ในปัจจุบันเชื่อว่าการทำธุรกรรมทางออนไลน์ เป็นทางเลือกที่นิยมกันมาก ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหาร บริการรถโดยสาร หรือการทำธุรกรรมทางธนาคาร เพราะทั้งง่าย และสะดวกสบาย แม้แต่การจ่ายภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน แต่ก่อนที่จะจ่ายภาษีรถยนต์ จะต้องดูเงื่อนไขให้ดีก่อน ว่ารถแบบไหนบ้างที่จะสามารถจ่ายภาษีผ่านทางออนไลน์ได้
เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก eservice.dlt.go.th หรือ ผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ซึ่งจะจ่ายภาษีได้เฉพาะรถมีอายุไม่เกิน 7 ปี โดยจะนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก แต่หากกรณีรถยนต์อายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องได้รับการตรวจสภาพรถที่ ตรอ. หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชนก่อน
และสามารถทำผ่านแอปพลิเคชัน mPay และ TrueMoney Wallet ได้ โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นรถที่ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี รถไม่มีการถูกอายัดทะเบียน เป็นรถที่ไม่ใช้ก๊าซ และไม่ใช่รถที่ดัดแปลงหรือแต่งให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้
ก่อนที่จะดำเนินการ ก็จะต้องเตรียมเอกสารที่ใช้ให้ครบถ้วน โดยเอกสารทั้งหมดจะส่งเป็นไฟล์รูป ดังนี้
แน่นอนการจ่ายภาษีทางออนไลน์มีความสะดวก และง่ายกว่าการเดินทางออกไปดำเนินการด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องรู้ก่อนว่าประเภทของรถที่จะสามารถจ่ายภาษีผ่านทางออนไลน์มีแบบไหนบ้าง ซึ่งรถที่สามารถจ่ายภาษีผ่านทางออนไลน์ได้ มีดังนี้
การทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้น การมีบริการทางในช่องทางออนไลน์จึงเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่เพียงการต่อภาษีรถยนต์เท่านั้น แต่รวมถึง การต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ และการทำประกันภัยสำหรับรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ด้วย
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
หลายๆ คนที่ขับรถน่าจะรู้กันอยู่แล้วล่ะ ก่อนต่อภาษีรถยนต์ต้องต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ซะก่อน แต่ตรงขั้นตอนชำระภาษีใน dlt vehicle tax เนี่ยสิทำยังไง
ในยุคที่โลกดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว รวมถึงการต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ที่ง่าย
ทุกคนนน!! วันนี้มีเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับเจ้าของรถทุกคนมาบอกต่อ! ซึ่งก็คือ เรื่องของการต่อประกันภัยภาคบังคับหรือที่เรียกติดปากว่าการต่อพ.ร.บ.