ด่านแรกของการซื้อประกันชั้น2+ หรือประกันชั้นไหน ๆ ก็ตาม ผู้เอาประกันทุกคนจะต้องเข้าใจความหมายของ “เบี้ยประกัน” รวมถึง “ทุน ประกัน” ให้ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะความจริงแล้วทั้ง 2 คำมีความหมายแตกต่างกัน ดังนั้นหากไม่อยากเสียรู้บริษัทประกันควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ไม่ว่าจะซื้อออนไลน์หรือจากตัวแทน ส่วนทั้งสองคำจะมีความหมายและหน้าที่ต่างกันอย่างไร วันนี้ Inserverse จะพาทุกคนไปทำความรู้จักมากขึ้น
เริ่มต้นกันด้วยคำว่า เบี้ยประกัน หมายถึง เงินที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้แก่บริษัทประกันรถยนต์ เพื่อแลกกับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่ตกลงว่าจะทำสัญญาร่วมกัน โดยสามารถจ่ายเป็นรายปี รายเดือน หรือรายวันได้ ส่วน ทุน ประกัน หมายถึง เงินจำนวนสูงสุดที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากการทำประกันจากบริษัทประกันภัย กรณีที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ตรงตามเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์รถยนต์ ซึ่งจะมาในรูปแบบของเงินชดเชย การจัดการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย เป็นต้น โดยไม่เกินทุนประกันที่ระบุเอาไว้เช่นกัน จะมีความเหมือนและความแตกต่างกันดังนี้
ก่อนตัดสินใจทำประกันชั้น2+ หรือประกันชั้นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ทุกการขับขี่ ด้วยการทำประกันรถยนต์ออนไลน์หรือแบบผ่านตัวแทน ยังมีสิ่งที่ผู้เอาประกันจะต้องรู้อีกหลายอย่างคือ
การแบ่งประเภทเบี้ยประกันรถยนต์สามารถแบ่งได้ตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้
การแบ่งประเภททุนประกันรถยนต์สามารถแบ่งได้ตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันชั้น2+ หรือชั้นไหน ๆ เมื่อรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเบี้ยประกัน รวมถึงคำว่า “ทุน ประกัน” จะช่วยให้สามารถตัดสินใจซื้อประกันได้ง่ายขึ้น แถมได้เลือกประกันรถยนต์ชั้น2+ ถูกใจ ตรงกับสไตล์การใช้รถ ในราคาเบา ๆ ง่ายขึ้น ทั้งนี้สำหรับ Inserverse เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาประกันรู้ใจในแบบที่ DIY ได้เอง และมีราคาคุ้มค่า
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง