มีรถไว้ขับอย่างเดียวไม่พอ แต่คนมีรถต้องมีความรู้เรื่องความคุ้มครองของประกันต่าง ๆ เพื่อยามที่เกิดอุบัติเหตุจะได้จัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง พื้นฐานที่คนมีรถทุกคนจะต้องมีเลยนั่นก็คือ พ.ร.บ. ซึ่งนอกเหนือจากการมี พ.ร.บ. ไปเพื่อต่อภาษีรถยนต์แล้ว คุณยังต้องรู้ความคุ้มครองไว้อีกด้วย
มือใหม่ไม่ต้องสับสน เราจะพาทวนความรู้กันว่า พ.ร.บ. คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นต้องมี เราจะได้รับ พ.ร.บ. รถ มาได้อย่างไร รวมถึงได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง แอบกระซิบ! พ.ร.บ. รถยนต์ เขาเพิ่มความคุ้มครองใหม่แล้วนะ
“พ.ร.บ. รถยนต์” คือ การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งกฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ต้องทำประกัน โดยพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถนั้น กฎหมายกำหนดให้ ยานพาหนะทางบกทุกประเภทที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ต้องทำ ประกันภัยประเภทนี้ เพื่อให้ความคุ้มครองกับตัวบุคคลที่ได้รับผลจากอุบัติเหตุ
สาเหตุที่ต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ เนื่องจากทุกการขับขี่บนท้องถนน มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติ จึงได้มีการออกกฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ เพื่อคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก พ.ร.บ. ก็จะให้ความคุ้มครอง และที่สำคัญ พ.ร.บ. จะให้เงินชดเชย ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ ให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะกรณีบาดเจ็บ หรือช่วย ค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิต
ถ้ารถคันไหนไม่มีการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ไม่ว่าคนขับจะเป็นเจ้าของรถหรือไม่ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง และยังถือว่าผิดกฎหมาย ต้องดูดำเนินคดีตามกระบวนการ จะมีโทษดังนี้
การปล่อยให้ พ.ร.บ. ขาดอายุ มีแต่ข้อเสีย ขอแนะนำต่อ พ.ร.บ. รถยนต์กับยื่นต่อภาษีจะคุ้มกว่า พ.ร.บ.รถยนต์ นอกจากจะสามารถซื้อผ่านทางกรมขนส่งทางบกหรือผ่านบริษัทประกันภัย ยังสามารถซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์กับทิพยประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที ในราคาเริ่มต้นเพียง 569 บาท เท่านั้น ไปดูกันดีกว่าว่าคุ้มครองอะไรบ้าง ?
จากตาราง พ.ร.บ. รถยนต์ ทำให้ทราบแล้วว่าถ้ามี พ.ร.บ. รถยนต์ เราจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง แต่ถ้าไม่มีเราจะได้รับผลเสี่ยงอย่างไร และปัจจุบันสามารถต่อผ่านออนไลน์เองได้แล้ว ต่อง่ายไม่ยุ่งยาก แค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้นที่อินชัวร์เวิร์ส ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที!
1. เลือกประเภทรถ
2. กรอกข้อมูลกรมธรรม์
3. ชำระเงิน
หลังจากชำระเงินเรียบร้อย อินชัวร์เวิร์สจะส่ง E-policy ให้ลูกค้าทันทีทาง E-mail ข้อมูลจะส่งตรงถึงกรมขนส่งทางบกทันที ลูกค้าสามารถนำรายละเอียดจากกรมธรรม์ไปต่อภาษีรถยนต์ได้เลย ที่เว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th/
1. เข้าสู่เว็บไซต์ หากไม่เคยใช้บริการมาก่อนให้ทำการ “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่”
2. เข้าสู่ระบบ (Login) และไปที่เมนู บริการ และเลือก “ชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต”
3. หากมีรถยนต์ที่จดทะเบียนเป็นชื่อของคุณเอง ระบบจะแสดงรายละเอียดให้อัตโนมัติ แต่ถ้าไม่มีข้อมูลแสดง ให้ทำการกรอกข้อมูลค้นหาและทำการลงทะเบียนรถ จากนั้นเลือกรถที่ต้องการต่อภาษีแล้ว กด “ยื่นชำระภาษี”
4. กรอกข้อมูลบริษัทประกันภัย เลขที่กรมธรรม์ และวันสิ้นสุดอายุความคุ้มครอง (วันสิ้นอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ยื่นชำระภาษีถึงวันสิ้นอายุคุ้มครองของ พ.ร.บ.)
5. กรอกข้อมูลที่อยู่และเลือกช่องทางการชำระเงิน โดยหลังจากชำระเงินแล้วไม่เกิน 7 วันทำการ กรมขนส่งจะจัดส่งป้ายสี่เหลี่ยมแสดงการชำระภาษีทางไปรษณีย์
ทวนความรู้! ตาราง พ.ร.บ. รถยนต์ ที่มือใหม่ควรรู้ พ.ร.บ. สำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการทำประกันที่กฎหมายบังคับ ทำไว้ยังไงก็คุ้มกว่า เมื่อหากเกิดดอุบัติเหตุได้รับการคุ้มครอง สามารถต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ได้แล้วที่อินชัวร์เวิร์ส
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
หลายๆ คนที่ขับรถน่าจะรู้กันอยู่แล้วล่ะ ก่อนต่อภาษีรถยนต์ต้องต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ซะก่อน แต่ตรงขั้นตอนชำระภาษีใน dlt vehicle tax เนี่ยสิทำยังไง
ในยุคที่โลกดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว รวมถึงการต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ที่ง่าย
ทุกคนนน!! วันนี้มีเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับเจ้าของรถทุกคนมาบอกต่อ! ซึ่งก็คือ เรื่องของการต่อประกันภัยภาคบังคับหรือที่เรียกติดปากว่าการต่อพ.ร.บ.