ในปัจจุบันนี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่สร้างศิลปะด้วยการแต่งรถให้ดูสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะ อีกทั้งการแต่งรถเพื่อเพิ่มสมรรถนะและความแรงของรถอีกด้วย จึงทำให้หลายคนสงสัยว่าหากมีการแต่งรถประกันรถยนต์จะยังให้ความคุ้มครองอยู่หรือไม่ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยประกันรถซิ่งให้ทราบโดยทั่วกัน
ถือเป็นข้อถกเถียงและสงสัยกันเป็นจำนวนมากกว่าแต่งรถแบบไหนที่ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครอง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ การเสริมเติมแต่งรถยนต์แบบนี้ประกันไม่คุ้มครองแน่นอน โดยประกอบไปด้วย
หากรถของคุณมีการดัดแปลงหรือแต่งรถที่มีสภาพผิดกฎหมายโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากประกันไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ยกตัวอย่างการดัดแปลงรถที่ผิดกฎหมาย เช่น การยกสูงหรือโหลดเตี้ย หรือไม่ว่าจะเป็นการใส่ท่อไอเสียที่มีเสียงดังเกินกฎหมายกำหนด เป็นต้น โดยจะถือว่าประกันรถยนต์ ถูกยกเลิก ไปโดยปริยาย
หากคุณได้มีการเสริมเติมแต่งหรือเปลี่ยนสมรรถนะของรถโดยไม่ได้รับการอนุญาตประกันจะไม่คุ้มครองทุกกรณีหากเกิดอุบัติเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงขนาดเครื่องยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเร็วด้วยการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษอย่างเทอร์โบ เป็นต้น
ในลักษณะนี้จะคล้ายกับการดัดแปลงหรือแต่งรถที่มีสภาพผิดกฎหมาย แต่เป็นการแต่งรถใช้งานแบบผิดประเภท เช่น การใส่ล้อรถขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากตัวถังรถเกิน 1 เซนติเมตร หรือการดัดแปลงรถกระบะให้กลายเป็นรถพ่วงบรรทุกของเกินขนาด เป็นต้น
ในลักษณะนี้หากรถของคุณมีการแต่งด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานและมีใบรับรอง ประกันจะไม่มีการคุ้มครองในส่วนของอุปกรณ์การแต่งรถนั้น เช่น สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มาตรฐานของรถ โดยถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วสปอยเลอร์ได้รับความเสียหาย ประกันจะไม่คุ้มครองอุปกรณ์ชิ้นนี้นั่นเอง
การแต่งรถไม่ใช่ว่าประกันจะปฏิเสธความคุ้มครองเสมอไป แต่ถ้าคุณแต่งรถอยู่ในขอบเขตที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ จะไม่มีปัญหาด้านการคุ้มครองแน่นอน ซึ่งประกอบไปด้วย การแต่งรถในลักษณะนี้
แต่งรถแบบนี้อุ่นใจชัวร์ เพราะประกันยังคุ้มครองอยู่ เช่น การเปลี่ยนล้อแม็ก การติดฟิล์มกรองแสงทุกความเข้ม การติดตั้งสปอยเลอร์ที่ได้ตามมาตรฐานของรถ และการติดตั้งสติกเกอร์กับตัวรถ หรือการเปลี่ยนเบาะรถยนต์ เป็นต้น
การแต่งรถที่มีผลต่อประกันนี้หมายความว่า ประกันยังคุ้มครองอยู่ถ้าคุณมีการขอแจ้งความคุ้มครองเพิ่มเติมหลังจากได้แต่งรถมาแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ได้แจ้งความคุ้มครองเพิ่มเติม หากเกิดอุบัติเหตุประกันจะไม่รับผิดชอบอะไหล่หรืออุปกรณ์ที่คุณได้แต่งรถมา ซึ่งตัวอย่างการแต่งรถที่ต้องแจ้งความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น การเปลี่ยนสีของตัวรถโดยจะต้องมีการแจ้งกรมขนส่งทางบกก่อนแล้วจึงแจ้งกับประกันเพื่อขอความคุ้มครองเพิ่มเติม เป็นต้น
สำหรับใครที่ชอบแต่งรถการทำประกันชั้น 1 ถือว่าครอบคลุมมากที่สุดเมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ แต่ละชั้น เนื่องจากให้ความคุ้มครองทั้งการเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ดังนั้นจึงเป็นประกันที่ผู้ใช้อุ่นใจได้เลยว่าชุดแต่งอุปกรณ์ของคุณนั้นจะถูกคุ้มครองในทุกกรณีของการเกิดอุบัติเหตุแน่นอน
ดังนั้นถ้าใครที่กำลังจะแต่งรถ ขอแนะนำให้คุณศึกษากรมธรรม์ประกันรถยนต์ของคุณให้ดีก่อน เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์หรือมีปัญหาในภายหลังหากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องแจ้งเคลม โดยคุณสามารถที่จะสอบถามข้อมูลแต่งรถประกันขาดไหม pantip หรือค้นหาประกันรถแต่งที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุดได้บนเว็บไซต์ insurverse พร้อมมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและการเช็คเบี้ยประกันแบบออนไลน์สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง