อุบัติเหตุบนทางด่วน เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นทางที่สัญจรด้วยความเร็วมากกว่าปกติ จึงทำให้มีเหตุรถชนบนทางด่วน หรือรถคว่ำบนทางด่วนอยู่เป็นประจำ หากคุณเป็นคนที่ใช้รถใช้ถนน และต้องอาศัยทางด่วนในการเดินทางตลอด มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น มาดูกันดีกว่า
รถชนบนทางด่วน ไม่สามารถเรียกประกันมาเคลียร์โดยตรงได้ แต่สามารถถ่ายรูปเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุ และโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ประกันเรื่องการเคลม หลังจากนำรถลงมาจากทางด่วนที่เกิดเหตุทีหลังได้
หากอุบัติเหตุรถชนบนทางด่วนเกิดขึ้น ต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อความปลอดภัยให้ไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และยังคงรักษาผลประโยชน์ในกรณีที่รถเราทำประกันเอาไว้ เรามาไล่ดูไปทีละขั้นตอนกัน
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนบนทางด่วน คือการเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อขอทาง และขับประคองรถเข้าบริเวณไหล่ทางไม่ให้กีดขวางการจราจร
เมื่อประคองรถเข้าจอดบริเวณไหล่ทางเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทางด่วน ตามเบอร์ฉุกเฉินด้านล่างนี้ และรอความช่วยเหลือมาถึงโดยไม่ควรลงจากรถเพราะอาจเกิดอันตรายได้
ทีมกู้ภัยที่ติดต่อไป จะเข้ามาช่วยเหลือ และประเมินสถานการณ์ให้ ว่ารถคุณหรือคู่กรณีเสียหายหนักแค่ไหน จำเป็นต้องใช้รถลากจูงหรือเปล่า
ในระหว่างที่ทีมกู้ภัยให้ความช่วยเหลืออยู่ คุณสามารถโทรหาบริษัทประกันภัยเพื่อขอคำแนะนำต่างๆ รวมไปถึงการนัดหมายสถานที่ในดำเนินเรื่องเคลมประกันรถยนต์หลังลงจากทางด่วน
เมื่อรถถูกนำลงมาจากทางด่วนตามจุดนัดหมาย ให้ทำการเคลมประกันกับเจ้าหน้าที่ และรอใบเคลมเพื่อใช้ในการนัดซ่อมกับอู่ในเครือบริษัทตามขั้นตอนปกติ
เพราะเจ้าหน้าที่ประกันส่วนใหญ่ใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะหลักในการเดินทาง ทำให้ไม่สามารถขับขี่ขึ้นมาบนทางด่วนได้ ตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่ห้ามจักรยานยนต์วิ่งในช่องทางพิเศษ
หลังจากที่ทราบถึงเงื่อนไขในการโทรเรียกประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนกันไปแล้ว อย่าลืมว่า การปฏิบัติตามกฎการใช้รถบนช่องทางด่วนอย่างเคร่งครัด ก็เป็นอีกทางที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง