vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท เลือกยังไงให้คุ้มที่สุด

ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท เลือกยังไงให้คุ้มที่สุด

schedule
share

อยากเลือกประกันภัยรถด้วยตัวเองให้คุ้มค่าที่สุด ต้องเริ่มต้นจากการรู้จักประเภทของประกันให้หมดเสียก่อน ซึ่งจะมีทั้งหมดกี่ประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นแบบไหน และเหมาะสมกับใครบ้างในแต่ละประเภท สามารถเลื่อนลงไปอ่านกันทีละหัวข้อได้ต่อจากนี้

ประเภทของประกันรถยนต์

ซื้อรถยนต์คันใหม่ปัจจุบันนี้ส่วนมากจะมีการแถมประกันอยู่แล้ว แต่มันเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมือนกันหมด โดยที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ทั่วประเทศ ต่างก็มีประกันรถพร้อมให้บริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 2, 3+ และ 3 ธรรมดา แล้วแต่ละตัวเลขของประกันภัยรถแตกต่างกันอย่างไร ถ้าอยากรู้ insurverse มีข้อมูลพร้อมเสิร์ฟแล้ว ใครอยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับประกันรถแบบครบวงจร ลองอ่านดูได้เลย

ประกันรถยนต์ชั้น 1 

เริ่มกันที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันภัยรถที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากที่สุดในหมู่รถยนต์ใหม่ เพราะเป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีการดูแลคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกเรื่อง แต่ก็แลกมาด้วยค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างแพงเช่นกัน

จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 1 

จุดเด่นของประกันรถชั้น 1 คือ คุ้มครองค่าเสียหายตัวรถทั้งหมด และคุ้มครองค่าเสียหายต่อคู่กรณีทั้งหมด

  • คุ้มครองค่าเสียหายตัวรถทั้งหมด เช่น รถหาย ไฟไหม้ อุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี และภัยพิบัติจากธรรมชาติ
  • ค่าเสียหายต่อคู่กรณี เช่น ค่ารักษาพยาบาลเมื่อบาดเจ็บ ค่าชดเชยเมื่อเกิดเหตุเสียชีวิต รวมไปถึงการดูแลทรัพย์สินทั้งหมดที่เกิดในอุบัติเหตุ

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร

ประกันภัยรถชั้น 1 ค่อนข้างเหมาะสมกับผู้ที่เป็นมือใหม่หัดขับ หรือเพิ่งออกรถยนต์คันใหม่มา เพราะประกันชั้นนี้จะช่วยดูแลคุ้มครองได้อย่างครอบคลุมที่สุด ทำให้เราดูแลรักษารถยนต์ได้ในสภาพที่สมบูรณ์ตลอดอายุประกันรถ

ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 2+ 

ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 2+

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 2+ เป็นประกันภัยรถที่ดูแลคุ้มครองน้อยลงจากชั้น 1 ลงมาอีกนิด แต่มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกลงอีกระดับเช่นกัน 

จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 2+ 

จุดเด่นของประกันภัยรถชั้น 2 และ 2+ คือ การคุ้มครองค่าเสียหายคู่กรณี และคุ้มครองค่าเสียหายรถยนต์ที่จะแตกต่างกันระหว่าง 2 และ 2+ ดังนี้

  • ประกันภัยรถชั้น 2 และ 2+ คุ้มครองค่าเสียหายคู่กรณีทั้งทรัพย์สิน และค่าดูแลรักษา
  • ประกันภัยรถชั้น 2+ คุ้มครองค่าเสียหายรถยนต์ เฉพาะการเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น หากโดนชนแล้วหนี ประกันไม่คุ้มครอง รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเองก็จะไม่คุ้มครองเช่นกัน
  • ประกันภัยรถชั้น 2 คุ้มครองค่าเสียหายรถยนต์ให้กับคู่กรณีเท่านั้น ค่าเสียรถยนต์ของผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเอง

ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 2+ เหมาะกับใคร

ประกันภัยรถชั้น 2 และ 2+ ค่อนข้างเหมาะสมกับคนที่มีความเชี่ยวชาญในการขับรถมาประมาณหนึ่งแล้ว โดยที่มีความต้องการใช้จ่ายเบี้ยประกันน้อยลง แต่ยังได้รับการคุ้มครองเรื่องค่าเสียคู่กรณีอย่างครบถ้วนอยู่

ประกันรถยนต์ชั้น 3 และ 3+ 

ประกันรถยนต์ชั้น 3 และ 3+

มาถึงประกันภัยรถชั้น 3 และ 3+ ที่มีความคุ้มครองด้านตัวรถยนต์ลดน้อยลงจากประกันรถ 2 และ 2+ ลงมาอีกสเต็ป แต่ยังคงเรื่องค่าเสียหายคู่กรณีไว้อย่างครบถ้วนเช่นกัน

จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 3 และ 3+

จุดเด่นของประกันภัยรถชั้น 3 และ 3+ นั้นเหมือนกันตรงที่การคุ้มครองค่าเสียหายคู่กรณีทั้งหมด รวมถึงทรัพย์สินด้วย แต่ส่วนที่แตกต่างกันคือกรณีการคุ้มครองค่าเสียหายรถยนต์ ซึ่งมีดังนี้

  • ประกันภัยรถชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายรถยนต์ของคู่กรณี หากเราเป็นฝ่ายผิด ส่วนค่าซ่อมรถเราต้องดูแลเอง
  • ประกันภัยรถชั้น 3+ จะมีการคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันรถชั้น 3 ปกติขึ้นมาในเรื่องของการคุ้มครองค่าเสียหาย หากเกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบกด้วยกัน

ประกันรถยนต์ชั้น 3 และ 3+ เหมาะกับใคร

ประกันภัยรถชั้น 3 และ 3+ ค่อนข้างเหมาะสมกับคนที่ใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวันน้อย หรือขับขี่เซฟทุกช่วงเวลา รวมถึงผู้ที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญการขับรถมากๆ อยู่แล้ว ซึ่งสามารถคุ้มครองได้ตรงตามความต้องการมากที่สุดแน่นอน

ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ผ่อนได้คุ้มครองทันที

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์แบบผ่อน ที่ insurverse พร้อมบริการด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อนได้ เริ่มต้นคุ้มครองแบบชัวร์ๆ ตั้งแต่งวดแรก ไม่ว่าจะเป็นแผนไหนเราก็ให้คุณผ่อนประกันรถยนต์ได้แบบ 0% นาน 10 เดือน ไม่ต้องคิดเยอะแค่เข้ามาที่เว็บไซต์ของเรา เลือกแผนประกันรถยนต์ผ่อนได้ที่ถูกใจและสั่งซื้อได้เลย

สรุปบทความ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัยรถครบทุกชั้นเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่เช็กความเหมาะสมดูว่า การใช้งานรถยนต์ของเรา เหมาะสมกับประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนมากที่สุด ถ้ารู้สึกว่าตัดสินใจลำบาก insurverse สามารถช่วยให้คุณเช็กประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุณอย่างเหมาะสมและครอบคลุม พร้อมขั้นตอนการสมัครไปจนถึงการจ่ายเงินที่ง่าย และสะดวกสบายมากที่สุดแห่งยุค! 

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย