เชื่อว่าผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนเลือกที่จะทำประกันรถยนต์ เพราะเหมือนเป็นตัวช่วยที่ติดตัวเราไว้อยู่ตลอดการขับขี่นั่นเอง และเชื่อว่าหลายคนมีข้อสงสัยว่าการซื้อประกันรถยนต์จะสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ เช่นเดียวกับประกันสังคม หรือประกันสุขภาพ ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบไปด้วยกัน
เป็นรายการที่กฎหมายกำหนดไว้ให้สามารถนำไปหักออกจากเงินได้ โดยหลังจากที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว จะทำให้เราเสียภาษีน้อยลง ซึ่งปกติแล้วสิทธิพื้นฐานที่คนเสียภาษีทุกคนจะได้รับ ก็คือค่าลดหย่อนส่วนตัวคนละ 60,000 บาท โดยจะมีการคำนวณจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือดอกเบี้ยที่จ่ายเพื่อซื้อบ้าน ซื้อคอนโด สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
ต้องเป็นโครงการของรัฐ ได้แก่ โครงการ “ช้อปดีมีคืน” สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตามช่วงเวลาที่โครงการกำหนดไว้ สินค้าที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษี ได้แก่ สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), สินค้า OTOP และ สินค้าหมวดหนังสือและ E-Book
โดยปกติแล้วทุกคนที่มีเงินเดือนประจำตั้งแต่ 120,000 บาท/ปี หรือมีรายได้ประเภทอื่น ๆ ตั้งแต่ 60,000 บาท/ปีจะต้องเสียภาษี ซึ่งการลดหย่อนภาษีก็จะช่วยให้จ่ายภาษีได้น้อยลง ประหยัดเงินได้มากขึ้น และยังสามารถเก็บเงินในแต่ละปีมากขึ้น
ประกันรถยนต์มีความสำคัญที่เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนควรที่จะซื้อประกันภัยสำหรับรถยนต์ไว้ แต่ประกันรถยนต์ไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ เพราะรถยนต์ไม่ได้อยู่ในปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิต ภาครัฐจึงไม่ได้มีการส่งเสริมการลดหย่อนภาษีสำหรับการทำประกันรถยนต์นั่นเอง
ต่อให้ประกันรถยนต์จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่เป็นสิ่งที่เจ้าของรถควรจะทำให้กับรถยนต์ทุกคัน เพราะเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมที่ดี การทำประกันรถยนต์ไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรถยนต์เท่านั้น แต่หากทำประกันชั้น 1 หรือประชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณอีกด้วย
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่าตัวเลขถังรถกันมาบ้าง แต่หลายคนที่ใช้รถยนต์อาจยังไม่รู้ความหมายว่าคืออะไร? แล้วเลขตัวถังรถอยู่ตรงไหน? ไปดู
คนที่ใช้รถยนต์ทุกคนคงเคยประสบปัญหาคราบติดรถรวมทั้งคราบสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยไว้นานๆ ไม่รีบดูแล คราบเหล่านั้นก็จะทำลายสีรถยนต์จนกลายเป็นปัญหา
หนึ่งในเรื่องที่คนใช้รถเคยสงสัยกันก็คือ ทางเอก ทางโท ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่าอะไรคือทางเอกและอะไรคือทางโท แล้วจะสังเกตยังไง