vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
อยากทำประกันถยนต์ ต้องทำประกันชั้นไหน?

อยากทำประกันรถยนต์ ต้องทำประกันชั้นไหน เผยความแตกต่างของประกันแต่ละชั้น

schedule
share

ประกันรถยนต์ เป็นประกันภัยภาคสมัครใจ ที่ไม่ได้มีการบังคับใช้ทางกฎหมาย ถือเป็นทางเลือกความคุ้มครองที่ผู้ใช้รถใช้ถนนเลือกที่จะทำให้กับรถยนต์คู่ใจ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย สามารถปรับแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการ ทำให้สามารถขับขี่บนท้องถนนได้อย่างอุ่นใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น

ความแตกต่างของประกันรถยนต์

ความแตกต่างของประกันรถยนต์

การทำประกันรถยนต์มีให้เลือกอย่างหลากหลาย แตกต่างกันไปตามความคุ้มครองที่ได้รับ และเบี้ยประกันรถยนต์ที่จะต้องจ่าย ซึ่งประกันรถยนต์ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มีดังนี้

ประกันรถยนต์ชั้น 1

เป็นประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งตัวบุคคล และรถยนต์ในแทบทุกกรณี 

  • ให้ความคุ้มครองต่อรถยนต์ที่ทำประกัน ทั้งในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีด้วย ไม่ว่าจะเป็น รถสูญหาย น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือขับรถชนฟุตบาท 
  • ให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สิน ร่างกายและชีวิตของคู่กรณีและบุคคลภายนอก ที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะรับผิดชอบโดยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามจริง แต่จะไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวบุคคลทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำประกันและคู่กรณีหรือบุคคลภายนอก รวมถึงเงินค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญาอีกด้วย

ประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ ผู้ขับขี่ทั่วไป รถที่ใช้งานทุกวัน รถที่ขับออกต่างจังหวัดบ่อย หรือรถที่ต้องวิ่งไกล ๆ เป็นประจำ

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

เป็นประกันรถยนต์ที่มีราคาถูกลงมา แต่ได้รับความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1  

  • คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ ในการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น รวมถึงในกรณีที่รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม
  • ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก โดยจะชดเชยค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงการประกันตัวผู้ขับขี่จากคดีความที่ต้องขึ้นศาล

ประกันชั้น 2+ เหมาะสำหรับคนที่มีความชำนาญในการขับขี่บนท้องถนนมาพอสมควรแล้ว และรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี

ประกันรถยนต์ชั้น 2 

เป็นประกันรถยนต์ที่ไม่มีความคุ้มครองสำหรับผู้เอาประกันภัย

  • คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้สำหรับตัวรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้โดยสารรถยนต์คู่กรณี รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
  • คุ้มครองความเสียหายรถยนต์เฉพาะของคู่กรณี

ประกันชั้น 2 เหมาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์น้อย และมีความเสี่ยงภัยน้อยในการใช้งานประจำวัน เหมาะกับผู้ที่ความเสี่ยงเฉพาะภัย เช่น การสูญหายหรือไฟไหม้มากกว่า

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

เป็นประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองในรูปแบบที่คล้าย ๆ กับประกันชั้น 2+ 

  • คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ ในการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น
  • ไม่คุ้มครองรถยนต์ในกรณีที่รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม
  • คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต และการประกันตัวผู้ขับขี่จากคดีความที่ต้องขึ้นศาล

ประกันชั้น 3+ เหมาะสำหรับรถที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย ไม่ได้ขับออกไปไกล ๆ รถเก่าอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีความเสี่ยงน้อยต่อการเกิดอุบัติเหตุ 

ประกันรถยนต์ชั้น 3 

เป็นประกันรถยนต์ที่เข้าถึงง่ายและมีราคาถูกที่สุด 

  • คุ้มครองผู้ขับขี่จากความรับผิดชอบทางกฎหมายเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน และรับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองผู้ขับขี่จากความรับผิดชอบทางกฎหมายสำหรับความเสียหายต่อสุขภาพของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถ ไม่ว่าจะเป็น อาการบาดเจ็บทางร่างกาย จนถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

ประกันชั้น 3 เหมาะสำหรับรถที่แทบไม่ได้ใช้งานเลย โดยอาจจะเป็นรถที่มีอายุการใช้งานมากแล้ว หรือผู้ขับขี่ที่มั่นใจในการขับขี่ของตนเอง

ความแตกต่างของประกันรถยนต์

บทสรุป

ประกันรถยนต์แต่ละประเภท มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ ราคาเบี้ยประกันที่ต่างกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดในการทำประกันรถยนต์ เพราะจะสามารถเลือกความคุ้มครองให้เหมาะสม และคุ้มค่ากับราคาเบี้ยประกันที่ต้องการได้เลย ดังนั้น จึงควรเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันและความคุ้มครองทุกครั้งก่อนตัดสินใจ

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)