ยุคนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการประหยัดเงิน สิ่งที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปก่อน แต่ค่าใช้จ่ายในเรื่องสำคัญ อย่างการทำประกันรถยนต์นั้น เห็นทีจะตัดไม่ได้ อย่างไรก็ยังจำเป็น ถ้าต้องการประหยัดจริงๆ อาจต้องอาศัยทางเลือกในการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ซึ่งเป็นการประกันที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ไปดูกันว่าประกันแบบนี้ดีหรือไม่ ถ้าต้องเคลมรถจะมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินงอกขึ้นมาในส่วนใดบ้าง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ แต่ความคุ้มครองจะไม่เท่ากับประกันชั้น 1, หรือชั้น 2 ประกันประเภทนี้เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันจะรับผิดชอบในส่วนของคู่กรณี ได้แก่
การทำประกันรถชั้น 3 ช่วยให้หมดกังวลในเรื่องค่าเสียหายที่ต้องชดใช้ให้กับคู่กรณีที่เราขับไปเฉี่ยวชนเข้า แต่ไม่ครอบคลุมในส่วนของผู้เอาประกัน โดยมีบางส่วนที่อาจจะต้องจ่ายเอง ความเสียหายที่ประกันรถยนต์ชั้น 3 ไม่ครอบคลุมก็คือ
ประกันชั้น 3 เหมาะกับผู้ที่ขับรถมานาน มีประสบการณ์และความชำนาญในการขับ ประวัตการขับดีไม่ค่อยมีอุบัติเหตุที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด หรือผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถไปไหนมาไหนบ่อย และต้องการเซฟงบประมาณในการทำประกันก็สามารถเลือกประกันแบบนี้ได้ ส่วนรถยนต์ที่จะทำประกันชั้น 3 ไม่ควรเป็นรถใหม่ป้ายแดง ประกันชั้น 3 เหมาะกับรถค่อนข้างเก่า รถมือสอง ใช้งานมานาน 7 ปีขึ้นไป เพราะไม่มีความเสี่ยงเรื่องรถหาย หากต้องซ่อมรถ ค่าอะไหล่ก็ไม่แพงเท่ารถใหม่ รถอีกประเภทหนึ่งที่เจ้าของรถมักจะเลือกทำประกันชั้น 3 ก็คือรถรับจ้าง รถบริการสาธารณะ รถขนของสำหรับร้านค้าที่เน้นใช้งานหนักเป็นหลัก
ถ้ารถของคุณและการใช้รถในชีวิตประจำวันเหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 3 Insurverse พร้อมให้บริการซื้อประกันผ่านระบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากต้องการประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ก็สามารถเข้าชมรายละเอียดและเทียบราคากรมธรรม์ได้ที่เว็บไซต์ของเรา เลือกความคุ้มครองด้วยตัวเองในแบบที่คุณพอใจไม่ต้องผ่านตัวแทน จึงได้ราคาที่ถูกกว่า พร้อมรับกรมธรรม์และความคุ้มครองในทันที สนใจคลิก เช็กเบี้ยที่นี่!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง