vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
สัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนรถแบตหมด พร้อมสาเหตุและวิธีป้องกัน

สัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนรถแบตหมด สาเหตุและวิธีป้องกัน

schedule
share
สัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อน รถแบตหมด สาเหตุและวิธีป้องกัน

หลายคนขับรถคล่องแคล่ว จะขึ้นเหนือล่องใต้ไปไหนต่อไหนด้วยความชำนาญ แต่ยังไม่เคยสัมผ้สอาการรถแบตหมด สตาร์ทไม่ติด เราแนะนำว่าอย่างน้อยก็ควรรู้จักสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทราบว่าเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด พร้อมดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหารถดับกลางทาง

สัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าแบตรถใกล้หมด

1. เริ่มมีอาการสตาร์ทติดยาก

รถสตาร์ทติดยาก ต้องสตาร์ทหลายครั้งโดยเฉพาะช่วงเช้าหรือจอดทิ้งไว้นานหลายวัน ลองพ่วงชาร์จแล้วสตาร์ทดูก่อน ถ้าเครื่องติดแล้ว ลองขับใช้งานสักพัก ดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้ข้ามคืนค่อยกลับมาสตาร์ทอีกครั้ง หากยังสตาร์ทไม่ติด สรุปได้ชัดเจนว่าแบตเตอรี่เก็บประจุไฟไว้ไม่ได้ เริ่มเสื่อมสภาพแน่นอน

2. ระบบไฟในรถเริ่มสว่างน้อยลง

ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างในห้องโดยสารไฟบนแผงหน้าปัดกระจกไฟฟ้าเริ่มทำงานช้าลง ไปจนถึงไฟหน้าและไฟท้ายไม่สว่าง หรือมีอาการติด ๆ ดับ ๆ เกิดจากประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่น้อยเกินควร ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จะสังเกตได้ชัดถ้าขับกลางคืน

3. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ

เช่น หน้าต่าง วิทยุ ไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเคย

4. กดแตรไม่ดัง

ลองกดแตรรถยนต์ ถ้าเสียงเบาผิดปกติ เสียงไม่ดังหรือดังไม่ต่อเนื่อง แสดงอาการว่ากำลังไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์ไม่เพียงพอ รถแบตหมด เวลากดแตรจึงไม่ดัง

5. ระบบแอร์ไม่ทำงาน

รถแอร์ไม่เย็นมีแต่ลม แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หรือมีเสียงแปลกๆ จากช่องแอร์หรือหน้าเครื่องยนต์ หรือมีเสียงแปลกๆ จากช่องแอร์หรือหน้าเครื่องยนต์ หากปล่อยไว้นานจนอาการหนักขึ้น อาจจะชำรุดหนักกว่าเดิม หรือส่งผลต่อความปลอดภัยระหว่างขับรถ

สาเหตุของรถแบตหมด เกิดจากอะไร

โดยปกติแบตเตอรี่​รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ​ 3-5 ปี​ มีหลายสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพไว​ ดังนี้

  • ลืมปิดระบบไฟต่าง ๆ เช่น เปิดไฟในห้องโดยสารหรือไฟหน้ารถทิ้งไว้ ปิดประตูไม่สนิททำให้ไฟเตือนติดสว่างค้างไว้ ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าเดิม รวมถึงไฟหน้าที่ถูกออกแบบให้เปิดทิ้งไว้ชั่วครู่ แต่เพราะทำงานผิดพลาดจึงไม่ดับเองโดยอัตโนมัติ
  • สตาร์ทรถจอดทิ้งไว้นาน ไม่ได้ช่วยชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ป้องกันอาการแบตเตอรี่เสื่อมไม่ได้เลย กลับเป็นการดึงไฟออกไปจำนวน ส่งผลให้แบตรถยนต์ทำงานหนักเกินความจำเป็น
  • แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เก็บรักษาประจุไฟฟ้าไม่ได้ตามปกติ ระบบไฟภายในเสื่อมสภาพ หรือเกิดการรั่วไหล ก็อาจทำให้แบตเตอรี่หมดได้ แม้แต่วิทยุรถยนต์ก็มีผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วเช่นกัน
  • ขั้วแบตเตอรี่หลวม เป็นสนิม หรือมีคราบสิ่งสกปรกติดอยู่ ซึ่งขัดขวางการทำงานของแบตเตอรี่ ขัดขวางระบบชาร์จไม่ให้ทำงานขณะที่รถวิ่ง รวมเกิดถึงปัญหาอื่นๆ ในภายหลัง
  • อุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นเกินไป ส่งผลให้แบตเตอรี่เก่าเสื่อมไว ทำให้ปัญหาต่างๆ แย่ลงกว่าเดิม

วิธีป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

  • รู้จักสัญญาณเตือนที่บอกว่าแบตเตอรี่ใกล้เสื่อมสภาพ เช็คว่าสภาพแบตเตอรี่ยังดีอยู่ ไม่มีอาการบิดเบี้ยวหรืออาการบวมออกมา
  • ทำความสะอาดสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้มีคราบสกปรกบริเวณขั้วแบตเตอรี่
  • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่และทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เสมอ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หาสาเหตุของปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ไม่เปิดไฟรถทิ้งไว้ เลือกใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะกับรถ ไม่ปล่อยให้ขั้วแบตเตอรี่หลวมหรือเป็นสนิม

หากสังเกตเห็นสัญญาณเตือนรถสตาร์ทติดยากและแบตเตอรี่หมดไว ควรรีบเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันปัญหารถสตาร์ทติดยากหรือรถแบตหมดกลางทาง…นอกจากคนมีรถต้องใส่ใจดูแลรถยนต์และรู้ทันสัญญาณเตือนแบตหมดแล้ว การเลือกประกันภัยถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้นอื่น ๆ จาก insurverse บริษัทประกันออนไลน์ เป็นประกันในเครือทิพย วันนี้สะดวกสบายด้วยบริการซื้อผ่านระบบออนไลน์พร้อมทั้งได้รับความคุ้มครองทันที เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ที่นี่!

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)