vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คืออะไร ชดเชยเท่าไหร่

ใช้รถต้องรู้! ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คืออะไร ชดเชยเท่าไหร่

schedule
share

ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่า ในระหว่างที่เกิดอุบัติแล้วต้องนำรถไปทิ้งไว้เพื่อซ่อมแซม ค่าเดินทางที่เราใช้จ่ายไปในแต่ละวันโดยที่ไม่มีรถใช้ล่ะ เราสามารถเรียกร้องอะไรจากบริษัทประกันรถยนต์ได้บ้าง หรือจำเป็นจะต้องออกเองทั้งหมดในส่วนนี้ จริง ๆ แล้ว ค่าขาดประโยชน์คือสิ่งที่คนไม่มีรถใช้ระหว่างซ่อม สามารถเรียกร้องกับบริษัทประกันให้ชดเชยได้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทำได้ เลยทำให้เสียผลประโยชน์ไปโดยไม่รู้ตัว วันนี้ทาง insurverse จะมาอธิบายถึงเรื่องนี้ให้ได้เข้าใจตรงกัน 

พาทำความเข้าใจ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินชดเชยที่สามารถเรียกร้องได้ จากบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในระหว่างที่ไม่มีรถใช้งานในชีวิตประจำวันจากการรอตรวจเช็กสภาพ หรือซ่อมแซมระหว่างเคลมประกัน

กรณีไหนบ้าง ที่เรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้

หลายคนอาจจะยังสงสัย แล้วกรณีไหนบ้าง ที่สามารถร้องขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ได้ ซึ่งปกติก็จะมีเพียง 2 กรณีเท่านั้นที่ทำให้รถเกิดความเสียหาย นั่นก็คือ การชนแบบมีคู่กรณี และการชนแบบไม่มีคู่กรณี เรามาดูกันว่าแบบไหนสามารถเรียกร้องค่าชดเชยส่วนนี้ได้

รถชนแบบมีคู่กรณี

หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการชนแบบมีคู่กรณีแล้วเราเป็นฝ่ายถูก ไม่ว่าเราจะมีประกันภัยรถยนต์หรือไม่ก็ตาม เราสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับทางบริษัทประกันภัยคู่กรณีได้เลย และหากคู่กรณีไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ เราก็ยังสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์กับทางคู่กรณีได้โดยตรงเหมือนกัน เพียงแต่ต้องทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมา และระบุให้ชัดเจนถึงรายจ่ายเรื่องค่าเดินทางในแต่ละวัน พร้อมระยะเวลาในการชดเชยจากทางคู่กรณี เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันคู่กรณีไม่ยอมชดเชย 

รถชนแบบไม่มีคู่กรณี

แต่หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณีแล้วล่ะก็ อาจจะไม่สามารถเรียกค่าขาดประโยชน์ได้ เพราะเงินชดเชยส่วนนี้จะเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีที่ผิดเท่านั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่คนใช้รถควรจะมีกล้องติดรถยนต์เอาไว้ เพราะหากเกิดเหตุชนแล้วหนี อย่างน้อยก็ยังสามารถตามรถคู่กรณีจากป้ายทะเบียนที่ถูกบันทึกภาพไว้ได้ แล้วค่อยทำการดำเนินการแจ้งความ พร้อมกับหลักฐานส่วนอื่น ๆ และเมื่อระบุตัวคู่กรณีได้ ก็จะสามารถดำเนินคดี พร้อมกับเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้เช่นกัน 

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เรียกได้เท่าไหร่

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการกำหนดค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในอัตราขั้นต่ำไว้ ดังนี้ 

  • รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะต้องชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท
  • รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะต้องชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 700 บาท
  • รถยนต์ขนาดเกิน 7 ที่นั่ง จะต้องชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท 
  • รถที่ไม่เข้าข่ายทั้ง 3 ประเภทด้านบน ให้ชดเชยไปตามข้อเรียกร้องที่ตกลงกันได้ ตามการพิจารณาหลักฐานประกอบ อย่างเอกสารในการใช้รถ และเอกสารค่าเดินทางต่าง ๆ 

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ นับวันยังไง

การนับวันค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่รถเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือวันที่นำรถเข้าอู่ซ่อม โดยจะนับรวมวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดราชการแบบไม่มีข้อยกเว้น 

