เมื่อพูดถึงรถยนต์สุดหรูที่เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามและความประณีตจากประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในชื่อที่โดดเด่นคือ Toyota Century รถยนต์ระดับตำนานที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รถยนต์แห่งจักรพรรดิ” เพราะเป็นรถยนต์ที่จักรพรรดิญี่ปุ่นเลือกใช้มาตั้งแต่ปี 2006 Toyota Century มีการผลิตออกมาครั้งแรกในปี 1967 ซึ่งถือเป็นปีครบรอบศตวรรษของบิดาแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น นี่เองเป็นที่มาของชื่อ Century และรถรุ่นนี้ก็มีการผลิตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
1. การออกแบบที่เหนือระดับ
หากดูภายนอก เราอาจไม่รู้สึกว่า Toyota Century ต่างจากรถหรูทั่วไป แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้วก็จะพบว่ารถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้สื่อถึงความคลาสสิกและความสง่างามที่ไม่มีวันล้าสมัย ตัวถังของรถใช้รูปทรงที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่ประณีต สะท้อนถึงความสง่างามที่เหนือกาลเวลา ส่วนที่เป็นโลหะที่มีลวดลาย ผลิตจากงานทำมือทั้งสิ้น จึงเป็นทั้งรถสำหรับการใช้งานและเป็นงานฝีมือด้วยในเวลาเดียวกัน
2. วัสดุและงานฝีมือชั้นเลิศ
ภายในห้องโดยสารของ Toyota Century โดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแท้และไม้เนื้อดีที่ถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน พื้นที่โดยสารได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในแง่ของความกว้างขวางและการติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก ในสองซีรีส์แรกที่เป็นเบาะหุ้มผ้า ก็เป็นผ้าชนิดพิเศษของญี่ปุ่น ส่วนรุ่นล่าสุดคือ All-New SUV ก็มาพร้อมกับความสะดวกสบายเหนือระดับ ผสานเทคโนโลยีที่มีในรถหรูฝั่งยุโรปเข้ากับเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
3. สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง
Toyota Century มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 และ V12 ที่ให้กำลังขับเคลื่อนที่ราบรื่นและเงียบสงบ รุ่นใหม่ล่าสุดติดตั้งระบบไฮบริด V8 ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความประหยัดน้ำมัน แต่ยังคงความแรงที่นุ่มนวลเหมาะสำหรับการเดินทางอย่างสง่างาม
4. เอกลักษณ์แห่งความสงบ
Century ถูกออกแบบให้ผู้โดยสารสัมผัสถึงความเงียบภายในห้องโดยสาร เสียงเครื่องยนต์และเสียงรบกวนจากภายนอกถูกลดทอนจนแทบจะไม่มี ทำให้ผู้โดยสารสามารถพักผ่อนหรือทำงานได้อย่างเต็มที่
5. เป็นรถที่ผลิตจำนวนไม่มาก
Toyota Century ไม่ได้ผลิตจำนวนมากเหมือนรถยนต์ทั่วไป เช่นรุ่นล่าสุดคือ All-New SUV ผลิตเพียงเดือนละ 30 คันเท่านั้น ทุกคันได้รับการประกอบโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองรู้สึกถึงความพิเศษเหนือระดับ
Toyota Century ถือเป็นรถยนต์ระดับสูงที่มีราคาสูงตามมาตรฐานของรถหรู โดยซีรีส์ที่ 2 แบบซีดานซึ่งเริ่มผลิตในปี 1997 มีราคาเปิดตัวในตลาดญี่ปุ่นอยู่ที่ 12 ล้านเยน ส่วนราคาของ Century รุ่นล่าสุดคือ All-New SUV เริ่มต้นที่ประมาณ 20-25 ล้านเยน หรือประมาณ 6-7 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) ราคานี้สะท้อนถึงความพิเศษในด้านการออกแบบและงานประกอบที่ประณีต
แม้ Toyota Century จะเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในระดับบุคคลสำคัญที่ไม่ต้องการใช้รถหรูจากฝั่งยุโรปและอเมริกา แต่ในประเทศไทย รถรุ่นนี้ยังคงถือว่าเป็นของหายาก เหตุผลหลักคือ Toyota Century ไม่ได้มีการทำตลาดในไทย คือไม่ได้มีการสั่งเข้ามาจำหน่ายแบบรถหรูฝั่งยุโรปเช่น Mercedes-Benz หรือ BMW ซึ่งก็เป็นเพราะคนไทยมักจะนิยมรถหรูฝั่งยุโรปมากกว่ารถจากญี่ปุ่น เมื่อเป็นแบบนี้ ผู้ที่ต้องการรถสุดหรูจากญี่ปุ่นก็มีวิธีที่เป็นไปได้คือสั่งรถใหม่เข้ามาโดยตรงโดยจ่ายภาษีนำเข้า หรืออาจติดต่อกับผู้ที่ครอบครอง Century รุ่นเก่าและต้องการขาย อย่างไรก็ตาม การหารถซีรีส์นี้ในแบบมือสองถือว่าทำได้ยากมากเมื่อเทียบกับรถหรูยี่ห้ออื่น ๆ
เนื่องจาก Century เป็นรถที่ออกแบบมาให้ใช้งานในระดับพรีเมียม การดูแลรักษาจึงต้องอาศัยความพิถีพิถันเพื่อคงสภาพและคุณภาพของรถไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด ควรนำรถเข้าศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะศูนย์ที่มีประสบการณ์ในการดูแลรถหรูญี่ปุ่น เนื่องจากอะไหล่บางชิ้นของ Toyota Century อาจต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น และสำหรับการตรวจเช็กระบบภายใน เนื่องจาก Century รุ่นใหม่มีระบบไฮบริด การตรวจเช็กแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ การละเลยอาจทำให้เกิดปัญหาที่ซับซ้อนตามมาได้ ทำให้ค่าซ่อมสูงมาก นอกจากนี้ หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรจอดในจุดที่ควบคุมอุณหภูมิได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับส่วนต่าง ๆ ของรถ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารบางจุดที่เป็นงานไม้
ทุกคนคงเห็นแล้วว่า Toyota Century มีความหรูหรามากเพียงใดจนทำให้รถรุ่นนี้ผลิตมาได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และหากมีรถหรูแล้วก็ย่อมต้องมีประกันรถยนต์ไว้เพื่อคุ้มครองอย่างครอบคลุม อย่างการทำ ประกันรถยนต์ 1 ซึ่งให้ความคุ้มครองทั้งรถ คน คู่กรณี เพื่อให้ทั้งคุณและรถของคุณได้รับการดูแลเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ถ้าคุณกำลังมองหาประกันที่ใช่ในราคาที่เป็นมิตร แนะนำเลือกทำ ประกันรถยนต์ กับ insurverse ประกันในเครือทิพย พร้อมดูแลทั้งคุณและรถด้วยบริการเหนือระดับ เพื่อให้คุณใช้รถได้อย่างมั่นใจในทุกการเดินทาง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
Mazda CX-5 2025 กลับมาในโฉมใหม่ที่จัดเต็มทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะการขับขี่ ไม่ใช่แค่ปรับหน้าตาให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ทั้งไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED แบบใหม่ กระจังหน้าดีไซน์เฉียบ
ใครที่กำลังมองหากระบะ 4 ประตูที่แรงขึ้น ขับสนุก และยังประหยัดน้ำมันมากขึ้น Isuzu D MAX 4 ประตู รุ่นใหม่ล่าสุด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด
Motor Show 2568 กลับมาอีกครั้ง พร้อมความอลังการที่เหนือกว่าทุกปี นี่คืองานที่คนรักรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเวทีที่ค่ายรถชั้นนำระดับโลกขนเอารุ่นใหม่ล่าสุดมาเปิดตัวแบบจัดเต็ม ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า ไฮบริด และซูเปอร์คาร์สุดหรู