การชนแบบไม่มีคู่กรณีเป็นเรื่องคนใช้รถประสบปัญหานี้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การโดนชนแล้วหนี เฉี่ยวฟุตปาธ เจอรอยขีดข่วนที่ไม่รู้ว่าโดนมาจากไหน แม้ว่าทั้งหมดจะเคลมความเสียหายกับประกันชั้น 1 ได้ก็จริง แต่ถ้าระบุคู่กรณีไม่ได้ยังไงก็ต้องเสียค่า Excess ให้กับบริษัทประกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วแบบนี้คนใช้รถอย่างเราควรทำยังไงดี อยากเคลมแต่ก็ไม่อยากเสียเงินเพิ่มด้วย ไม่ต้องกังวล insurverse ได้รวบรวมวิธีเคลมประกันที่ไม่มีคู่กรณี ไม่เสียค่า Excess ที่สามารถทำได้จริง ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำยังไงติดตามกันได้เลย
หลายคนอาจพอเข้าใจแล้วว่า Excess คือค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีที่ไม่สามารถระบุที่มาที่ไปได้ insurverse ขอเทคนิคการเคลมประกันไม่เสียค่า Excess สามารถปรับใช้ได้ โดยมี 5 วิธีดังต่อไปนี้
อันดับแรกเมื่อรถของเราเสียหาย ควรแจ้งเคลมสดทันที หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เกิดเหตุปุ๊บให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ประกันทันที ไม่ควรปล่อยให้เวลาล่วงเลยนานเกินไป เพราะการเคลมสดจะทำให้เจ้าหน้าที่ไม่คิดค่า Excess กับเรา จากการประเมินรอยแผลและสำรวจที่เกิดเหตุ ทำให้ง่ายต่อการพิจารณารับเคลมตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
ข้อสำคัญในการเคลมคือห้ามตอบว่า “ไม่รู้” หรือ “จำไม่ได้” แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วก็ตามว่าเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณี ควรอธิบายลักษณะการเฉี่ยวชนหรือรายละเอียดตอนเกินเหตุให้ดี หรือถ้าคิดไม่ออกจริงๆ ลองหา วัตถุที่ใกล้เคียงกับรอยแผลของรถมาประกอบการอธิบาย เช่น ถอยแล้วไปขูดโดนราวตากผ้า ประตูรั้วบ้านไหลออกมากระแทกท้ายรถ โดนมอเตอร์ไซค์ขูดตอนติดไฟแดง วิธีนี้จะช่วยลดความยุ่งยากในการอธิบายได้เยอะ เพราะทางประกันจะมองว่าเป็นการชนแบบมีที่มาที่ไปไม่เลื่อนลอย
หากเกินความเสียหายที่ชัดเจน เช่นรอยบุบ รอยแตกร้าว รอยโดนขูดลึก แบบนี้แจ้งเจ้าหน้าที่ประกันได้เลยไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะความเสียหายประเภทนี้เจ้าหน้าที่เข้าใจดีว่าเป็นเหตุที่ค่อนข้างรุนแรง ตรงกันข้ามถ้าเป็นรอยครูด รอยขีดข่วนบางๆ หรือหินกระเด็นใส่ กรณีเหล่านี้เจ้าหน้าที่จะคิดค่า Excess เป็นรายเหตุการณ์ ประมาณ 1,000 บาท/เหตุการณ์
เคลมประกันไม่เสียค่า Excess สามารถแจ้งเคลมอะไหล่ได้สูงสุดครั้งละ 5 ชิ้น สามารถทำได้แค่ 1-2 ครั้ง ตลอดอายุสัญญาของกรมธรรม์และเงื่อนไขของบริษัทประกันที่กำหนด ดังนั้นถ้าอยากเคลมหลายแผลแนะนำว่า ให้แบ่งเป็นรอบๆ ไปว่าจะเคลมส่วนไหนบ้างจะได้ไม่เสียค่า Excess ครั้งละหลายพันบาท
สุดท้ายอยากแนะนำให้ทุกคนศึกษาเงื่อนไขการเคลมประกันของกรมธรรม์ตัวเองให้รอบคอบว่า มีขอบเขตความรับผิดชอบยังไงบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของทุนประกันต้องดูให้ดีๆ เพราะการซ่อมบำรุงแต่ละครั้งอาจมีราคาค่าซ่อมเบ็ดเสร็จสูงกว่าวงเงินที่กำหนด จนทำให้คุณต้องเสียทั้งค่าส่วนต่างและค่า Excess ไปพร้อมๆ กันก็ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าจุดไหนไม่มั่นใจควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ประกันเพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวคุณเอง
ค่า Excess ของประกันรถยนต์ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ช่วยให้ผู้เอาประกันใช้รถยนต์อย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้แจ้งเคลมแบบพร่ำเพรื่อมากเกินไป แต่ในทางกลับกันผู้เอาประกันสามารถกำหนดค่า Excess ได้ประมาณ 1,000-5,000 บาท เพื่อใช้ลดค่าเบี้ยประกันรายปี ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าตัวเงอมีโอกาสเฉี่ยวชนบ่อยๆ ให้เลือกค่า Excess น้อย ส่วนคนที่ขับรถชำนาญแล้วสามารถเพิ่มค่า Excess จนสุดเพดานได้เพื่อให้ค่าเบี้ยถูกลงกว่าเดิม
การเคลมรถรอบคันในครั้งเดียว จะมีค่า Excess เริ่มต้นที่ 1,000-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยของแต่ละเจ้า โดยการเคลมแบบนี้จะไม่จำกัดจำนวนริ้วรอย สามารถเก็บรอยความเสียหายต่างๆ เช่น รอยเล็บแมว หินกระเด็น สีถลอก จากนั้นจึงค่อยเอามาเคลมรอบคันในครั้งเดียว พร้อมจ่ายค่า Excess ให้กับบริษัทประกันตามที่ตกลงกันไว้
มาถึงตรงนี้หลายคนคงเข้าใจกันแล้วว่าการเคลมประกันไม่มีคู่กรณีไม่เสียค่า Excess มีวิธีการพูดคุยหรือตกลงกับทางบริษัทประกันยังไงให้ลงตัว แต่ก็ต้องย้ำเตือนกันก่อนว่าการชนแบบไม่มีคู่กรณีเป็นเงื่อนไขเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น นั่นหมายความว่าประกันชั้นอื่นๆ จะไม่มีค่า Excess ต้องรับผิดชอบเองเมื่อชนแบบไม่มีคู่กรณี ดังนั้นควรมีความรอบคอบและระมัดระวังในการใช้รถอยู่เสมอ เพราะความเสียหายทุกประเภทมีราคาที่คุณต้องจ่าย ใครกำลังมองหาประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์ของคุณได้ insurverse พร้อมให้คุณชัวร์กว่าด้วยกรมธรรม์ชั้น 1-3 ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามใจคุณ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
รู้ความหมายของป้ายจราจรทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ป้ายจราจรทั้งหมดพร้อมความหมาย ช่วยลดอันตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
รู้สึกเหมือนรถโดนดึงเวลาขับอาจเป็นเพราะไฟเบรคค้างอย่าปล่อยไว้นาน พบสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาก่อนใครในบทความนี้
เปิดวาร์ปเรื่องน่ารู้ ท่อไอเสียสำหรับรถยนต์ มีแบบไหนบ้าง สำคัญต่อรถยนต์ยังไง ราคาท่อไอเสียรถยนต์ทั้งเส้นเท่าไหร่? มาเช็คกันเลยค่ะ