หากใครเป็นคนช่างสังเกตจะรู้ดีว่าเหตุการณ์ งูตัดหน้ารถ มักพบในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนเท่านั้น แม้ว่าทางวิทยาศาสตร์แล้วจะเป็นเรื่องปกติที่งูจะเลื้อยผ่านไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แต่สำหรับผู้ที่เชื่อเรื่องดวงอาจต้องเช็กให้ดีว่างูตัดหน้ารถหมายถึงอะไร? นำพาโชคดีหรือโชคร้ายมาให้กันแน่! เราจะมาชวนคุณหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้เลย
ตามทำนายดวงหลายสำนักบอกเอาไว้ว่าการจะตีความว่างูตัดหน้ารถหมายถึงอะไรขึ้นอยู่กับสีและชนิดของงูที่อ้างอิงตามตำราทำนายฝัน ดังนี้
ใครเป็นสายมูตัวจริงจะรู้ดีกว่าเหตุการณ์งูตัดหน้ารถไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทำให้เราจะต้องนำเหตุการณ์นี้มาตีความเป็นเลขเด็ดเผื่อเจ้างูที่ตัดหน้ารถจะนำโชคลาภมาให้ ใครอยากรู้ว่างูตัดหน้ารถได้เลขเด็ดอะไรบ้าง เช็กได้ที่นี่เลย!
1. งูตัดหน้ารถจากซ้ายไปขวา
งูตัดหน้ารถจากซ้ายไปขวาเป็นทิศทางที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะผ่านพ้นเคราะห์ร้ายไปได้ด้วยดี โดยเลขเด็ดที่ได้จากการตีความเมื่องูตัดหน้ารถจากซ้ายไปขวา ได้แก่ 46, 01, 54, 07, 498 และ 120
2. งูตัดหน้ารถจากขวาไปซ้าย
หากใครพบว่ามีงูเลื้อยผ่านหน้ารถจากขวาไปซ้าย insurverse อยากแนะนำให้คุณเตรียมตัวรับทรัพย์ได้เลย เพราะการมาของงูในทิศนี้เป็นการนำโชคลาภมาให้ โดยเลขเด็ดที่น่าจับตามอง ได้แก่ 067, 17, 61, 702 และ 855
แม้ว่าการเห็นงูตัดหน้ารถตามตำราความเชื่อหมายถึงการนำความโชคดีมาให้ แต่หากคุณเป็นคนที่ตกใจง่ายเหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิตได้ ในกรณีงูตัดหน้ารถแล้วเกิดอุบัติเหตุคำถามยอดนิยมคือ เกิดอุบัติเหตุแบบนี้ประกันเคลมไหม คำตอบคือ เคลมประกันได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของกรมธรรม์ที่คุณมี เช่น หากคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ในกรณีที่ขับรถหลบงูตัดหน้ารถทำให้เกิดความเสียหายขึ้นต่อตัวรถ หรือหักหลบแล้วชนกับรถคันอื่น สามารถแจ้งเคลมเพื่อรับความคุ้มครองได้ทั้งส่วนของความคุ้มครองตัวรถและความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากเป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีหรือไม่ก็ตามแม้ว่าความเชื่อเรื่องงูตัดหน้ารถ จะเป็นเรื่องที่หลายคนคาดหวังจะนำมาตีเป็นเลขเด็ดเผื่อจะมีโชคมีลาภจากการเดินทาง แต่การขับรถอย่างมีสติและพกประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง