มือใหม่หัดขับถ้าต้องการทำใบขับขี่อาจจะเกิดความกังวลไม่น้อยว่าต้องทำยังไง? เตรียมตัวแบบไหน? ยิ่งหลายคนบอกมาว่าขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรยิ่งทำให้ไม่สบายใจ แถมยังคิดไปเองอีกด้วยว่าตัวเองอาจจะทำไม่ผ่านก็ได้ อย่าเพิ่งกังวลใจไปน้าาา แค่ตั้งสติและรู้ว่าควรทำขั้นตอนไหนก่อนหลังการทำใบอนุญาตขับขี่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ลองค่อยๆ ดูแต่ละขั้นตอนว่าเป็นยังไง? มีอะไรต้องรู้บ้าง? ไปทีละสเตป ซึ่งสิ่งสำคัญอีกอย่างนอกเหนือจากใบขับขี่ก็ยังมีเรื่องการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ด้วย จะเลือกซื้อที่ไหนเพื่อเพิ่มความอุ่นใจได้ทุกเส้นทาง ไปดูแนวทางเรื่องใบขับขี่ทำยังไงกับเทคนิคเลือกซื้อประกันได้เลย
สำหรับขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่ทั้งสำหรับมือใหม่หัดขับยังไม่เคยมีใบขับขี่และคนที่มีใบขับขี่เดิมอยู่แล้วแต่กำลังจะหมดอายุและต้องการต่อใบขับขี่ใหม่ มีอยู่ด้วยทั้งหมด 7 ขั้นตอน ได้แก่
สมาชิกใหม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและลงทะเบียนเสียก่อนถึงจะจองได้ เมื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียนเสร็จสิ้นให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้
1. เลือกสาขาที่ต้องการเข้ารับบริการ
2. มองหา “ประเภทงานบริการ” เลือก “งานใบอนุญาต”
3. เลือกประเภทใบอนุญาตขับขี่ “ใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคล”
4. เลือกเข้ารับบริการ “ทำใบอนุญาตขับรถใหม่”
5. เลือกประเภทยานพาหนะ
6. ต่อด้วยเลือกวันจองคิวและเวลาที่ต้องการเข้ารับบริการ
7. ยืนยันการจอง
เตรียมไม่เยอะอย่างที่คิดแค่บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงและใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น!
1. ทดสอบว่าตาบอดสีหรือไม่?
2. ทดสอบว่าสายตาทางลึกเป็นยังไง?
3. ทดสอบว่าสายตาทางกว้างเป็นอย่างไร?
4. ทดสอบว่าปฏิกิริยาทางเท้าตอบสนองไวหรือเปล่า?
อบรมไม่นานเลยนะทุกคน! แถมไม่ได้ลากยาวต่อเนื่องด้วย แต่แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงเช้าเวลา 09.30-12.00 น. และช่วงบ่าย 13.00-15.30 น. รวมกันแค่ 5 ชั่วโมง เข้ารับอบรมกันได้แบบสบายๆ เลย ส่วนเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับกฎหมายจิตสำนึก มารยาทในการขับรถรวมไปถึงข้อควรปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน การให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาจฟังดูยากสักหน่อยแต่เพื่อการขับขี่ปลอดภัยยังไงก็คุ้ม!
เราต้องทำการทดสอบข้อเขียนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์จำนวนทั้งหมด 50 ข้อและต้องผ่านเกณฑ์ 90% หรือทำข้อสอบได้มากกว่า 45 ข้อขึ้นไป
แบบทดสอบทำใบขับขี่ภาคปฏิบัติมีหลักเกณฑ์ในการวัดผลง่ายมากแค่ 3 ท่า คือ ขับรถเดินหน้า / ถอยหลังในทางตรง, ขับรถเดินหน้า / หยุดรถเทียบทางเท้าและขับรถถอยหลังเข้าจอด / ออกจากช่องว่างด้านซ้าย (สำหรับรถยนต์) ทดสอบขับรถทรงตัวบนทางแคบ, ขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรและขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัว z (สำหรับสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์) ก่อนไปฝึกสักหน่อยก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
หากเราเข้าฝึกอบรมตามเวลาที่กำหนดและผ่านทุกการทดสอบ จะสามารถชำระเงิน ถ่ายรูปและขอรับใบอนุญาตขับขี่ (อายุ 2 ปี) ไปใช้ในการขับขี่บนท้องถนนได้ทันที!
1. ใช้เวลาทําใบขับขี่ 2568 กี่วัน? : ทั้ง 7 ขั้นตอนที่กล่าวไปจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน
2. ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? : ต้องเตรียมประมาณ 105-205 บาท แบ่งเป็นค่าทำใบขับขี่ กรณีรถยนต์ จะอยู่ที่ 200 บาท กรณีรถจักรยานยนต์ จะอยู่ที่ 100 บาทและค่าคำขอ 5 บาท
3. ใบขับขี่มีอายุกี่ปี? : ทำครั้งแรกมีอายุ 2 ปี (ใบขับขี่ชั่วคราว) แต่หากต่อใบขับขี่ใบต่อไปจะมีอายุ 5 ปี กรณีถือครองครบ 1 ปี สามารถปรับเป็น 5 ปีได้โดยไม่ต้องรอให้ครบ 2 ปีได้หากต้องการ
4. ทำใบขับขี่แล้วต้องทำประกันรถยนต์ออนไลน์ไหม? : จำเป็นต้องทำหรือต่อประกันรถยนต์ (สำหรับคนที่มีประกันใกล้หมดอายุ) เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ยิ่งมือใหม่หัดมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงยิ่งต้องซื้อ ควรเลือกชั้นไหน? แนะนำชั้นสูงสุดอย่างประกันชั้น 1 ไปเลย! จะได้คุ้มครองครอบคลุมทุกความเสี่ยง ถ้าจะให้ดีเลือกทำกับ insurverse ดีที่สุดประกันออนไลน์ที่เคลมง่าย บอกหมดทุกเงื่อนไขการทำประกัน ที่สำคัญเป็นบริษัทประกันที่มั่นคงมาก อุ่นใจเรื่องชีวิตและทรัพย์สินได้ชัวร์!
หลังจากทำใบขับขี่ใหม่เสร็จแล้ว อย่าลืมซื้อหรือต่อประกันรถยนต์ไว้ด้วยนะ เพราะมือใหม่มีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันค่อนข้างสูง จากความไม่คุ้นชิน ความกลัวหรือความกังวลขณะขับขี่ แม้เราจะไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ควบคุมได้ยากด้วยหรือหากไม่รู้จะซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ไหนดี? นี่เลยประกันรถยนต์ออนไลน์ราคาถูกของ insurverse จ่ายแค่ไม่กี่พันแต่ได้รับความคุ้มครองไปเลยหลักแสนของแทร่! เวลาขับขี่ออกไปบนท้องถนนจะได้มีความมั่นใจมากขึ้นว่านอกจากจะไม่ทำผิดกฎหมายด้วยการพกใบอนุญาตใบขับขี่แล้ว ยังมีตัวช่วยคอยดูแลเคียงข้างตลอดเส้นทาง!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง