vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
เคลียร์ชัดทุกข้อมูลเที่ยว Visa Free กับ on Arrival แตกต่างกันอย่างไร?

เคลียร์ชัดทุกข้อมูลเที่ยว Visa Free กับ on Arrival แตกต่างกันอย่างไร?

schedule
share

อยากจัดทริปเที่ยวเมืองนอกต้องเตรียมตัววางแผนและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Visa เที่ยวว่ามีแบบไหนบ้าง เพื่อการให้ทริปเที่ยวนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด เพียงแค่รู้จักการเที่ยวเมืองนอกด้วยวีซ่าแบบ 2 รูปแบบนี้ ก็วางแผนเที่ยวได้สำเร็จไปเกินครึ่งทางแล้ว มาทำความรู้จักวีซ่าทั้ง 2 รูปแบบนี้กันเลยว่าเป็นอย่างไร

เคลียร์ชัดทุกข้อมูลเที่ยว Visa Free กับ on Arrival แตกต่างกันอย่างไร?

Visa Free คืออะไร

Visa Free คือการเที่ยวต่างประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า นักท่องเที่ยวจากไทยสามารถถือหนังสือเดินทาง (Passport) เข้าไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางได้เลย ซึ่งมีระยะเวลากำหนดให้เที่ยวได้ไม่เกิน 30 วันเท่านั้น

ประเทศที่ Visa Free มีอะไรบ้าง

สำหรับประเทศที่มี Visa Free หรือจัดทริปเที่ยวเมืองนอกได้เลย โดยไม่ต้องขอวีซ่านั้น มีหลายประเทศด้วยกัน เช่น กัมพูชา, เมียนมา, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อาร์เจนตินา, ฟิลิปปินส์, มัลดีฟหรือแอฟริกาใต้ เป็นต้น

Visa on Arrival คืออะไร

Visa on Arrival (VOA) คือประเภทวีซ่าที่ต้องทำการขออนุญาตก่อนเข้าประเทศปลายทาง เพื่อให้การจัดทริปเที่ยวเมืองนอกที่มีรูปแบบวีซ่าเป็นแบบ VOA นักท่องเที่ยวจะต้องยื่นขอ Visa ประเภทนี้ที่สนามบินประเทศที่ไปเที่ยวได้เลย ใช้เวลาเพียง 20-25 นาทีเท่านั้น แต่ก่อนจะออกเดินทางมาแนะนำให้เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการยื่นเรื่องและเตรียมค่าธรรมเนียมให้พร้อม

ทั้งนี้ Visa on Arrival จะมีอายุให้เที่ยวในประเทศนั้นๆ ได้ไม่เกิน 15 วันเท่านั้นและการจะเข้าประเทศผ่านหรือไม่ผ่านนั้น อาจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางร่วมด้วย จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมและแจ้งจุดประสงค์ในการเดินทางให้ชัดเจน

ประเทศที่ขอ Visa on Arrival ได้มีอะไรบ้าง

สำหรับประเทศปลายทางที่สามารถขอ Visa on Arrival ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้น มีอยู่หลายประเทศด้วยกัน เช่น โบลีเวีย, ฟิจิ, เนปาล, โอมาย, ติมอร์-เลสเต, หมู่เกาะโซโลมอนหรือคีร์กีซสถาน เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเทศก็อาจมีระยะเวลาในการเที่ยวหรือพำนัก ตลอดจนค่าธรรมเนียมในการทำ Visa on Arrival ที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลที่อัปเดตใหม่ก่อนเดินทางไปเที่ยวด้วยทุกครั้ง

เคลียร์ชัดทุกข้อมูลเที่ยว Visa Free กับ on Arrival แตกต่างกันอย่างไร?

สรุป

เมื่อได้รู้จักกับ Visa แต่ละแบบแล้ว ก็จะเข้าใจได้อย่างไม่ยากเย็นว่า แบบ Free กับแบบ on Arrival มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน สำหรับใครที่มีแผนออกทริปเที่ยวเมืองนอกว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ 2566 ที่ไหนดีนั้น ก็สามารถนำข้อมูลวีซ่าไปประกอบแผนการเดินทางได้เลย ว่าประเทศที่ต้องการไปเที่ยวนั้นมีรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศแบบไหนและเพื่อให้การเที่ยวต่างประเทศมีแต่ความสบายใจ ขอแนะนำให้ทำประกันการเดินทางต่างประเทศติดตัวไปด้วย รับรองว่าทริปเที่ยวเมืองนอกของคุณจะอุ่นใจกว่าที่เคยแน่นอน สำหรับใครที่สนใจที่ประกันวีซ่าหรือประกันการเดินทางต่างประเทศ คลิกดูประกันที่ดีที่สุด จาก insurverse ที่นี่ได้เลยพร้อมเปรียบเทียบราคาที่สนใจได้เลย รับรองได้ว่าไร้กังวลทุกทริป เจ็บไข้ได้ป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาก็ไม่ต้องควักเงินก้อนอีกต่อไป

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)