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สูงสุดกี่วัน 

โดยพื้นฐานแล้ว บริษัทประกันจะมีการประเมินเบื้องต้น ในการนำรถเข้าซ่อมเป็นระยะเวลาไม่เกิน 20 – 30 วัน แต่หากได้รับความเสียหายหนัก และจำเป็นจะต้องรอการสั่งอะไหล่ทดแทน หรืออู่ที่รับซ่อมมีคิวยาว จะสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเพิ่มขึ้นได้ สูงสุดที่ 90 วัน แต่ต้องเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง 

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ กี่วันถึงได้เงิน

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 7 วันทำการ หลังจากยื่นร้องขอค่าชดเชยกับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์คู่กรณีฝ่ายที่ผิด พร้อมกับการส่งเอกสาร และหลักฐานที่จำเป็นทั้งหมดอย่างครบถ้วน 

เอกสารในการร้องขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 

ในส่วนของเอกสารที่ใช้ในการร้องขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ อาจจะมีความแตกต่างกันไปในบริษัทประกันภัยรถยนต์แต่ละเจ้า แต่โดยเบื้องต้น จะมีทั้งหมดประมาณนี้ 

  • สำเนาทะเบียนรถยนต์
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาใบขับขี่รถยนต์
  • สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
  • สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร
  • เอกสารใบเคลมประกัน
  • เอกสารการนำรถยนต์เข้าซ่อม พร้อมวันกำหนดส่งรถ – รับรถ
  • เอกสารประกอบการใช้รถยนต์ในแต่ละวัน
  • ใบเสร็จค่าเช่ารถ หรือค่าเอกสารค่าใช้จ่ายในการเดินทางประจำวันทั้งหมด 

ขั้นตอนในการเคลมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ขั้นตอนในการเคลมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ในการเคลมค่าขาดประโยชน์ สามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลย 

  • แจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์คู่กรณี เพื่อแจ้งความต้องการในการเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
  • นำรถยนต์เข้าซ่อมที่อู่ หรือศูนย์บริการ พร้อมยื่นใบเคลมเพื่อแจ้งซ่อม และเก็บเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดไว้ให้ครบถ้วน
  • แจ้งศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมที่นำรถไปทิ้งไว้ ให้ทำการถ่ายรูปในระหว่างซ่อมส่งมาให้ เพื่อใช้แนบในแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 
  • รับรถที่ซ่อมเสร็จ พร้อมขอสำเนาใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบที่ระบุวันเวลาไว้อย่างชัดเจน
  • รวบรวมใบเสร็จ หรือเอกสารค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการเดินทางระหว่างรอซ่อม เช่น ค่ารถเมล์ ค่ารถแท็กซี่ ค่ารถไฟฟ้า และอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 
  • จัดเตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบ ก่อนยื่นเอกสารให้กับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์เพื่อเบิกเงินชดเชย

ซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์กับทาง insurverse ออนไลน์ในราคาเพียง 499 บาท รับความคุ้มครองทันที

นอกจากประกันภัยรถยนต์ ที่คนใช้รถไม่ควรจะขาดต่อเพื่อรับความคุ้มครองแล้ว พ.ร.บ. รถยนต์ ก็เป็นอีกสิ่งที่คนมีรถไม่ควรขาดต่อเช่นกัน เพราะจะทำให้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีไม่ได้ ใครที่กำลังมองหา พ.ร.บ. รถยนต์ ราคาถูก ซื้อง่าย พร้อมรับกรมธรรม์ออนไลน์ทางอีเมลทันที มาซื้อกับทาง insurverse ดีกว่า เพราะที่นี่ถูกชัวร์ โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 499 บาทเท่านั้น 

*ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 ธันวาคม 2567*

พรบ รถยนต์ ราคาถูก

สรุปบทความ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คืออะไร ชดเชยเท่าไหร่

การทำเข้าความใจถึงผลประโยชน์ที่ควรจะได้ในการทำประกันรถยนต์ คืออีกสิ่งสำคัญที่คนใช้รถไม่ควรปล่อยผ่าน และต้องออกค่าใช้จ่ายเองโดยไม่จำเป็น เพราะนี่เป็นสิทธิที่คนทำประกันภัยรถยนต์ทุกคนควรจะได้ หากครั้งหน้ามีเหตุการณ์เฉี่ยวชนขึ้นอีก แล้วเราเป็นฝ่ายถูก ทุกคนอย่าลืมร้องขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกันนะ

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)