หากมีข้อจำกัดในด้านงบประมาณ ยังไม่พร้อมสำหรับการทำประกันภัยชั้น 1 ลองดู ประกันรถยนต์ ชั้น2 ราคาดีๆ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น3 ก่อนก็ได้ อาจจะคุ้มครองไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็ถือว่าดูแลได้อย่างดีที่สุดในส่วนที่สำคัญและจำเป็น ผู้ขับขี่สามารถใช้รถบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาก็ยังมีประกันที่จะเข้ามาเยียวยา แบ่งเบาภาระให้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ค่าชดเชยสินไหม และอื่นๆ อีกมากมาย แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันหลักพันหรือหลักหมื่นในวันนี้ แต่หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคตเมื่อต้องอยู่หลังพวงมาลัย ก็ถือว่าคุ้มค่า เป็นการลงทุนกับชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่มีสูญเปล่าแน่นอน
สำหรับผู้ที่กำลังลังเล ตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนให้เหมาะกับตัวเองดี ประกันรถยนต์ ชั้น2 ราคาเท่าไหร่ เปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ ชั้น 3 แล้วมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จะครอบคลุมในส่วนที่ต้องการหรือไม่ ลองมาดูกัน
ราคาประหยัด เฉลี่ยราวๆ 2,500-7,000 บาท เข้าถึงง่ายแต่ยังคงให้ความคุ้มครองสูงอยู่ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เป็นประจำ ขับขี่มามากกว่า 5 ปี ให้ความคุ้มครองในกรณีที่
หากใครที่ไม่ค่อยได้ใช้รถบ่อยนัก ไม่ต้องเดินทางไกล หรือต้องการประหยัดงบ เลือกซื้อประกันชั้น 3 ได้ ราคาเริ่มต้น 1,500-3,500 บาทพร้อมให้ความคุ้มครองในส่วนที่จำเป็น ดังนี้
ไม่ว่าจะมีวิถีชีวิตในการใช้รถ ใช้ถนนแบบใด ก็เลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ จะประกันชั้น 2 หรือ ประกันชั้น 3 ก็สร้างความอุ่นใจในตอนที่ขับขี่ได้ทุกครั้ง เหมือนมีบอดี้การ์ดส่วนตัวคุ้มครองไปตลอดการเดินทาง เป็นตัวกลางรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดกับคู่กรณีให้ ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้นมีประกันคุ้มครองให้จะในสถานการณ์ไหน ก็ไม่ต้องแบกรับอยู่คนเดียว
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง