เมื่อ รถ เกิด อุบัติเหตุ ต้องทำอย่างไร พ.ร.บ. รถที่ต่อเอาไว้คุ้มครองอะไรบ้าง กรณีต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลต้องสำรองจ่ายก่อนหรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้
พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นประกันภาคบังคับที่มีไว้เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุรถยนต์เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไปจนถึงค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต ในบทความนี้จะพามาเจาะลึกว่าหากเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นต้องทำอย่างไร รวมถึงการการเบิกค่าสินไหมโดยไม่ต้องสำรองจ่าย
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่การเกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อ รถ เกิด อุบัติเหตุ สิ่งที่เจ้าของรถควรทำมีดังนี้
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท แต่หากอุบัติเหตุนั้นทำให้สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพอย่างถาวร สามารถเบิกได้ 35,000 บาท นอกจากนี้หากหลังจากรักษาพยาบาลแล้วเสียชีวิตสามารถเบิกค่าสินไหมได้ 65,000 บาท
การเบิกค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไข พ.ร.บ. ในกรณีที่บาดเจ็บเล็กน้อย ผู้ประสบภัยจะต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเองก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จรับเงินและใบรับรองแพทย์ยื่นให้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ หรือบริษัทกลางผู้ประสบภัยจากรถสาขาที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับค่ารักษาพยาบาลคืน
การเบิกค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่ายจะทำได้ในกรณีที่รักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน โดยญาติหรือผู้ประสบภัยสามารถมอบอำนาจให้โรงพยาบาลที่รักษาเป็นผู้ดำเนินการรับค่ารักษาพยาบาลจาก พ.ร.บ. รถแทน สำหรับวิธีการมอบอำนาจให้โรงพยาบาลเป็นผู้ดำเนินการแทน ผู้ประสบภัยจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในการเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจากอุบัติเหตุที่เกิดกับรถจาก พ.ร.บ. โดยไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลที่รักษาตัว
เมื่อเห็นประโยชน์ของ พ.ร.บ.รถ คุ้มครองอะไรบ้าง และการเบิก พ.ร.บ. รถยนต์แบบไม่ต้องสำรองจ่ายแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ สามารถเช็กค่าเบี้ยประกันและค่าต่อ พ.ร.บ. ในราคาที่คุ้มค่ากว่าได้ที่เว็บไซต์ของ Insurverse
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
พ.ร.บ. ประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองผู้เสียหายจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยอื่น ๆ
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ของคนมีรถยนต์ทุกคน โดยเราต้องต่อภาษีประจำปีและเตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งรถแต่ละประเภท ก็จะเสียภาษีในราคาที่ต่างกันไปตามข้อกำหนด
สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่าได้กับรถยนต์ทั่วไป เหนือระดับด้วยความเป็น รถไฟฟ้า ev ประหยัดพลังงาน