 Skyactiv ของเครื่องยนต์ที่สมรรถนะแรง ขับขี่ได้คล่องตัว ที่สำคัญคือประหยัดน้ำมัน นอกจากนั้นดีไซน์ก็ยังโดดเด่น มีความสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ส่วนข้อเสียก็คือเมื่อเปรียบเทียบเครื่องยนต์แล้วแบบดีเซลมีความยืดหยุ่นมากกว่ารุ่นเบนซิน ให้ความคล่องตัวดีกว่า และอีกอย่างหนึ่งก็คือเหมาะกับการนั่ง 1-2 คนเป็นหลัก ไม่เหมาะกับการเป็นรถครอบครัว
Mazda 2 Skyactiv ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ ใครที่กำลังมองหารถคู่ใจที่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครเหมาะมาก ๆ เขามีตัวเลือกหลากหลายให้ได้เลือก พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและปลอดภัย…ถูกใจและเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์คุณแล้ว เพื่อความอุ่นใจทุกการขับขี่ในทุกเส้นทาง อย่าลืมเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครอง อย่างประกันรถชั้น 1 จากอินชัวร์เวิร์สที่ให้ความคุ้มครองทั้งคุณ ผู้โดยสาร คู่กรณี ชนเล็ก เจ็บน้อย ให้ความคุ้มครองครอบคลุม
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ขับรถทุกวันก็ต้องมั่นใจทุกวัน โดยเฉพาะรถ SUV ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและออกทริปไกล ๆ Ford Everest Sport Special Edition 2025 ไม่ใช่แค่ดีไซน์ดุดัน แต่ยังอัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยระดับแถวหน้า
การเลือกซื้อรถยนต์สักคัน นอกจากดีไซน์จะต้องใช่ ขุมพลังต้องแรง เทคโนโลยีต้องล้ำแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ All-new BMW X3 เจเนอเรชันใหม่ ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ขับสนุก พรีเมียมขึ้น
Mazda CX-5 2025 กลับมาในโฉมใหม่ที่จัดเต็มทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะการขับขี่ ไม่ใช่แค่ปรับหน้าตาให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ทั้งไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED แบบใหม่ กระจังหน้าดีไซน์เฉียบ