การทำประกันรถยนต์เป็นเหมือนการสร้างหลักประกันเสริมความอุ่นใจ และช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนมีความรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็มีประกันรถยนต์ให้เลือกได้ตามความต้องการ มีทั้งประกันรถยนต์รายวัน และประกันรถยนต์รายปี แล้วทั้งสองต่างกันอย่างไร? ควรรจะเลือกทำประกันแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน? วันนี้เรามีคำตอบมาให้ ไปดูกันเลย
ประกันรถยนต์รายวัน หรือเรียกว่าประกันรถยนต์ระยะสั้น เป็นประกันรถยนต์ที่ผู้ทำสามารถเลือกวัน เวลา ในการทำประกันรถยนต์ชั่วคราวได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางบ่อย โดยจะสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเบี้ยประกันเท่าไหร่ เพื่อจะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการต่อการใช้งานรถยนต์ในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะมีชื่อเรียกต่างกันในแต่ละที่ ได้แก่ ประกันรถเปิด-ปิด, ประกันรถเติมเงิน, ประกันรถระยะสั้น, ประกันรถชั่วคราว, ประกันรถรายวัน และประกันรถตามไมล์ เป็นต้น
ประกันรถยนต์รายปี คือประกันรถยนต์หลักที่คนส่วนใหญ่รู้จักกัน สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ทั้งแบบการจ่ายครั้งเดียว หรือผ่อนจ่ายรายเดือน ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เป็นประจำ มีทั้งประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ประกอบไปด้วย ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3 และ ประกันชั้น 3+
ถ้าจะพิจารณาว่าประกันรถยนต์แบบไหนดีกว่ากัน อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะนิยามคำว่าดีของผู้ใช้รถใช้ถนนแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์เป็นประจำ จะเหมาะกับประกันรถยนต์รายปีมากกว่า แต่ถ้าเป็นผู้ที่ไม่ได้มีการขับขี่รถยนต์เป็นประจำ หรือใช้รถยนต์เฉพาะช่วงวันหยุด เพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อน การทำประกันรถยนต์รายวันจะเหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าจะพูดถึงความหลากหลาย ประกันรถยนต์รายปีจะมีตัวเลือกให้เลือกเยอะกว่า
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจว่าประกันรถยนต์แบบไหนที่ดีกว่ากัน เพียงแต่จะต้องเลือกใช้ให้ตรงต่อความต้องการ และการใช้งานรถยนต์ของเรา หากเราได้เลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมแล้ว ก็จะรู้สึกถึงความคุ้มค่าได้อย่างแน่นอน และใครสนใจที่จะซื้อประกันรถยนต์ทั้งแบบรายปีและรายวัน สามารถเช็กราคาเบี้ยประกันได้ที่นี่ แล้วเลือกแผนประกันที่ดีต่อใจคุณมากที่สุดกันเลย
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง