อาการรถเร่งไม่ขึ้นมีโอกาสเกิดกับทั้งรถยนต์ใหม่ และเก่า เนื่องจากเครื่องยนต์เริ่มทำงานไม่เป็นปกติ ซึ่งมีสาเหตุได้หลายข้อ ถ้าหากเราสามารถรับรู้หรือพอที่จะคาดเดาสาเหตุของอาการรถเร่งไม่ขึ้นได้ จะช่วยให้เราบอกช่างเพื่อทำการแก้ไขซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ แต่ทั้งนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ดูจะมีปัญหากวนใจมากกว่าเดิม หากรถเร่งไม่ขึ้น แล้วยังมีสัญลักษณ์ไฟเครื่องยนต์โชว์ขึ้นมาบนหน้าปัดอีก แบบนี้ต้องหาสาเหตุแยกย่อยเพิ่มเติมกันไปอีก แน่นอนว่า insurverse มีข้อมูลวิเคราะห์มาให้หมดแล้วในบทความนี้!
สาเหตุที่รถเร่งไม่ขึ้นเราสามารถประมาณการได้ 7 สาเหตุ คือ น้ำมันเครื่องเกินกำหนดเปลี่ยนถ่าย, หัวเทียนเสื่อมสภาพ, กรองอากาศสกปรก. กรองน้ำมันอุดตัน, น้ำมันเกียร์รั่วซึม, ระบบเกียร์ไม่ตอบสนอง และหัวฉีดน้ำมันอุดตัน โดยในแต่ละสาเหตุมีรายละเอียดอย่างไร ต้องแก้ไขปัญหาที่จุดไหน ลองมาหาคำตอบไปพร้อมกัน
น้ำมันเครื่องเก่าจนเกินกำหนดเปลี่ยนถ่าย ทำให้มีสภาพที่เริ่มหนืด และดำ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างไม่เต็มกำลัง สุดท้ายจึงออกอาการรถเร่งไม่ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา น้ำมันเครื่องควรจะต้องได้รับการเปลี่ยนถ่ายทุก ๆ 8,000 – 10,000 กิโลเมตรเป็นประจำ
กรณีที่หัวเทียนเสื่อมสภาพจะทำให้ไม่สามารถจุดระเบิดเครื่องยนต์ได้ตามปกติ อีกทั้งยังทำให้สมรรถภาพของเครื่องยนต์ทำงานถดถอยลงด้วย ดังนั้นจึงควรได้รับการเปลี่ยนให้เรียบร้อย เพื่อแก้อาการรถเร่งไม่ขึ้นเมื่อมีปัญหามาจากหัวเทียนโดยตรงนั่นเอง
กรองอากาศสกปรก เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้นได้เช่นกัน เพราะการจุดระเบิดเครื่องยนต์ต้องใช้อากาศ ถ้าเมื่อไหร่ที่กรองอากาศอุดตัน อากาศไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ตามปกติ ก็จะทำให้การจุดระเบิดผิดปกติ รวมถึงเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่ สุดท้ายกลายเป็นรถอืด วิ่งไม่ออก ควรได้รับการเปลี่ยนทุก 20,000 กิโลเมตร หรือใครใช้งานรถยนต์ในที่ก่อสร้าง ฝุ่นเยอะ อาจเปลี่ยนได้ก่อนไม่ต้องรอระยะตามกำหนด
กรองน้ำมันอุดตันจากการกรองสิ่งสกปรกในน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลให้รถเร่งไม่ขึ้น มีอาการในลักษณะรถกระตุก เร่งไม่ขึ้น ควรได้รับการเปลี่ยนกรองน้ำมันตรงนี้ทุก ๆ 2 ปี เพื่อเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
น้ำมันเกียร์รั่วซึมเราสามารถสังเกตได้ในช่วงเวลาที่จอดรถนิ่งสนิท จะเห็นคราบน้ำมันอยู่บนพื้นใต้ท้องรถ หากพบเจอสถานการณ์แบบนี้ บวกกับมีอาการรถเร่งไม่ขึ้นร่วมด้วย ควรเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ใกล้บ้าน เพื่อแจ้งรายละเอียด และทำการเปลี่ยนบริเวณที่รั่วซึมโดยเร็ว
ระบบเกียร์ไม่ตอบสนอง สาเหตุนี้อาจเกิดขึ้นได้โดยมีทั้งแบบที่ไม่ร้ายแรง และร้ายแรง กรณีแรกแบบไม่ร้ายแรง คือ เมื่อเข้าเกียร์แล้วรถเร่งไม่ขึ้น ถอยไม่ไป ต้องรีบเช็กระบบเกียร์ทันที ในขั้นต้นอาจได้เปลี่ยนคลัตช์เพียงอย่างเดียว แต่ในกรณีที่ร้ายแรง คือ ระบบเกียร์พัง ต้องได้เปลี่ยนเกียร์แบบยกลูก
หัวฉีดน้ำมันอุดตัน ทำให้ไม่สามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ดีพอ จนเกิดเป็นอาการรถกินน้ำมัน รถสะดุด เร่งไม่ขึ้น วิธีแก้ปัญหาโดยตรงนั้นจะต้องทำความสะอาดระบบหัวฉีดน้ำมันที่มีปัญหาให้เรียบร้อย และจะสามารถแก้อาการรถเร่งไม่ขึ้นได้ในที่สุด
คราวนี้ลองมาดูเพิ่มเติมกับสาเหตุรถเร่งไม่ขึ้น พร้อมกับมีไฟเครื่องยนต์โชว์ขึ้นที่หน้าปัด ซึ่งมีสาเหตุที่แตกต่างจากเดิมประมาณ 5 สาเหตุด้วยกัน คือ มีปัญหาที่ท่อแคทตาไลติก, เซนเซอร์วัดมวลอากาศสกปรก, คอยล์จุดระเบิดมีปัญหา, หัวฉีดน้ำมันอุดตัน และวาล์วน้ำมีปัญหา รายละเอียดของสาเหตุพร้อมวิธีแก้ปัญหามีดังนี้
ปัญหาท่อแคทตาไลติกอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้น หรือกระตุกได้ เพราะเมื่อเราใช้งานมาได้สักระยะหนึ่ง ก็จะเกิดอาการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน และต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อให้ระบบรถยนต์กลับมาทำงานได้ตามปกติ
เซนเซอร์วัดมวลอากาศสกปรก หรือ เซนเซอร์วัดระบบออกซิเจนมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพไอเสียที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์ได้ ซึ่งระบบนี้จะทำงานควบคู่กับกล่อง ECU พอมีปัญหาจึงเกิดเป็นอาการกระตุกเร่งไม่ขึ้น ถ้าเราทำการเปลี่ยนใหม่จะช่วยแก้สาเหตุรถเร่งไม่ขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ต้องได้รับการตรวจสอบโดยละเอียดจากช่างอีกทีหนึ่ง
คอยล์จุดระเบิดมีปัญหา ส่วนใหญ่มาจากการเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานมาอย่างยาวนาน จนออกอาการชัดเจนเป็นรถสะดุด เร่งไม่ขึ้น หรือบางครั้งอาจเกิดอาการรถเร่งไม่ขึ้นต่อเนื่อง และเครื่องยนต์ดับได้เลย ถ้าเราทำการเปลี่ยนตัวคอยล์จุดระเบิดใหม่ ไฟเครื่องยนต์ที่แสดงขึ้นมาจะหายไป และช่วยแก้อาการดังกล่าวได้เช่นกัน
หัวฉีดน้ำมันอุดตันนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้น รถอืด ซึ่งถ้ามาจากสาเหตุนี้จะมีไฟเครื่องยนต์โชว์ขึ้นที่หน้าปัดด้วย ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้จะต้องนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมรถยนต์ เพื่อทำการล้างหัวฉีดใหม่ทั้งระบบ หรือมีการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเชื้อเพลิงทั้งระบบ โดยเฉพาะในรถยนต์ที่ใช้โซฮอล์ และไบโอดีเซล และจะต้องมีการทำความสะอาดแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับรถยนต์ที่มีการใช้พลังงานทดแทน
วาล์วน้ำมีปัญหา ทำให้ระบบควบคุมการไหลของน้ำหล่อเย็นทำงานไม่เป็นปกติ อาจควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ และส่งผลต่อเนื่องไปยังระบบเครื่องยนต์ หม้อน้ำ และท่อยาง พอกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์โดยตรง จึงมีส่วนทำให้รถเร่งไม่ขึ้น และถ้าเราทำการซ่อม หรือเปลี่ยนวาล์ว จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด
โดยรวมแล้วปัญหารถเร่งไม่ขึ้น ส่วนมากอาจมาจากการเสื่อมสภาพของระบบการทำงานหรืออุปกรณ์ภายในรถยนต์ ดังนั้นคนที่ใช้งานรถยนต์เป็นประจำต้องดูแล เอาใจใส่ หมั่นนำรถยนต์เข้าเช็กสภาพเป็นประจำ เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ส่วนในมุมมองเรื่องความอุ่นใจในการขับขี่ อาจต้องพิจารณาเลือกทำประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อให้เข้ามาช่วยคุ้มครองการดูแลอย่างครอบคลุมหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ค่าซ่อมแซมรถยนต์ และความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันทุกคนสามารถเลือกทำประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ กับทาง insurverse โดยตรง เพราะเราเปิดโอกาสให้ทุกคนปรับราคาได้ตามงบในกระเป๋า พร้อมกับการเลือกความคุ้มครองได้จนกว่าคุณจะพอใจ รวมถึงการเปรียบเทียบประเภทประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, 2 หรือ 3 ให้คุณได้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจ พอมีโอกาสได้เช็กจนชัวร์แล้ว คุณก็จะได้รับการดูแลจากประกันรถยนต์ที่ดีและตอบโจทย์คุณมากที่สุดนั่นเอง หากสนใจอยากสอบถามหรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เบอร์ 02-842-9899
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
แหนบรถยนต์ช่วยรองรับน้ำหนัก ดูดซับแรงกระแทก และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รู้จักหน้าที่ของแหนบและวิธีดูแลจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน
ปีกนกรถยนต์อยู่ใต้ท้องรถกว่าที่จะรู้ว่ามีปัญหาก็อาจทำให้ความเสียหายลุกลามไปยังจุดอื่น ๆ ของช่วงล่าง ควรตรวจเช็กตามระยะและเปลี่ยนอะไหล่ตามวงรอบ
รู้สัญญาณเตือนก่อนถ่านรีโมทรถยนต์จะหมด พร้อมแนะนำเลือกถ่านรีโมทแบบไหนให้เหมาะกับรุ่นรถและควรทำอย่างไรหากถ่านรีโมทหมดกะทันหัน