ไม่อยากว้าวุ่น ซ่อมรถทีละหลายบาท ก็ต้องรู้ไว้เลยว่าครบกี่ปีจึงจะต้องพาไปตรวจสภาพรถยนต์ หากไม่นำไปตรวจสภาพตามรอบค่าใช้จ่ายที่ตามมาบอกได้คำเดียวว่ามหาศาลแน่นอนพร้อมกับเช็คเบี้ยประกันรถยนต์พกติดไว้ก็เป็นอีกแนวทาง SAVE ค่าใช้จ่ายได้แบบยอดเยี่ยม นอกจากนี้การตรวจสภาพรถก็เปรียบเสมือนการเตรียมพร้อมก่อนเสียภาษีประจำปีด้วย จึงกลายเป็นคำถามยอดฮิตบนเว็บบอร์ด Pantip ทำไมต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปีด้วยล่ะ
สำหรับคำถามยอดฮิตบนเว็บบอร์ด Pantip การตรวจสภาพรถยนต์คืออะไร? ทำไมต้องตรวจก่อนเสียภาษี? การตรวจสภาพรถ คือการนำรถยนต์คู่ใจที่ใช้อยู่เป็นประจำในชีวิตประจำวันพุ่งตรงเข้าไปที่สถานตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) พร้อมเปิดให้บริการทั่วประเทศ ซึ่งทุกแห่งจะมีการดำเนินงานตามมาตรฐานที่ทางกรมขนส่งทางบกได้มีการระบุอย่างเคร่งครัด การนำรถเข้าตรวจสภาพจะเป็นการนำเข้าไปเช็คว่าตรงไหนมีการเสียหายหรือมีการชำรุดหรือไม่ หากตรวจพบเจอก็จะมีการซ่อมแซมให้ทันที ปกติแล้วการตรวจสภาพรถมักจะทำก่อนที่จะเสียภาษีเสมอ
การตรวจสภาพรถยนต์ก่อนที่จะดำเนินการเสียภาษีประจำปี เพราะว่าทางกฎหมายได้มีการกำหนดไว้ว่ารถที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันจะต้องเป็นรถที่มีความแข็งแรง มีความมั่นคง อุปกรณ์ต่างๆ และลักษณะของรถจะต้องถูกต้องตามเดิม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ยิ่งทำประกันรถเก๋งชั้น 1 ราคาสุดประหยัดไว้ด้วย ก็ยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้นักขับและผู้โดยสารไปอี๊กกกก
เมื่อเอ่ยถึงการตรวจสภาพรถยนต์แล้ว ก็เปรียบดั่งการตรวจสุขภาพประจำปี เพราะตลอดทั้งปีเชื่อว่าหลายคนก็คงจะใช้งานหนักมาพอสมควร จึงจะต้องมีการเข้าเช็คกันบ้างเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจทุกเส้นทางการขับขี่ ยิ่งบวกกับการทำประกันรถเก๋งชั้น 1 ราคาสุดประหยัดเมื่อเทียบกับความคุ้มครองรับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนไว้ด้วยก็จะเป็นตัวช่วยเซฟค่าใช้จ่ายยามเกิดอุบัติเหตุได้อย่างหมดจด สำหรับใครที่มีความสงสัยว่าแล้วต้องไปตรวจสภาพรถเมื่อไหร่? แล้วเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ตามไปไขข้อสงสัยกันเลย
รถกี่ปีต้องตรวจสภาพ? ปกติแล้วตามกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า 7 ปี นับตั้งแต่จดทะเบียนครั้งแรกตลอดจนวันสิ้นสุดอายุภาษีประจำปี อาทิ จดทะเบียนปี 2565 ต้องดำเนินการตรวจสภาพรถครั้งแรกปี 2572 สำหรับอายุของรถจะแบ่งออกตามประเภทได้ดังนี้
1. รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีเป็นต้นไป
2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่เกิน 7 ที่นั่ง มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
4. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
ตรวจสภาพรถยนต์เตรียมเอกสารอะไรบ้าง? ประกอบไปด้วยเล่มทะเบียนรถตัวจริง เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตามแล้วก็จะมีรถบางประเภทแม้อาจจะมีเอกสารแล้วแต่ทาง ตรอ. ก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ ต้องไปดำเนินการเฉพาะที่สำนักงานขนส่ง อาทิ รถที่มีการดัดแปลงสภาพ, รถที่ขาดการต่อภาษียาวนานเกินกว่า 1 ปี, รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถและรถที่เกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้กลับคืนมา เป็นต้น
1. รถจักรยานยนต์ราคาตรวจสภาพเริ่มต้นอยู่ที่คันละ 60 บาท
2. รถที่มีน้ำหนักเปล่าเท่ากับหรือน้อยกว่า 1,600 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่คันละ 150 บาท
3. รถที่มีน้ำหนักเปล่ามากกว่า 1,600 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่คันละ 250 บาท
สาเหตุหลักของการตรวจสภาพรถยนต์ก็เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการขับขี่ ไม่ใช่เฉพาะเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ท่านอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากรถได้อีกด้วยนะ รู้แบบนี้แล้วห้ามพลาดเด็ดขาด ยิ่งบวกกับการทำประกันรถยนต์ออนไลน์พกติดไว้ด้วย ก็เพิ่มความอุ่นใจได้ตลอดเส้นทาง ส่องดูความคุ้มครองสุดคุ้มและเช็คเบี้ยประกันรถยนต์จาก insurverse กันเลยดูแลดั่งญาติมิตรตลอด 24 ชั่วโมง มีปัญหาคราใดโทรมากริ๊งเดียวพร้อมช่วยเหลือทันที
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง