เอกสารแนบท้ายคำสั่งที่ 1/2566
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับตัวแทนและนายหน้าประกันวินาศภัย
————————————————–
บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัว และความรับผิดชอบของเราอันเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (“การประมวลผล” “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กำหนด
1. นโยบายฉบับนี้ใช้กับ
ตัวแทน และนายหน้าประกันวินาศภัย ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลซึ่งจำกัดเฉพาะกรณีที่ท่านดำเนินการแทนหรือเพื่อนิติบุคคล รวมถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัยของบริษัทฯ ได้แก่ ผู้ค้ำประกัน โดยครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัยของบริษัทฯ ตลอดจนสิ้นสุดการเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัย หรือตั้งแต่เข้าทำสัญญาจนถึงสิ้นสุดสัญญาที่มีกับบริษัทฯ แล้วแต่กรณี
2. บทนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 26 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายและกฎระเบียบอื่นที่มีผลใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงประกาศ กฎ ระเบียบ หรือกฎหมายลำดับรองที่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการตราขึ้น และตามที่มีการแก้ไขเป็นครั้งคราว
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
3. ข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับตัวท่านที่บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับตัวท่านที่บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมประกอบไปด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
3.1 กรณีตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัยที่เป็นบุคคลธรรมดา
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเกิด อายุ ศาสนา เลขประจำตัวผู้เสียภาษี วันที่ออกบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ ภาพถ่าย
(2) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ Line ID ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน เช่น วุฒิการศึกษาสูงสุด สถาบันศึกษา อาชีพปัจจุบัน
(4)ข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตประกอบธุรกิจตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัย ได้แก่ เลขที่ใบอนุญาตเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัย วันหมดอายุของใบอนุญาต
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการเสนอขายประกันภัย การประเมินผลการปฏิบัติงาน รางวัลที่เคยได้รับ ประวัติการถูกร้องเรียน บันทึกการสอบสวน การถูกพักสัญญาตัวแทน/นายหน้าประกันวินาศภัย และโทษทางวินัย รวมถึงการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยง
(6)ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ ค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ท่านได้รับ
(7)ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน ได้แก่ เลขบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีธนาคาร
(8)ข้อมูลตามที่ปรากฏในเอกสารประกอบการสมัครเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัย เช่น ภาพถ่าย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัย สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร
(9)ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้งานระบบ หรือเว็บไซต์ของบริษัทฯ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน สถานะใบสมัคร
(10)ประวัติเกี่ยวกับการล้มละลาย การฟอกเงิน หรือการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย
3.2 กรณีที่ท่านดำเนินการแทนหรือเพื่อนิติบุคคลของท่าน
กรณีที่คู่สัญญาของบริษัทฯ เป็นนิติบุคคล ได้แก่ นายหน้านิติบุคคล บริษัทฯ จะประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็นพนักงาน ผู้รับจ้าง หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลของท่าน
(1)ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ และข้อมูลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารส่วนบุคคลของท่าน
(2)ข้อมูลของท่านที่ปรากฏในหนังสือรับรองบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น จดหมายแนะนำตัว สำเนาใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย เอกสารแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท หนังสือบริคณห์สนธิ ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำเนาบัญชีธนาคาร หรือเอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลอื่นใดที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(3)ประวัติเกี่ยวกับการล้มละลาย การฟอกเงิน หรือการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย
(4)ข้อมูลอื่นใดที่บริษัทฯ ร้องขอจากนิติบุคคลของท่าน หรือจากท่านเพื่อใช้ในการประกอบการเข้าทำสัญญา หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ และนิติบุคคลของท่าน
ทั้งนี้ หากท่านดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอขาย หรือกระทำการเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศด้วย บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามรายละเอียดในข้อ 3.1กรณีที่ท่านดำเนินการในนามของตนเองด้วย
3.3 กรณีผู้ค้ำประกัน
(1)ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ สัญชาติ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขบัตรประจำตัวข้าราชการ อาชีพ ลายมือชื่อ
(2)ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่
(3)ข้อมูลที่ปรากฏตามเอกสารประกอบการเข้าทำสัญญาค้ำประกัน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หนังสือรับรองการทำงานจากหน่วยงานต้นสังกัด
ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นตามที่ระบุไว้ในแต่ละกรณีเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับการเข้าทำสัญญา และดำเนินการตามสัญญากับบริษัทฯ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการพิจารณาเพื่อเข้าทำสัญญากับท่านได้ และในกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมาย หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ หรือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดได้
ในการดำเนินการเก็บรวบรวมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน บริษัทฯ ไม่มีเจตนาใด ๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฏบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เช่น ศาสนา และ/หรือหมู่โลหิต (หากมี) ดังนั้นก่อนที่ท่านดำเนินการส่ง หรือเปิดเผยสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านแก่บริษัทฯ ขอให้ท่านดำเนินการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าวก่อนการส่งมอบ หรือเปิดเผย ทั้งนี้ หากเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวถูกส่งมายังบริษัทฯ โดยไม่ปรากฏว่ามีการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าบริษัทฯ ไม่มีเจตนาทุจริต หรือกระทำความผิดทางอาญาใด บริษัทฯ เพียงต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามที่กำหนดใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทฯ เช่น ข้อมูลของผู้ค้ำประกัน ท่านจะต้องดำเนินการใด ๆ เพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ และดำเนินการใด ๆจำเป็น เช่น การขอความยินยอม (หากจำเป็น) เพื่อให้การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากท่าน และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
4. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
โดยทั่วไปบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยตรงจากท่านเมื่อสมัครเป็นตัวแทน หรือนายหน้าประกันวินาศภัยของบริษัทฯ เว้นแต่บางกรณีที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งข้อมูลอื่น เช่น แหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า เป็นต้น
5. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
กิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
กรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
กรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
กรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
กรณีที่จำเป็นเพื่อการก่อตั้งและดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม โต้แย้ง คัดค้าน หรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ
ความยินยอม
เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฏในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน
หมายเหตุ:ตามที่แจ้งข้างต้น บริษัทฯ ไม่ได้มีความมุ่งหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวใด ๆ ของท่าน รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฏบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แต่หากบริษัทฯ มีความจำเป็นซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านได้ บริษัทฯจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด
(2) กรณีที่ท่านดำเนินการแทนหรือเพื่อนิติบุคคลของท่าน
บริษัทฯ อาจจำต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม โต้แย้ง คัดค้าน หรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ
หมายเหตุ:ตามที่แจ้งข้างต้น บริษัทฯ ไม่ได้มีความมุ่งหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวใด ๆ ของท่าน รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฏบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แต่หากบริษัทฯ มีความจำเป็นซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านได้ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด
6. บุคคลหรือองค์กร ซึ่งบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้
บริษัทฯ อาจเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลดังต่อไปนี้
(1)ที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญภายนอกของบริษัทฯ เช่น ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ที่ปรึกษาทางบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่ปรึกษาด้านอื่น ๆ
(2)ผู้ให้บริการบุคคลภายนอก (รวมไปถึงผู้ให้บริการช่วง) ของบริษัทฯ เช่น บริการเกี่ยวกับการประกันภัย เช่น การออกกรมธรรม์ประกันภัย บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการจัดหาผู้รับจ้างปฏิบัติงาน บริการจัดเก็บสิ่งของหรือคลังเอกสาร และการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการตลาด บริการทำการวิจัย หรือบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
(3)องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ได้แก่ สมาคมประกันวินาศภัยไทย
(4)หน่วยงานของรัฐ และองค์กรยุติธรรม เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมบังคับคดี ศาล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(5)ผู้เข้าทำธุรกรรม หรือจะเข้าทำธุรกรรมกับบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายของกิจการของบริษัทฯ (หากมี)
(6)บุคคลอื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทฯ
7. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
โดยทั่วไปบริษัทฯ จะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด
8. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัทฯ เว้นแต่บริษัทฯ มีสิทธิ หรือหน้าที่ตามกฎหมายที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดข้างต้น
ทั้งนี้ ระหว่างที่บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล:ท่านมีสิทธิในการตรวจสอบว่าบริษัทฯ มีข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เกี่ยวกับท่านหรือไม่ ตลอดจนมีสิทธิในการเข้าถึง หรือขอรับสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอทราบแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น
(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล:ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านให้ถูกต้อง
(3)สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล:ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ทั้งนี้ วิธีการดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือการทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้นั้นจะเป็นไปตามวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย
(4)สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล:ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่ได้อ้างอิงความยินยอม หรือเป็นการทำการตลาดทางตรง
(5)สิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล:ท่านมีสิทธิระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างที่บริษัทฯ พิจารณาการดำเนินการตามสิทธิให้แก่ท่าน หรือเมื่อท่านต้องการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
(6)สิทธิในการโอนข้อมูลส่วนบุคคล:ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในรูปแบบที่อ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยอุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น และขอรับข้อมูลดังกล่าวได้ (ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในรูปแบบดังกล่าว)
(7)สิทธิในการร้องเรียน:ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ ทั้งนี้ ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร และตามที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีที่กฎหมายอนุญาต บริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอตามสมควร ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนดำเนินการ ใด ๆ ที่อาจทำให้มีค่าใช้จ่าย
10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ เท่าที่กฎหมายอนุญาต หากเป็นการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการแก้ไข การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ท่านทราบ และหากจำเป็นตามกฎหมาย บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเป็นการเพิ่มเติม
11. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใด ๆ ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อบริษัทฯ ที่
รายละเอียดของบริษัทฯ
ชื่อ:บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่:1115 อาคาร บมจ.ทิพยประกันภัย สำนักงานใหญ่ ชั้น 24 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
ช่องทางการติดต่อ:02-118-4750
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)
ช่องทางการติดต่อ:[email protected]