ท่ามกลางสังคมที่ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ ไม่เว้นแม้แต่การติดตามข่าวสาร เพราะในแต่ละวันเพียงทำธุระหน้าที่ของตนเองก็แทบไม่มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่น หรือตรวจสอบวันหมดอายุของสิ่งรอบตัว ยิ่งกับประกันรถยนต์ทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจที่มีอายุการใช้งานแบบปีต่อปี ทำให้บางทีอาจจะลืมไปแล้วว่าครบกำหนดวันหมดอายุเมื่อไหร่
การลืมวันหมดอายุของประกันรถยนต์เป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นได้บ่อย แต่ในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางที่จะสามารถเช็กวันหมดอายุของประกันรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง ได้แก่
วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การหากรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่ได้รับมาหลังจากซื้อประกันแล้ว เพราะกรมธรรม์เป็นใบที่จะแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น วันเริ่มประกัน วันหมดอายุประกัน ความคุ้มครองต่าง ๆ หรือการเคลมประกัน
หากใครที่หากรมธรรม์ไม่เจอ หรือไม่สะดวกที่จะทำการค้นหากรมธรรม์ ก็สามารถติดต่อสอบถามจากบริษัทประกันได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเบอร์โทร Call Center หรือสอบถามผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ของบริษัทก็ได้เช่นกัน
สำหรับคนที่ซื้อประกันรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์หรือตัวแทนขายประกัน ก็สามารถติดต่อสอบถามจากตัวแทนได้โดยตรง หรือหากสอบถามผ่านบริษัทโบรกเกอร์ ก็ให้แจ้ง ชื่อ รุ่นรถ หรือรายละเอียดอื่น ๆ ที่ทางบริษัทต้องการเพิ่มเติม
เป็นบริการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย โทรที่เบอร์ 1186 หรือช่องทางใหม่ คือ แอดไลน์ คปภ.รอบรู้ และรอให้ระบบตรวจสอบ จากนั้นไปที่เมนู ‘กรมธรรม์ของฉัน’ ก็จะสามารถเช็กวันหมดอายุของประกันได้
หลายบริษัทประกันภัยในปัจจุบัน มีการสร้างแอปพลิเคชันมือถือมาเพื่ออำนวยความสะดวก ไว้ใช้สำหรับกระจายยข้อมูลข่าวสาร และรายละเอียดต่าง ๆ แก่ผู้ใช้บริการ โดยสามารถติดตั้งแอปพลิเคชัน และดำเนินการตรวจสอบด้วยตัวเองได้เลย
ยิ่งกว่าการลืมวันหมดอายุ บางคนอาจจะลืมไปแล้วว่าได้ทำประกันรถยนต์ไว้ที่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ในปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้ 2 ช่องทางหลัก ๆ ได้แก่
สามารถขอตรวจสอบได้ทั้งประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยสามารถเตรียมข้อมูลและเอกสารที่จำเป็น แล้วเข้าไปขอตรวจสอบที่สำนักงานได้เลย หรือใครที่ต้องการติดต่อทางสายด่วนประกันภัย โทรได้ที่เบอร์ 1186 หรือกลุ่มงานคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โทรได้ที่เบอร์ 02-515-3999 ต่อ 5360, 5362, 530
อาจจะโทรติดต่อสอบถามกับบริษัทประกันรถยนต์ที่คาดว่าอาจเลือกใช้บริการเป็นอันดับแรก ซึ่งอาจจะลองถามจากคนใกล้ตัว หรือศูนย์รถยนต์ที่ซื้อมาก็ได้ โดยสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ Call Center ของแต่ละบริษัทโดยตรง แต่ไม่สามารถสอบถามข้อมูลข้ามบริษัท หากบริษัทแรกที่โทรไปไม่มีข้อมูล ก็จะต้องหาบริษัทอื่น ๆ ต่อไป
ประกันรถยนต์สามารถเช็กวันหมดอายุผ่านทางออนไลน์ได้ ตอบโจทย์ชีวิตในยุคเทคโนโลยีอย่างมาก และเมื่อตรวจสอบวันหมดอายุแล้ว ก็อย่าลืมวางแผนต่อประกันรถยนต์เพื่อความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง และการต่อประกันรถยนต์นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องต่อประกันกับบริษัทเดิมก็ได้ เพื่อความคุ้มค่าในเรื่องราคาเบี้ยประกันที่มากที่สุด ควรจะเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันของแต่ละบริษัทก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะใครที่ต้องการประกันชั้น 1 ราคาถูกและดี ต้องที่ insurverse ถูกใจ และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่อย่างแน่นอน
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง