หากพูดถึงรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคงขาดรถเก๋งไปไม่ได้ เพราะมีการใช้งานกันเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่สวย เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน ที่สามารถขับขี่ไปทำงานได้ทุกวัน เรียกได้ว่าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งรถมือ 1 และรถมือ 2 เลยทีเดียว และสำหรับการออกรถเก๋งมือ 1 มาใหม่นั้น ก็มีสิ่งที่ควรตรวจสอบให้ดีในวันรับรถ เพื่อลดปัญหาที่อาจจะตามมาได้
เมื่อทำการซื้อรถเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรทำในวันรับรถ คือการตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ป้องกันการเกิดปัญหาตามมาแล้วจะยากต่อการจัดการหากมีการนำรถออกไปใช้งานแล้ว โดยมีลิสต์ที่ควรเช็กให้ละเอียด ดังนี้
การซื้อรถเก๋งมือ 1 ก็ควรจะทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ควบคู่กันไปด้วย เพราะนอกจากจะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมแล้ว ยังสร้างความอุ่นใจ และสบายใจได้แม้เป็นนักขับมือใหม่ โดยประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองหลัก ๆ ดังนี้
เมื่อเกิดความบาดเจ็บทางร่างกายแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ หรือเกิดความเสียหายร้ายแรง เช่น ทุพพลภาพถาวรจนไม่สามารถทำงานได้หรือถึงขั้นเสียชีวิต ก็จะได้รับค่าชดเชย โดยความคุ้มครองจะให้สูงสุดตามกรมธรรม์ และจะได้รับวงเงินสำหรับการประกันตัวผู้ขับขี่
สำหรับคู่กรณีในอุบัติเหตุนั้น ๆ จะได้รับเงินชดเชยทั้งค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงเงินชดเชยในกรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงที่เกิดจากอุบัติเหตุ และหากคู่กรณีเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินชดเชยเยียวยาให้สูงสุดตามกรมธรรม์
คุ้มครองค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการขับรถชนเสาไฟฟ้า ขับรถชนต้นไม้ ถูกโจรกรรม เจอภัยทางธรรมชาติต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หินตกใส่ รวมทั้งจ่ายเงินชดเชยให้กับร้านค้าของบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายด้วย
ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ หรือผู้ที่มีความชำนาญในการขับขี่อยู่แล้ว แต่การออกรถใหม่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุบนท้องถนนมากมายอยู่ดี การทำประกันรถยนต์ก็เหมือนเป็นตัวช่วยในการดูแลรถยนต์อีกขั้นหนึ่ง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ และที่สำคัญ ก่อนทำประกันภัยรถยนต์ อย่าลืมเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันให้ดีก่อนตัดสินใจ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง