การเลือกทำประกันรถยนต์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีรถขับขี่ก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมจ่ายเงินทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เสมอ และด้วยเหตุนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จึงเป็นตัวเลือกสำรองที่ใครหลาย ๆ คนกำลังมองหา เพราะให้ความคุ้มครองเกือบเทียบเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 และจ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่า ทำให้ประหยัดงบได้มากกว่า และตอบโจทย์กับคนที่ขับรถจนชำนาญแล้ว เรามาดูกันว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองคุณอย่างไรบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถ้าจะให้เปรียบเทียบง่าย ๆ คงต้องพูดถึงประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองได้ครบ ทั้งการชน แบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี คุ้มครองในส่วนของการเกิดความเสียหายกับตัวรถอย่าง รถไฟไหม้ น้ำท่วม หรือรถหาย และคุ้มครองคู่กรณีและคนขับ ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล และความเสียหายต่อตัวรถของคู่กรณี
ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 1 เพียงแต่ในเรื่องของการชน ต้องเป็นการชนแบบมีคู่กรณี เท่านั้น หากชนแบบไม่มีคู่กรณีเช่น ชนเสาไฟฟ้า ชนกำแพง จะไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้นั่นเอง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะเหมาะกับผู้ที่ขับรถได้ชำนาญในระดับหนึ่ง มั่นใจได้ว่าจะไม่ขับชนแบบไม่มีคู่กรณี โดยทั่วไปการขับรถชนแบบไม่มีคู่กรณีจะเกิดจากความไม่ชำนาญในการขับรถมากนัก แต่เมื่อขับรถได้อย่างชำนาญแล้ว จึงไม่กังวลในการเกิดการชนแบบไม่มีคู่กรณี ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จึงตอบโจทย์ในส่วนนี้ และรถที่เหมาะกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือรถที่ออกมาได้ประมาณ 5-7 ปี โดยประมาณ เพราะถ้ารถใหม่กว่านี้เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะดีกว่า แต่ถ้ามีงบที่จำกัดจริง คุณอาจเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ใน 2 ปีแรก แล้วเปลี่ยนมาทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ได้เช่นเดียวกัน
แม้ว่าจะเป็นรองจากประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่บอกได้เลยว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ดีไม่แพ้กันเลย โดยมีข้อดีดังนี้
หากคุณตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ insurverse ที่มีประกันรถยนต์ชั้น 2+ พร้อมเบี้ยประกันที่ถูก พร้อมส่วนลดให้กับคุณ รถทุกรุ่นสามารรถเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับเราได้ พร้อมรับความคุ้มครองแบบเต็มกรมธรรม์ ให้คุณประหยัดงบของคุณ พร้อมมอบความอุ่นใจในการขับขี่ทุกการเดินทาง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่าตัวเลขถังรถกันมาบ้าง แต่หลายคนที่ใช้รถยนต์อาจยังไม่รู้ความหมายว่าคืออะไร? แล้วเลขตัวถังรถอยู่ตรงไหน? ไปดู
คนที่ใช้รถยนต์ทุกคนคงเคยประสบปัญหาคราบติดรถรวมทั้งคราบสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยไว้นานๆ ไม่รีบดูแล คราบเหล่านั้นก็จะทำลายสีรถยนต์จนกลายเป็นปัญหา
หนึ่งในเรื่องที่คนใช้รถเคยสงสัยกันก็คือ ทางเอก ทางโท ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่าอะไรคือทางเอกและอะไรคือทางโท แล้วจะสังเกตยังไง